แจกสูตร ผัดถั่วงอก ใส่เลือดหมู เมนูอร่อย ทำง่าย มีประโยชน์

        สูตรอาหาร ทำง่าย ของเราในวันนี้ บอกเลยว่าเป็นเมนูคู่ครัว คู่บ้าน ที่อร่อยได้ง่ายๆ ทั้งครอบครัวค่ะ นั่นก็คือ สูตรทำ ผัดถั่วงอก ใส่เลือดหมู เด็กๆ ทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี แฮปปี้ทั้งบ้าน แค่มีวัตถุดิบหลัก 2 อย่าง ถั่วงอก และ เลือดหมู ก็กลายเป็นเมนูอร่อยๆ ประจำบ้านได้แล้วล่ะค่ะ แถมยังเป็นเมนูที่มีประโยชน์มากอีกด้วย รู้แบบนี้แล้ว เริ่มอยากจะหาวัตถุดิบมาทำตามกันแล้วใช่มั้ยล้า ตามไปทำพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่า     

 

 

 

สูตรทำ ผัดถั่วงอก ใส่เลือดหมู

 

 ดูคลิปขั้นตอนและวิธีทำ ด้านล่าง 

ส่วนผสม ผัดถั่วงอก ใส่เลือดหมู

  1. เลือดไก่ 2 ก้อน
  2. ถั่วงอก 1 ถ้วย
  3. กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ
  4. ต้นหอมซอย 3 ต้น
  5. หมูบด 200 กรัม
  6. น้ำตาล ½ ช้อนชา
  7. น้ำปลา 2 ช้อนชา
  8. ซีอิ๊วขาว ½ ช้อนโต๊ะ
  9. พริกไทยป่น ½ ช้อนชา

วิธีทำ ผัดถั่วงอก ใส่เลือดหมู

  1. นำเลือดไปต้มและหั่นเป็นชิ้นพอดี
  2. เทน้ำมันสำหรับผัดลงไปในกระทะ เทกระเทียมสับลงไป ผัดให้สุกเหลืองหอม
  3. ใส่หมูบด ผัดให้สุก ตามด้วยใส่ถั่วงอก ผัดให้สุก
  4. เมื่อถั่วงอกสุกแล้ว ให้ปรุงรส ใส่น้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำตาล พริกไทยป่น คลุกให้เข้ากัน
  5. เมื่อถั่วงอกเริ่มนิ่มให้ใส่เลือดลงไป ทิ้งไฟไว้สักระยะหนึ่งให้เลือดมีความร้อนข้างใน แล้วใส่ต้นหอมซอยลงไปผัด ปิดไฟ ตักเสิร์ฟ

 

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก Youtube : TomJoke FoodTV

 

 

รวม 10 เมนูแซลมอนง่ายๆ อร่อยแบบได้โอเมก้า3

อาหารจานปลานั้นดีต่อร่างกาย ลองมาดู เมนูแซลมอนง่ายๆ อร่อยแบบได้ประโยชน์ เพราะแซลมอนนั้นเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี มีกรดไขมัน Omega 3 และวิตามิน D สูง ช่วยเสริมการทำงานของหลอดเลือด และ หัวใจ

รวม 10 เมนูแซลมอนง่ายๆ
อร่อยแบบได้โอเมก้า3

สูตรสเต็กแซลมอน อร่อยลงตัวข้าวผัดมะม่วงน้ำปลาหวาน

อ่านสูตรเพิ่มเติม — แชร์สูตร ข้าวผัดน้ำปลาหวาน สเต็กแซลมอน จากเชฟจ๋า Master Chef Thailand Season 2

⚫️ ⚪️ ⚫️

สูตรพายแซลมอน ซอสพาร์สลี่ย์
(Salmon in Parsley Sauce Pie)

ส่วนผสมพายแซลมอน ซอสพาร์สลี่ย์

  • ปลาแซลมอน 500 กรัม
  • มันฝรั่ง 3-4 หัว
  • ไข่ต้ม 4-5 ฟอง
  • วิปปิงครีม 100 มิลลิลิตร
  • เนยเค็ม (1) 100 กรัม
  • แป้งสาลี 20 กรัม
  • เนยเค็ม (2) 56 กรัม
  • นมสด (ร้อน) 350 มิลลิลิตร
  • พาร์สลีย์สับ 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ / พริกไทย
  • เลมอน

วิธีทำพายแซลมอน ซอสพาร์สลี่ย์

1.ต้มมันให้สุกบดให้ละเอียด ใส่วิปปิงครีมและเนยเค็ม (1) ลงไป ประมาณ 50-70 กรัม ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยเตรียมไว้

2.ทำพาร์สลีย์ซอส โดยละลายเนย (2) ลงกระทะใช้ไฟอ่อน ใส่rพาร์สลีย์สับลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่แป้งสาลีลงไป คนให้เข้ากัน ผัดด้วยไฟอ่อนประมาณ 3-5 นาที เทนมร้อนลงไปผสม ใช้ตะกร้อมือคนไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมข้นเป็นเนื้อเดียวกัน ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย

3.หั่นเนื้อปลาแซลมอนเป็นชิ้นพอคำ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และน้ำเลมอน วางเรียงในชามอบที่ทาเนยไว้ เทน้ำซอสร้อนๆ ลงไปบนเนื้อปลา นำไข่ต้มมาหั่นสี่วางเรียงลงไปให้เต็ม ตามด้วยมันบด นำไปอบในเตาอบที่อุณหภูมิ 180 -200 องศาเซลเซียส ประมาณ 30-40 นาที
เคล็ดลับดีๆ ไม่มีเม้ม

  • เคล็ดลับความอร่อย
    สามารถใส่ไวน์ขาวลงไปคลุกกับเนื้อปลาแซลมอนเพื่อเพิ่มรสชาติแทนน้ำเลมอนได้

⚫️ ⚪️ ⚫️

สูตรสเต็กแซลมอนซอสครีมจากหญ้าฝรั่น
(Salmon Steak with Saffron Cream)

ส่วนผสมสเต็กแซลมอนซอสครีม

  • ปลาแซลมอนขนาด 150 กรัม 2 ชิ้น
  • น้ำสต๊อกปลา 500 กรัม
  • หญ้าฝรั่น 2 กรัม
  • วิปปิงครีม 200 มิลลิลิตร
  • ไวน์ขาว 40 มิลลิลิตร
  • มันฝรั่ง 1 หัว
  • ผักโขม 300 กรัม
  • หอมหัวใหญ่สับ 75 กรัม
  • วิปปิงครีม 100 กรัม
  • น้ำมันมะกอก
  • เกลือ / พริกไทย

วิธีทำสเต็กแซลมอนซอสครีม

1. ทำซอสครีมหญ้าฝรั่น โดยต้มน้ำสต๊อกปลาให้ลดลงครึ่งหนึ่ง ใส่ไวน์ขาว วิปปิงครีม และ หญ้าฝรั่นลงไป คนให้เข้ากัน รอจนครีมเป็นสีเหลืองหญ้าฝรั่น ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย

2. นำมันฝรั่งมาหั่นตามขวางหนาประมาณ 2-3 มิลลิเมตร แล้วนำไปทอดให้สุกพักไว้ ผัดผักโขมกับหอมหัวใหญ่ให้เข้ากัน ใส่วิปปิงครีมลงไป ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย

