Clayton Gilbert

        เอาใจสายคาเฟ่ ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ ไปอิงแอบแนบชิดธรรมชาติสุดชิล วันนี้เราจะพาไปเช็คอิน กาญจนบุรี กับ คาเฟ่เปิดใหม่ Pachinko สไตล์แคมป์ปิ้ง ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควค่ะ บอกเลยว่าฟีลดี ถ่ายรูปมุมไหนก็ชิค มาคาเฟ่แถมแคมป์ปิ้งไปด้วยงี้ ดีต่อใจสุดๆ รับรองว่าได้รูปปังๆ กลับไปเพียบเลยล่ะค่ะ ตามเพจ บ้านฉันกาญจนบุรี ไปดูกันเล้ยยย

 

 

 

Pachinko คาเฟ่กาญจนบุรี สไตล์แคมป์ปิ้ง

 

        สายคาเฟ่ตามมาค่ะ วันนี้เราจะพาไปเช็คอิน คาเฟ่เปิดใหม่ ซึ่งเค้ามาในธีมแคมป์ปิ้งริมน้ำสุดชิล ! นั่นก็คือ ร้าน Pachinko パチンコ นั่นเองค่ะ บอกเลยว่าสายคาเฟ่ที่อยากมีฟีลแคมป์ปิ้งต้องปักหมุดไว้แน่นๆ 

 

        เทรนด์แคมป์ปิ้งกำลังมาแรงแบบนี้ ที่หาดชื่นฤดีมีหรือจะพลาดกับอีกหนึ่งคาเฟ่น้องใหม่ PACHINKO หรือที่อ่านว่า ปาจิงโก Camp & Coffee