3. ปรุงรสปลาแซลมอนด้วยเกลือและพริกไทย นำไปทอดในน้ำมันมะกอก โดยเอาด้านหนังลงก่อนแล้วค่อยกลับอีกด้านทอดจนสุก

4.จัดมันฝรั่งใส่จาน ตามด้วยผักโขม แล้วค่อยๆ วางปลาแซลมอนลงไปราดด้วยซอสหญ้าฝรั่น

  • เคล็ดลับความอร่อย
    สำหรับเครื่องเคียงสามารถเป็นมะเขือเทศซัลซา โดยนำมะเขือเทศหั่นเต๋ามาผสมกับกระเทียม หอมแดงสับ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย น้ำมะนาว และซอสทาลาสโก และมีซอสบัลซามิกรีดักต์ชันเป็นซอสตัวที่ 2ได้

⚫️ ⚪️ ⚫️

สูตรสลัดแซลมอนย่าง เสริมด้วยควินัวและผักย่างซอสบัลซามิก
(Grill Salmon with Balsamic Roasted Vegetables and Quinoa)

ส่วนผสมสลัดแซลมอนย่าง

  • ควินัวแห้ง 1 ถ้วย
  • น้ำเปล่า 1 ½ ถ้วย
  • แครอตหั่นเต๋าใหญ่ ½ ถ้วย
  • ซูกินีหั่นเต๋าใหญ่ ½ ถ้วย
  • เห็ดกระดุมหั่นเต๋าใหญ่ ½ ถ้วย
  • ฟักทองหั่นเต๋าใหญ่ ½ ถ้วย
  • พริกหวานสีแดงหั่นเต๋าใหญ่ ½ ถ้วย
  • บัลซามิกวีนีการ์ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
  • ปลาแซลมอนสด 2 ชิ้น
  • เกลือ / พริกไทย

วิธีทำ สลัดแซลมอนย่าง

1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ใส่ผักทั้ง 5 ชนิดลงในชามผสมเทน้ำมันมะกอก และ บัลซามิกวีนีการ์ลงไปคนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ และ พริกไทย

2. ตักผักที่ปรุงรสแล้วใส่ในถาดอบนำไปอบประมาณ 10 -15 นาทีหรือจนผักสุกและเริ่มเกรียมตามชอบแล้วยกออกมาวางพักไว้

3. หุงควินัวโดยเทควินัว และ น้ำเปล่าใส่ในหม้อขนาดกลางคนให้เข้ากันตั้งไฟแรงจนเดือดคนอีกรอบลดความร้อนเป็นไฟอ่อนปิดฝาต้มไปอีก 10 – 15 นาที คนเป็นระยะจนควินัวสุกยกลงคนเพื่อไม่ให้จับตัวเป็นก้อนวางพักไว้

4. นำปลาแซลมอนมาปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย โรยด้วยน้ำมันมะกอกเอาไปอบในเตาอบ 10 นาที หรือ จนสุก

5. ผสมควินัวกับกับผักย่างคนจนเข้ากันตักใส่จานเสิร์ฟคู่กับปลาแซลมอน

  • เคล็ดลับความอร่อย
    สามารถเพิ่มชนิดของผักได้ตามชอบ และ สามารถราดเนื้อปลาและสลัดด้วย Balsamic Glaze เพื่อเพิ่มรสชาติ

⚫️ ⚪️ ⚫️

สูตรสเต็กแซลมอนซอสพริกไทยดำ อร่อยลงตัวกับข้าวอบธัญพืช

ส่วนผสมสเต็กแซลมอนซอสพริกไทยดำ อร่อยลงตัวกับข้าวอบธัญพืช

  • ข้าวกล้อง 2 ถ้วย
  • น้ำมันรำข้าว 1/3 ช้อนชา
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
  • แครอตหั่นเต๋า 1 ถ้วย
  • ถั่วลันเตา 1/4 ถ้วย
  • ข้าวโพด ต้ม 1/4 ถ้วย
  • แปะก๊วย 1 ถ้วย
  • ถั่วแดงต้มสุก 1/2 ถ้วย
  • เผือกหั่นเต๋า 1/2 ถ้วย
  • ลูกเดือด 1/2 ถ้วย
  • น้ำซุปผัก 3 ถ้วย
  • ปลาแซลมอน 150 กรัม
  • พริกไทยดำเม็ด 15 กรัม
  • พริกไทยป่น 1 1/4 ช้อนชา
  • กระเทียมสับ 20 กรัม
  • รากผักชีสับ 5 กรัม
  • น้ำมันหอย 60 กรัม
  • ซีอิ๊วดำ 10 กรัม
  • โชยุ 45 กรัม
  • น้ำตาลปี๊บ 15 กรัม
  • น้ำซุปไก่ 80 มิลลิลิตร
  • แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำสเต็กแซลมอนซอสพริกไทยดำ อร่อยลงตัวกับข้าวอบธัญพืช

1. เทน้ำมันรำข้าวใส่กระทะรอจนร้อนใส่แครอต ถั่วลันเตา ข้าวโพด แปะก๊วย ถั่วแดง เผือก ลูกเดือย และข้าวกล้องลงไปผัด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย จากนั้นเทลงในหม้อหุงข้าว ใส่น้ำซุปผักแล้วหุงตามปกติ

2. ทำซอสพริกไทยดำโดยผัดกระเทียม รากผักชี พริกไทยดำกับน้ำมันให้หอม ใส่น้ำมันหอยซีอิ๊วดำ โชยุ น้ำตาลปี๊บ พริกไทยป่น และซุปไก่คนให้เข้ากัน ละลายแป้งมันกับน้ำเปล่าแล้วค่อยๆ ใส่ลงไปสังเกตให้ซอสข้นพอดี

3. นำแซลมอนไปทอดหรือย่างให้สุก ราดด้วยซอสพริกไทยดำ เสิร์ฟคู่กับข้าวอบ

⚫️ ⚪️ ⚫️

สูตรสลัดแซลมอนรมควัน ลงตัวกับน้ำสลัดเลมอนใบโหระพา
(Green Salad and Smoked Salmon with Lemon Basil Dressing)

ส่วนผสมสลัดแซลมอนรมควัน

  • ใบเบซิล 10 ใบ
  • กระเทียม 2 กลีบ
  • พาร์สลีย์ 2 ก้าน
  • น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • เลมอน 1 ลูก
  • น้ำมันมะกอก ¼ ถ้วย
  • มะเขือเทศเชอร์รี 6-8 ลูก
  • หม่อไม้ฝรั่ง 5 ก้าน
  • ผักสลัด
  • ชีสมอซซาเรลลาสด
  • เกลือ

วิธีทำสลัดแซลมอนรมควัน

1. ทำน้ำสลัดโดยใส่ใบเบซิล กระเทียม พาร์สลีย์ น้ำมันมะกอกในโถปั่น นำผลเลมอนมาล้างให้สะอาดแล้วขูดผิวเลมอนใส่ลงไปผสม แล้วคั้นน้ำเลมอนใส่ลงไป 2 ช้อนโต๊ะ เดินเครื่องไปจนส่วนผสมเนียน

2. ปรุงรสน้ำสลัดด้วยเกลือ น้ำผึ้ง และ น้ำเลมอนที่เหลือให้ออกรสเปรี้ยวนำ

3. นำหน่อไม้ฝรั่งไปลวกแล้วสไลด์เป็นเส้นบางๆตามยาว จัดใส่จานคู่กับผัดสลัด มะเขือเทศเชอร์รี่ และ ชีสมอซซาเรลลาสด เสิร์ฟคู่กับน้ำสลัด

  • เคล็ดลับความอร่อย
    สามารถเปลี่ยนจากเลมอนเป็นมะนาวเขียวซึ่งจะมีรสชาติที่เปรี้ยวเข้มกว่าและเปลี่ยนจากน้ำผึ้งเป็นน้ำตาลทรายได้

⚫️ ⚪️ ⚫️

สูตรแตงกวาโรลสอดไส้ครีมชีสและแซลมอนรมควัน
(Smoke Salmon Cucumber Roll)

ส่วนผสมแตงกวาโรลสอดไส้ครีมชีสและแซลมอนรมควัน

  • เนื้อปลาแซลมอนรมควัน 200 กรัม
  • ครีมชีส 200 กรัม
  • Sun dried Tomato 7-8 ชิ้น
  • แตงกวาญี่ปุ่น 1 ลูก
  • เกลือ /พริกไทย

วิธีทำแตงกวาโรลสอดไส้ครีมชีสและแซลมอนรมควัน

1. นำSun dried Tomato มาสับเป็นชิ้นเล็ก นำไปผสมกับครีมชีสคนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยเตรียมไว้

2. นำแตงกวามาสไลด์เป็นชิ้นบางตามยาว ทาด้วยส่วนผสมครีมชีสบางๆให้ทั่ว

3. นำแซลมอนรมควันมาหั่นเป็นชิ้นแล้ววางลงไปบนส่วนผสมครีมชีสให้เต็ม

4.ม้วนแตงกวาเป็นท่อนกลมไม่ต้องให้แน่นมากนัก แช่เย็นไว้จนกว่าจะเสิร์ฟ

  • เคล็ดลับความอร่อย
    สามารถเปลี่ยนจากแตงกวาญี่ปุ่น เป็นซูกินี หรือ ผักชนิดอื่นได้ตามชอบ

⚫️ ⚪️ ⚫️

สูตรแซลมอนกงฟี จับคู่สลัดแตงกวา
(Smoke Salmon Confit with Cucumber Salad)

Confit (กงฟี) แปลว่า การปรุงอาหารให้สุกด้วยไขมัน (หรือน้ำเชื่อม) คล้ายกับการทอดแบบ Deep-Fried แต่ใช้อุณหภูมิที่ต่ำมากประมาณ 90 องศาเซลเซียส และใช้เวลาปรุงที่นานกว่า ถือเป็นการถนอมอาหารวิธีหนึ่ง
อ่านเพิ่มเติม — รวมศัพท์ทำอาหาร แสนคุ้นหูคุ้นตา รู้มั้ยว่าเชฟพูดอะไรกัน ?

ส่วนผสมแซลมอนกงฟี จับคู่สลัดแตงกวา

  • เนื้อปลาแซลมอนขนาด 90 กรัม 2 ชิ้น
  • ใบสะระแหน่ 20 ใบ
  • กระเทียม (1) 2 กลีบ
  • ผิวเลมอน 1/8 ช้อนชา
  • น้ำมันพืช 300 มิลลิลิตร
  • น้ำมันมะกอก (1) 200 มิลลิลิตร
  • แตงกวา 80 กรัม
  • ผักสลัดใบเล็ก 1 ถ้วย
  • อัลมอนด์อบสับหยาบ 20 กรัม
  • ใบเบซิลสด 25 กรัม
  • กระเทียม (2) 2 กลีบ
  • ชีสพาร์เมซาน 4 ช้อนโต๊ะ
  • ดิจองมัสตาร์ด ½ ช้อนชา
  • น้ำเลมอน ¼ ช้อนชา
  • น้ำมันมะกอก (2) 45 มิลลิลิตร
  • Hollandaise Sauce
  • Apple Tomato Chutney
  • เกลือ / พริกไทยดำ

วิธีทำแซลมอนกงฟี จับคู่สลัดแตงกวา

1. ผสมน้ำมันพืชและน้ำมันมะกอก (1) ลงในกระทะใส่ใบสะระแหน่ ทุบกระเทียม (1) พอแตกใส่ลงไปตามด้วยพริกไทยดำ
ตั้งไฟให้ร้อนที่อุณหภูมิ 51 -56 องศาเซลเซียสแล้วใส่ปลาแซลมอนลงไป รอจนเนื้อปลาแซลมอนอยู่ที่อุณหภูมิ 42 องศาเซลเซียส ตักขึ้น

2.เตรียมน้ำสลัดโดยนำใบเบซิลไปลวกในน้ำเดือด แช่น้ำเย็นจัดสักครู่ บีบน้ำออก ใส่ลงในโถปั่นกับกระเทียม (2)
อบชีสพาร์เมซาน ดิจองมัสตาร์ด น้ำเลมอน และน้ำมันมะกอก (2) เดินเครื่องปั่นจนส่วนผสมเนียนปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย

3.เสิร์ฟโดยตัก Hollandaise Sauce หยอดลงบนจาน หั่นเนื้อปลาแซลมอนวางลงไป ตามด้วย Apple Tomato Chutney และผิวเลมอน นำผักสลัดและแตงกวาไปคลุกกับน้ำสลัดใบเบซิลจัดวางข้างๆ

⚫️ ⚪️ ⚫️

สูตรแซลมอนอบไข่ขาว
(Baked Egg White with Salmon)

อ่านสูตรเพิ่มเติม — เมนูแซลมอนอบไข่ขาว เมนูสุขภาพอร่อยทำง่าย และได้โปรตีนเน้นๆ

สูตรแซลมอนปั้นก้อนทอด
(Salmon Patties)   

อ่านสูตรเพิ่มเติม — สูตรแซลมอนปั้นก้อนทอด เมนูปลาทำง่าย อร่อยแบบมีโอเมก้า 3

สูตรทำ บานอฟฟี่ ซอสคาราเมล ส่วนผสมน้อย ทำง่าย ทำขายสร้างอาชีพ !

          ใครกำลังมองหาสูตรขนมไม่ต้องอบ เมนูสร้างอาชีพ เมนูขนมทำง่าย อยู่ละก็ วันนี้เราจะมาแจกสูตรขนม สูตรทำ บานอฟฟี่ ซอสคาราเมล ส่วนผสมน้อย ทำง่าย ทำขายสร้างอาชีพ ! บานอฟฟี่ เมนูขนมสุดอร่อยที่หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เป็นอีกหนึ่งเมนูขนมทำง่าย โดนใจคนทุกเพศทุกวัยเลยทีเดียว ด้วยรสชาติหอมหวานจากคาราเมลและกล้วย ท็อปด้านบนด้วยวิปปิ้งครีมละมุน บอกเลยว่ากินฟินสุดๆ แถมต้นทุนต่ำ แต่หน้าตาดี ทำขายกำไรงามแน่นอน ว่าแต่สูตรทำ บานอฟฟี่ จะมีวิธีทำอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลย!

 

 

 

สูตรขนม บานอฟฟี่ เมนูสร้างอาชีพ

ดูคลิปขั้นตอนและวิธีทำ ด้านล่าง 

ส่วนผสม บานอฟฟี่ ซอสคาราเมล

อัตราส่วน แครกเกอร์

  • ริชท์แครกเกอร์ 300 กรัม
  • เนยสดชนิดเค็มละลาย 150 กรัม 

อัตราส่วน ซอสคาราเมล

  • น้ำตาลทรายชนิดละเอียด 250 กรัม
  • น้ำเปล่า 70 กรัม
  • วิปปิ้งครีม 150 กรัม (ใช้ริชโกลด์ Non-Dairy )
  • กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
  • เนยสดชนิดเค็ม 50 กรัม

อัตราส่วน วิปครีม

  • วิปปิ้งครีม 500 กรัม (ใช้ริชโกลด์ Non-Dairy )
  • กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
  • ผงโกโก้ (สำหรับโรยหน้า)
  • กล้วยหอม 8-9 ลูก

วิธีทำ บานอฟฟี่ ซอสคาราเมล

  1. นำแครกเกอร์ไปบดให้ละเอียด ใส่ลงในชามผสม ตามด้วยเนยละลาย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  2. นำไปใส่ในถ้วยขนาด 7 ออนซ์ กดให้เรียบ ความหนาประมาณ 1 เซนติเมตร นำไปแช่ตู้เย็น 39 นาที
  3. เทน้ำตาลทรายลงไปในหม้อ ตามด้วยน้ำเปล่า เปิดตาแก๊สใช้ไฟอ่อน รอจนน้ำเดือด ห้ามคน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที พอเริ่มเปลี่ยนสี ค่อยวนหม้อเบาๆ 
  4. พอได้ที่แล้วให้ปิดแก๊ส ใส่วิปปิ้งครีมลงไป แล้วรีบคนด้วยความเร็ว 
  5. พอส่วนผสมเข้ากันดี ใส่เนยลงไป ตามด้วยกลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากันอีกครั้ง พักให้เย็นสนิท
  6. เทวิปปิ้งครีมแช่เย็นลงในชามผสมที่นำไปแช่เย็นจัดมาแล้ว ตีด้วยตะกร้อไฟฟ้าความเร็วสูงสุดจนวิปปิ้งครีมตั้งยอด 
  7. นำวิปปิ้งครีมใส่ถุงบีบเตรียมไว้ จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นให้เซตตัว
  8. นำกล้วยมาหั่นเป็นแว่นๆ นำไปวางรอบแก้วใส่แครกเกอร์พักไว้ตั้งแต่แรก บีบซอสคาราเมลลงไปตามชอบ 
  9. ตามด้วยวิปปิ้งครีมด้านบน โรยผงโกโก้ด้านบนเพื่อความสวยงาม เป็นอันเสร็จ

 

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก

สูตรทำ เค้กกล้วยหอม ไม่ใช้เตาอบ เนื้อนุ่ม หอมอร่อย ทำได้ไม่ยาก

        สูตรขนม ทำง่ายๆ ในวันนี้ บอกเลยว่าเป็นขนมเค้กดีต่อใจ ใครทำก็อร่อย แฮปปี้ทั้งบ้าน นั่นก็คือ เค้กกล้วยหอม สูตรไม่ใช้เตาอบ เป็นสูตรแบบนึ่ง รับรองว่า หอมอร่อย เนื้อนุ่ม ทำง่ายไม่ซับซ้อนค่ะ จะทำทานเองคู่กับกาแฟก็ได้ หรือจะทำขาย จัดเบรค ก็ได้กำไรดีงามเลยน้า ตามไปจดสูตร เตรียมวัตถุดิบ แล้วทำไปพร้อมๆ กันได้เลยค่ะ

 

 

 

สูตรทำ เค้กกล้วยหอม ไม่ใช้เตาอบ

 

ดูคลิปขั้นตอนและวิธีทำ ด้านล่าง 

 

ส่วนผสม เค้กกล้วยหอม (สูตรนี้ได้ขนมประมาณ 20 ถ้วย)

  1. แป้งเค้ก 275 กรัม
  2. ไข่ไก่ 3 ฟอง (เบอร์ 2)
  3. กล้วยหอม 330 กรัม
  4. น้ำตาลทราย 130 กรัม
  5. น้ำตาลปื๊บ 50 กรัม
  6. ผงฟู 1 ช้อนชา
  7. เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  8. เกลือ 1/2 ช้อนชา
  9. นมข้นจืด 100 กรัม
  10. กลิ่นวนิลา 1/2 ช้อนชา
  11. น้ำมะนาว 10 กรัม
  12. น้ำมันข้าวโพด 110 กรัม

 

วิธีทำ เค้กกล้วยหอม

  1. เริ่มจากเตรียมชามผสม ตะแกรงร่อนแป้ง ใส่แป้ง เกลือ ผงฟู เบกกิ้งโซดา ร่อนใส่ชามเตรียมไว้ก่อน
  2. เตรียมถ้วยผสม ใส่น้ำตาลปิ๊ปลงไปบี้พอละเอียด ใส่นม น้ำมันพืช กลิ่นวนิลา น้ำมะนาว ผสมให้เข้ากันพักไว้ก่อน
  3. ต่อมาเตรียมชามผสม ตอกไข่ใส่ลงไป ตีด้วยเครื่องตีไฟฟ้าให้ไข่ขึ้นฟูเนียนดี ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปตีจนเข้ากันดี แบ่งใส่สัก 2-3 รอบ ค่อยๆ ใส่นมที่ผสมไว้ แล้วตีให้เข้ากัน บี้กล้วยหอมให้พอละเอียด ใส่ลงไปผสมให้เข้ากัน ใส่แป้งที่ร่อนเตรียมไว้ ใช้พายตะล่อมแป้งให้เข้ากัน
  4. ตักใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ ตักใส่ให้พอดีพิมพ์ แล้วใส่ซึ้งนึ่งในน้ำเดือดจัด ประมาณ 15-20 นาที หรือดูจนขนมสุกดี เป็นอันใช้ได้ค่ะ

 

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก

 

Summer Brown คาเฟ่เปิดใหม่ ร้านกาแฟ ย่าน เจริญนคร ต้องลองมาชิล 🌞

     ชาวธนบุเรี่ยนทั้งหลายยิ้มกว้างกันได้อีกหนึ่งรอบจ้าาา เพราะตอนนี้ ฝั่งธนฯ บ้านเรา มีอีกหนึ่ง คาเฟ่เปิดใหม่ ร้านกาแฟสวย อย่างร้าน Summer Brown คาเฟ่ร้านดังจากย่านอโศก พระราม 9 ตอนนี้เค้าย้ายทำเลมาเปิดร้านใหม่ กันที่ ย่าน ถนนเจริญนคร แล้วจ้าาา สำหรับร้านใหม่นี้จะเป็นคาเฟ่เล็กๆ ร้านกาแฟไซส์มินิ ที่บรรยากาศดู Cozy วินเทจแบบอบอุ่นขึ้นกว่าเดิม เอาล่ะอย่ารอช้า ตามเรามาสแกนกันดีกว่าว่าร้านนี้มีดีที่อะไร ทำไมเราถึงอยากแนะนำให้ทุกคนไปตำ !

 

 

 

Summer Brown ร้านกาแฟสวย ย่าน เจริญนคร

 

 

     Summer Brown คาเฟ่ เจริญนคร ถึงแม้ว่าร้านใหม่นี้จะเป็นคาเฟ่ไซส์เล็กๆ แต่บอกเลยว่าการตกแต่งร้าน และมุมถ่ายรูปเค้าก็จัดไว้ให้มุกคนได้มา Hopping กันอย่างเต็มอิ่มแน่นอนค่ะ และยังมีมุมให้นั่งทำงานได้เบาๆ สบายๆ การตกแต่งร้านจะเป็นฟีลวินเทจ ผสมความดิยหน่อยๆ ด้วยผนังปูนเปลือย และโต๊ะเก้าอี้สีออกโทนน้ำตาล มีตู้ไม้เก่า ดูโบราณแบบมีสไตล์ เดินเข้าร้านจะเจอกับเคาท์เตอร์และตู้ขนม ด้านในมีที่นั่งประมาณ 3-4 โต๊ะ ถึงแม้ที่นั่งจะมีไม่มาก แต่ทางร้านก็จัดมุมไว้ดี เรียกได้ว่านั่งโต๊ะไหนก็ได้รูปแน่นอนค่ะ

 

 

     ในส่วนของเมนู ที่ร้านมีทั้งเมนู coffee และ non-coffee มีเมล็ดกาแฟให้เลือกตามความเหมาะสมของแต่ละเมนู และตามความชอบของลูกค้า เมนูแรกที่เราลองสั่งมาคือ 500 Days of summer เป็นกาแฟส้ม เรียกได้ว่าแก้วนี้คือปลุกความสดชื่นในตัวคุณได้ดี เดินเข้าซอยมาร้อนๆ โดนแก้วนี้เข้าไป เอ้อออ สดชื่อจ่ะ

 

 

     และอีกเมนูคือ Dirty กาแฟเย็นแบบไม่มีน้ำแข็ง แก้วนี้รสชาติจะออกไปทางมันๆ นัวๆ มีความหวานอยู่น้อยๆ กาแฟไม่เข้มมาก ทานง่าย ในส่วนของขนมที่นี่ก็มีให้เลือกอยู่หลายเมนู (ดูจากป้ายในตู้) แต่ตอนเราไป ค่อนข้างจะเย็นแล้ว เลยเหลือขนมให้เลือกไม่มาก บอกเลยว่าใครเป็นสายครัวซองต์ ที่นี่เค้าก็มีนะจ๊ะ สั่งมาทานกับกาแฟเข้ากันดีน่าดูเลยล่ะ

 

 

     สำหรับการเดินทางมาที่ร้าน Summer Brown เจริญนคร ก็ง่ายๆ ค่ะ ตัวร้านตั้งอยู่ใน ซอยเจริญนคร 30 สามารถมาได้ทั้งรถไฟฟ้า และรถส่วนตัว ถ้าใครเอารถมาเองก็จอกได้ที่บริเวณริมถนน แล้วเดินเข้าซอยแล้วเลี้ยวซ้ายไปไม่ไกล ถ้าใครมารถไฟฟ้าก็นั่งรถต่อมาอีกไม่ไกลก็ถึงแล้ว บอกเลยว่าวันหยุดนี้ ใครไม่อยากเข้า ก็ลองมานั่งจิบกาแฟชิลๆ กันที่นี่ได้ รับรองว่าจะชอบ

 

 

🌞 ข้อมูลร้าน Summer Brown

  • พิกัด : https://g.page/summerbrowncafe
  • ที่อยู่ : ซอย เจริญนคร 30 แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพฯ
  • ร้านเปิดบริการ : 07.00 – 16.00 น. / เสาร์-อาทิตย์ 08.00 – 17.00 น. (หยุดวันจันทร์)
  • โทร : 08-0466-5559
  • ที่จอดรถ : ไม่มี (จอดริมถนน)
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/summerbrown.cafe/

 

 

สายกินต้องจด ! 9 ร้านอาหารมิชลิน เซ็นทรัลเวิลด์ ไปลิ้มลองความอร่อยระดับตำนาน ใจกลางกรุงเทพ

        วันนี้ขอเอาใจสายกิน ด้วยร้านอาหารอร่อย ใจกลางเมืองแบบระดับตำนาน บอกเลยว่าไม่ธรรมดา ! เพราะวันนี้เราจะพาไปจดลิสต์ 9 ร้านอาหารมิชลินสตาร์ และมิชลินไกด์ เซ็นทรัลเวิลด์ แต่ละร้านการันตีความอร่อยด้วยมิชลิน เราจัดเต็มให้ทั้งอาหารคาว และหวาน ไม่ว่าจะเป็นสายเนื้อ สายราเมน สายซีฟู้ด หรือสายติ่มซำ ก็ต้องอร่อยถูกใจแน่นอน ว่าแล้วก็ตามไปเก็บให้ครบทุกพิกัดกันเลยดีกว่าค่ะ

 

 

 

ร้านอาหารอร่อย มิชลินสตาร์ มิชลินไกด์ เซ็นทรัลเวิลด์

 

1. Tsuta

 

 

        Tsuta ซึตะ – ร้านราเมนชื่อดัง ระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาว จากญี่ปุ่น เจ้าแรกของโลก ! เค้ามาเปิดสาขาแรกในไทยค่ะ บอกเลยว่าคนรักราเมนต้องไปลองกันให้ได้ ไม่ต้องบินไปต่อแถวถึงญี่ปุ่น แค่มาเช็คอินใจกลางกรุงเทพฯ ก็สามารถซู้ดเส้นดังๆ กันได้แล้วค่ะ เมนูที่ต้องไปลอง ซึ่งเป็นเมนูพิเศษที่เชฟคิดค้นสูตรมาเฉพาะสาขาในไทย คือ ราเมนซุปหม่าล่า Mala Tonkotsu Soba รับรองว่าเด็ดโดนใจมากค่ะ

        อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : ไม่ต้องบินไปถึงญี่ปุ่น ! Tsuta ซึตะ ร้านราเมนชื่อดัง มิชลินสตาร์ ไปซู้ดดดเส้นดังๆ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ 🍜

 

 

 

==========

 

2. Kam’s Roast

 

 

        KAM’S ROAST –  ร้านห่านย่าง ระดับตำนาน ! จากฮ่องกง ที่ขอรับประกันความอร่อยด้วยดีกรีมิชลิน 1 ดาว ถึง 7 ปีซ้อนด้วยกันค่ะ บอกเลยว่าไปลิ้มลองความอร่อยกันได้ง่ายๆ ที่ เซ็นทรัลเวิลด์ เพราะสาขาแรกในประเทศไทยของเค้า อยู่ที่นี่แล้ว ! ใครที่ชอบทานห่านย่างต้องไปลองจริงๆ ค่ะ รับรองว่าคุ้มค่าแก่การไปเยือนแน่นอน


        อ่านเพิ่มเติมได้ที่ :  มาแล้ว! KAM’S ROAST ร้านดังจากฮ่องกง ห่านย่างระดับตำนาน ดีกรีมิชลิน 1 ดาว

 

 

 

==========

 

3. Pang Cha

 

 

        Pang Cha Thai Royal by Luk Kai Thong – ปังชา คาเฟ่ขนมหวานจากชาไทย ที่มีดีกรีความหวานอร่อยด้วย Michelin Guide 2 ปีซ้อน สำหรับคนรักชาไทยต้องไม่พลาดที่จะไปลองค่ะ เพราะที่นี่เค้านำเสนอขนมหวานที่เน้นชาไทยเป็นรสชาติหลัก แต่ละเมนูคือดีต่อใจสายหวานเหลือเกินค่ะ การตกแต่งของร้านก็หรูหรา ดูปลอดโปร่ง สะอาดตา ใครที่กำลังมองหาร้านขนมหวานอยู่ล่ะก็ ห้ามพลาดเลยค่ะ

        อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : Pang Cha ขนมหวาน ชาไทย รางวัลมิชลินด์ไกด์ Central World ที่สายหวานห้ามพลาด!

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/voPfYaQmiYTAqGZLA
  • ที่อยู่ : ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 3 ถนนราชดำริ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
  • ร้านเปิดบริการ : 10.00 – 22.00 น.
  • โทร : 02-106-3498
  • เว็บไซต์ : https://web.facebook.com/PangchaCafe/

 

==========

 

4. Jok โต๊ะเดียว (Jok’s Kitchen)

        Jok โต๊ะเดียว – ร้านอาหารระดับตำนานแห่งเยาวราช เป็นอาหารที่มาในสไตล์ไทย-จีน จากทำนานที่มีเพียงหนึ่งโต๊ะ ตอนนี้สามารถไปนั่งทานได้ชิลๆ ที่ห้างแล้วค่ะ สำหรับเมนูที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือ บะหมี่เกี๊ยว บอกเลยว่าเกี๊ยวกุ้งดีต่อใจ แป้งเกี๊ยวบางๆ ไส้แน่น ! เป็นกุ้งเน้นๆ โรยกระเทียมเจียว จิ้มซอสสักหน่อย อร่อยเหาะไปเลยล่ะค่า

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/3E6BpiP14t9XYy2m8
  • ที่อยู่ : ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 7 ถนนราชดำริ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
  • ร้านเปิดบริการ : 11.00 – 20.00 น.
  • โทร : 09-9629-2449
  • เว็บไซต์ : https://web.facebook.com/JOK-Kitchen

 

========

 

5. The Coffee Academics

        The Coffee Academics – คอฟฟี่เฮ้าส์แบรนด์ดังจากเกาะฮ่องกง หนึ่งในร้านกาแฟที่ดีที่สุดในโลก ! ชาว Coffee lover ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่เค้าใส่ใจในทุกกระบวนการของกาแฟ ให้เราได้ลิ้มลองกาแฟแบบเข้มข้นเต็มรส ไม่ว่าจะชอบรสชาติเข้มข้นหนักๆ หรือกลิ่นกาแฟเบาๆ เค้าก็มีให้เลือกหลากหลายเมนูค่ะ

 

========

 

6. Din Tai Fung

        Din Tai Fung – ร้านอาหารจีนชื่อดัง ที่มีต้นกำเนิดจากไต้หวัน มีเมนูขึ้นชื่อที่ต้องไปลองให้ได้สักครั้ง นั่นก็คือ เสี่ยวหลงเปา บอกเลยว่ารสชาติอร่อยถูกใจนักชิมทั่วโลก สำหรับพวกเราคนไทยไม่ต้องบินไปกินที่ไหนไกลเลยค่ะ ไปลิ้มลองความอร่อยได้ที่เซ็นทรัลเวิลด์ นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารจีนอื่นๆ อีกมากมายที่รับประกันความอร่อยด้วย Michelin Guide

 

========

 

7. สมบูรณ์โภชนา (Somboon Seafood)

        สมบูรณ์โภชนา (Somboon Seafood) – ร้านอาหารทะเลระดับตำนานที่โด่งดังไปไกลทั่วโลก กับเมนู ปูผัดผงกะหรี่ สูตรต้นตำรับ ที่ต้องไปลิ้มลองรสชาติออริจินัลนี้ให้ได้ค่ะ ทางร้านเค้าได้เลือกสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และส่วนผสมที่กลมกล่อมลงตัว รวมถึงมีเมนูซีฟู้ดจานเด็ดอีกมากมายที่รอให้สายกินทั้งหลายได้ไปชิมกัน รับรองว่าดีต่อใจแน่นอน

 

========

 

8. แสนยอด (Grand Sanyod)

        แสนยอด (Grand Sanyod) – ร้านอาหารรสเลิศ ต้นตำหรับอาหารจีนกวางตุ้ง ที่การันตีความอร่อยด้วยการแนะนำจากมิชลินไกด์ มีเมนูอร่อยให้เลือกหลากหลาย ที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือ เป็ดย่างเตาถ่าน ที่หมักด้วยน้ำซอสสูตรลับเฉพาะ บอกเลยว่านุ่มเข้าเนื้อ ดีต่อใจ ลองได้ทานคู่กับบะหมี่ไข่เหนียวนุ่ม รับรองว่ารสชาติถูกปากสายกินแน่นอนค่ะ

 

========

 

9. Song Fa Bak Kut Teh (ซงฟา บักกุ๊ดเต๋)

        ซงฟา บักกุ๊ดเต๋ – บักกุ๊ดเต๋ระดับ Michelin Guide Singapore สาขาแรกในไทยอยู่ที่นี่แล้วค่ะ ไม่ต้องบินไปไกลถึงสิงคโปร์ สำหรับสายกินแล้วต้องไม่พลาดที่จะไปลิ้มลองความอร่อยของบักกุ๊ดเต๋ร้อนๆ พร้อมเนื้อหมูเหนียวนุ่มเต็มคำ ! หรือจะเป็นซุปกระดูกหมูที่ตุ๋นจนเปื่อยราดน้ำซุปใสๆ บอกเลยว่าไม่ว่าจะเป็นเมนูไหนก็ฟินค่า

 

========

 

 

10 ร้านเป็ดปักกิ่ง ร้านอาหารจีน 2021 กรุงเทพ หนังกรอบ เนื้อนุ่ม ชุ่มซอส !

       ยังไม่หมดช่วงเทศกาลวันตรุษจีน 2564 ไปง่าย ครั้งนี้เอาใจอากง อาม่า กับ 10 ร้านเป็ดปักกิ่ง ร้านอาหารจีน 2021 กรุงเทพ หนังกรอบ เนื้อนุ่ม ชุ่มซอส ในแบบต้นตำรับ ! เป็ดปักกิ่งอันแสนคุ้นเคย ที่หลายคนชื่นชอบกันเป็นอย่างดี หนังเป็ดกรอบๆ รสชาติหวานเค็มมันกำลังดี กินคู่กับแป้งและเครื่องเคียงสไตล์จีน และน้ำซอสชุ่มฉ่ำสุดอร่อย ที่แต่ละร้านจะมีสูตรลับเฉพาะต่างกัน แต่บอกเลยว่า เป็นเมนูที่โดนใจทั้งครอบครัวแน่นอน ไหว้ตรุษจีนเสร็จแล้ว ใครกำลังมองหาร้านอาหารจีน ร้านเป็ดปักกิ่งเลี้ยงครอบครัวอยู่ละก็ ตามมาดูลิสต์รายชื่อร้านไปพร้อมกันเลย!

 

 

 

ร้านอาหารจีน ร้านเป็ดปักกิ่ง กรุงเทพ 2021

 

1. ส.บ.ล. ภัตตาคารสมบูรณ์ลาภ

     เรื่องอาหารจีน ต้องยกความดีงามให้กับร้าน ส.บ.ล. ภัตตาคารสมบูรณ์ลาภ เลยค่า ที่นี่เปิดมายาวนานกว่า 50 ปีเชียวนะ! เพราะฉะนั้นเราก้ห่วงเรื่องรสชาติอาหารของที่นี่กันเลย บอกเลยว่าถูกใจสมาชิกในตระกูลแน่นอน! บรรยากาศภายในร้านตกแต่งมาในสไตล์ Versace มาผสมกับสไตล์จีน หรูหรามากๆ เหมาะกับการมากินเลี้ยงแบบครอบครัวใหญ่สุดๆ แถมอาหารจีนก็พรีเมี่ยมสุดๆ มีให้เลือกทั้งสไตล์ฮ่องกง และแต้จิ๋วอีกด้วย เรากล้ารับประกันเลยค่ะว่าทุกคนจะต้องชอบเมนูเป็ดปักกิ่ง ของที่นี่อย่างแน่นอน

 

 

================

 

2. หลิวเซียงฟง

         ร้านอาหารจีนชื่อดัง หลิวเซียงฟง ร้านนี้มีจุดเด่นอยู่ที่เมนูเป็ดปักกิ่งรสเลิศ พร้อมด้วยคาราวานติ่มซำกว่า 50 แบบให้เลือกสั่งไปฟินกันได้ที่บ้าน บอกเลยว่าคนรักอาหารจีนต้องห้ามพลาดกับร้านนี้เลยละ ที่สำคัญยังมีเมนูอาหารจีนต้นตำรับ และมีพื้นที่รองรับอีกเพียบ สามารถพาครอบครัวไปกินได้ชิลๆ เลยจ้า

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/5ByaUwnSJeJQTJyb8
  • ที่อยู่ : 2 ซอย 39 ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร
  • โทร : 0-2108-5058
  • ร้านเปิดบริการ : 10.30 – 21.30 น.
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Liuxiangfong/

 

==================

 

3. ตงเพ้ง ภัตตาคาร

     ภัตตาคารอาหารจีนกวางตุ้ง-แต้จิ๋ว ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมานานกว่า 33 ปี ตงเพ้ง ภัตตาคาร ปัจจุบันร้านมีเมนูต้นตำรับ และเมนูฟิวชั่นมากมาย แต่ส่วนใหญ่เน้นรสแท้แบบคนจีนเกือบทั้งหมด ทำให้สามารถสั่งมากินได้ทั้งครอบครัว มีทั้งของกินเล่น อาหารจานหลักมาหมาย เข้าไปเลือกเมนูที่ชอบกันเลย

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/C2B5PjBwkXGaaB3h9
  • ที่อยู่ : ซอยลาดพร้าว 5 ถนนลาดพร้าว 53 โชคชัย 4 ซอย 5 แขวง สะพานสอง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 
  • โทร : 02-539-1343
  • ร้านเปิดบริการ : 10.00-22.00 น.
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/TongPengChineseRestaurant

 

==================

 

4. ฮองมิน ภัตตาคารอาหารจีน

     ร้านอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งต้นตำรับ ฮองมิน ภัตตาคารอาหารจีน ที่ร้านมีเมนูอาหารจีนยอดนิยมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้เลือกมากมาย จุดเด่นคือที่ร้านปรุงแต่ละเมนูอย่างพิถีพิถัน ทำให้คนกินได้ลิ้มรสความเป็นจีนแบบแท้จริง เมนูขายดีของร้านมีมากมายกว่า 50 เมนูเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น เป็ดปักกิ่ง เป็ดย่าง ติ้มซำ และอีกเพียบ

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/4gi7oMVNrnGD7oyH9
  • ที่อยู่ : เลขที่ 5 ซอยลาดพร้าว 72 วังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 
  • โทร : 08-8248-0123
  • ร้านเปิดบริการ : 09.30 – 20.00 น.
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/hongminfanpage/

 

==================

 

5. Hong Kong Fisherman

       เริ่มต้นที่ร้านบุฟเฟ่ต์ติ่มซำ สไตล์ฮ่องกงเเท้ที่ Hong Kong Fisherman IMPACT อารีน่า เมืองทองธานี ที่นี่ตกแต่งแบบจีนสมัยใหม่ เมนูแนะนำของร้านจะเป็นอาหารประเภทหมูแดง หมูกรอบ ทานคู่ถั่วต้ม ขิงดอง เเละน้ำจิ้มถั่วบดหวาน ฮ่องกงสุกี้ บะหมี่เป็ดย่าง ฯลฯ รับประกันความอร่อยโดยเชฟชาวฮ่องกงแท้ๆ บอกเลยว่าห้ามพลาด

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/G1BCfAWPU8PWU2Jy5
  • ที่อยู่ : IMPACT EXHIBITION CENTER, Hall 8 เลขที่ 99 ถนนป๊อปปูล่า เเยกบ้านใหม่ ปากเกร็ด นนทบุรี
  • เปิดบริการ : 11.00 – 22.00 น.
  • โทร : 0-2833-5434-5
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/HongKongFisherman

 

==================

 

6. Fei Ya

 

         ร้านเฟยยา ภัตตาคารจีนที่ได้รับรางวัล Thailand’s Best Restaurant ถึง 5 ปีติดต่อกัน (2011-2015) อยู่ที่ชั้น 3 โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพ ด้วยบุฟเฟ่ต์ติ่มซำที่มีให้เลือกกว่า 30 อย่าง ตัวร้านตกแต่งมาในสไตล์จีนโมเดิร์นน่านั่ง เหมาะสำหรับครอบครัวสุดๆ รสชาติต้นตำรับ แต่ยังแฝงเมนูอาหารฟิวชั่นสไตล์จีนอีกด้วย

 

  • พิกัด : https://g.page/feiyabkk?share
  • ที่อยู่ : 518/8 Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 
  • เปิดบริการ : 11.30 – 21.00 น.
  • โทร : 0-2125-5000
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/feiyabkk

 

================

 

7. LIN-FA Chinese Restaurant

         ห้องอาหารจีนสไตล์แต้จิ๋ว อยู่ที่โรงแรมเดอะ สุโกศล (โรงแรมสยามซิตี้เก่า) และมีชื่อเสียงมายาวนาน เมนูที่หลินฟาโดดเด่นกว่าร้านอื่นอยู่ที่ซุป เช่นซุปเกี๊ยวกุ้ง ที่กุ้งเป็นกุ้งจริงๆ หรือจะเป็นซุปไข่สไตล์เเต้จิ๋ว ซุปเห็ดหอมเพื่อสุขภาพ เป็นต้น สำหรับอาหารอย่างอื่นก็มีให้เลือกมากมายเช่นกัน ทั้งเซ็ตของทอดเรียกน้ำย่อย เซ็ตติ่มซำที่คัดแต่วัตถุดิบชิ้นโตๆ บริการรวดเร็วทันใจรับรองไม่ผิดหวัง

 

  • พิกัด : https://g.page/LinFa_Sukosol?share
  • ที่อยู่ : 477 ศรีอยุธยา ถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
  • เปิดบริการ : 11.30 – 14.30 น. / 17.00 – 21.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
  • โทร : 0-2247-0123
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/myLinFa

 

================

 

8. Chef Pom Kitchen

          Chef Pom Kitchen ภัตตาคารที่ตั้งโดยเชฟป้อม เชฟกระทะเหล็กอาหารจีนที่อยู่ในวงการมานาน ร้านตั้งอยู่ย่านพระราม 3 เรื่องความอร่อย และรูปร่างหน้าตาของเมนูนั้นหายห่วงแน่นอน ติ่มซำเริ่มต้นที่เข่งละ 79 บาท ได้รสชาติความอร่อยในแบบอาหารจีนต้นตำรับ ที่สำคัญราคาจับต้องได้ บอกเลยสายติ่มซำไม่ควรพลาด

 

 

================

 

9. Chef Man Restaurant

 

 

      Chef Man ถือเป็นภัตตาคารอาหารจีนในตำนาน ขวัญใจครอบครัวคนจีนมาอย่างยาวนาน เพราะที่นี่นอกจากเมนูอาหารจีนจะมีให้เลือกมากมายแล้ว ยังอร่อยตามแบบฉบับต้นตำรับ ที่สำคัญ มีเมนูติ่มซำที่พลาดไม่ได้ โดยเฉพาะขนมจีนกุ้งที่ใช้กุ้งเป็นตัวเลยทีเดียว กัดเข้าไปเต็มปากเต็มคำ สายอาหารจีน ไม่ควรพลาด

 

 

10. ฟุกหยวน

        หนึ่งในห้องอาหารจีนที่ขึ้นชื่อเป็นอันดับ 1 ในเรื่องติ่มซำ การันตีด้วย เชฟชัช เพชรไทรแก้ว เชฟที่มีประสบการณ์ฝีมือด้านอาหารจีนมากกว่า 30 ปีเลยทีเดียว มาพร้อมกับฉายาติ่มซำ คำโต รวมไปถึงซาลาเปา ขนมจีบ แต่ละอย่างมาแบบจัดเต็ม อร่อยแบบจีนแท้ สั่งมาลองกันเลย 

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/MKNLFCVqcqv4cH9Q6
  • ที่อยู่ : 92 ซอยโรงพยาบาลพระราม 9 บางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
  • เปิดบริการ : 11.30 – 14.30 น. / 06.00 – 22.30 น.
  • โทร : 0-2641-4777 ต่อ 1138
  • เว็บไซต์ : www.goldentulipbangkok.com

 

==================

ติ่มซำ ชาบูระ หาดใหญ่

 

          รับติ่มซำชิ้นใหญ่ๆ คำโตๆ สักคำมั้ยย? ถ้าใครมาที่หาดใหญ่ต้องไม่พลาดมาร้านติ่มซำ ชาบูระเลยค่ะ เพราะร้านนี้เป็นร้านสไตล์ฮาลาสที่มีจุดเด่นที่เมนูติ่มซำที่มีให้เลือกมากมาย ชิ้นใหญ่ๆ ไส้เเน่นมาก (อารมณ์แบบถ้าไส้กุ้งก็ใส่กุ้งทั้งตัวเลยค่ะ) ราคาเริ่มต้นที่่ 15 บาท นอกจากเมนูติ่มซำเเล้วยังมีเมนูอื่นๆ ที่อร่อยไม่เเพ้กันเช่น ไข่กระทะ โจ๊ก ข้าวแกง ข้าวยำ โรตี ฯลฯ ไปเเล้วอย่าลืมสั่งมาลองทานนะคะ 

 

สมายติ่มซำ

 

ร้าน สมายติ่มซำ บริการเฉพาะสั่งกลับเท่านั้น

         ร้านอาหารจีนชื่อดังย่านบางขุนนนท์ จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่ความอร่อยของอาหารที่เป็นสูตรลับเเบบต้นตำรับและเมนูติ่มซำที่มีให้เลือกมากกว่า 30 เมนู เเถมทุกเมนูยังเป็นติ่มซำทำสดวันต่อวัน!! ไม่มีการนำติ่มซำเก่ามาขายเด็ดขาด เมนูที่ขายดีที่สุดของร้านก็คือเมนูขนมจีบกุ้ง ฮะเก๋าที่ทางร้านใช้กุ้งตัวโตๆ เนื้อเด้งๆ เน้นๆ มาทำสดๆ ราคาเริ่มต้น 30 บาท นอกจากนี้ยังมีเมนูก๋วยเตี่ยวหลอด ซาลาเปา กุ้งอบวุ้นเส้น ฯลฯ ที่อร่อยมากๆ ไม่เเพ้กัน อย่างลืมไปลองสั่งทานดูนะคะ 

 

ติ่มซำ 30-40 บาท

ติ่มซำ 30-40 บาท

ติ่มซำ 30-40 บาท

 

สูตร ผัดหมี่ซั่ว หมี่ผัดมงคลจักรพรรดิ์ อาหารมงคล ไหว้ตรุษจีน เฮงๆ 🍜

     เสริมความเป็นสิริมงคล ต้อนรับวัน ตรุษจีน 2564 กับ สูตรอาหาร สูตรทำ ผัดหมี่ซั่ว หรือ ผัดหมี่เตี๊ยว หมี่ผัดมงคลจักรพรรดิ์ เมนูอาหารมงคล สำหรับขึ้นโต๊ะไหว้ในวันตรุษจีน เคล็ดลับอยู่ที่การผัดเส้นหมี่ให้คงความยาว ไม่ตัดเส้น ซึ่งจะสื่อความหมายถึง การมีอายุมั่นขวัญยืน เนื่องจากเส้นหมี่ที่นำมาผัดมีความยาวจึงเชื่อกันว่ารับประทานแล้วทำให้มีอายุยืนยาว ผักหลากสีอุดมไปด้วยวิตามิน และยังมีส่วนช่วยทำให้ผิวพรรณดีอีกด้วย ซึ่งวัตถุดิบลับก็คือ หมี่เตี๊ยว​ เส้นขาว ตราเอโร่ ได้มาตรฐานจากโรงงาน เหนียว นุ่ม ผัดแล้วไม่เละ เส้นสีเหลืองทองสวยชวนทาน และ ซอสผัดอเนกประสงค์​ ตราเอโร่ ที่จะมาช่วยเพิ่มรสชาติให้ผัดหมี่ซั่ว อร่อยกลมกล่อม ใครได้กินก็ต้องติดใจ

 

 

 

สูตร ผัดหมี่ซั่ว ผัดหมี่เตี๊ยว ไหว้ตรุษจีน

 

 ดูคลิปขั้นตอนและวิธีทำ ด้านล่าง 

 

ส่วนผสม ผัดหมี่ซั่ว ผัดหมี่เตี๊ยว

 

  • หมี่เตี๊ยว​ เส้นขาว ตราเอโร่ 250 กรัม
  • อกเป็ดสด 150 กรัม
  • กุ้งสด 120 กรัม
  • ปลาหมึก 70 กรัม
  • แครอท 50 กรัม
  • พริกหยวกสีเหลือง 70 กรัม
  • พริกเหยวสีแดง 70 กรัม
  • น้ำมันสำหรับผัด 50 กรัม
  • ซอสผัดอเนกประสงค์​ ตราเอโร่ 3 ช้อนโต๊ะ
  • เห็ดหอม 20 กรัม
  • พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
  • ถั่วงอก 70 กรัม
  • ต้นหอม 30 กรัม

 

วิธีทำ ผัดหมี่ซั่ว ผัดหมี่เตี๊ยว

 

1. ลวกเส้นหมี่เตี๊ยวในน้ำเดือด ค่อยๆ คน พยายามอย่าให้เส้นขาด

2. นำอกเป็ดมาเซียร์บรกระทะให้สุกพอประมาณ แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ (ตามคลิป)

3. นำกุ้งและปลาหมึกมาลวกให้สุก

4. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันรอจนน้ำมันร้อน ใส่เส้นหมี่ลงไป ตามด้วยกุ้ง และปลาหมึก

5. ผัดจนหอม แล้วใส่อกเป็ดตามลงไป ใส่น้ำมันพืชเพิ่มเล้กน้อย จากนั้นใส่แครอท และพริกหยวกลงไป

6. ผัดต่อสักพัก ใส่เครื่องปรุงทั้งหมด ตามด้วยถั่วงอกและต้นหอม

7. ใช้ไฟแรง ผัดหมี่จนหอม ปิดเตา ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

 

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก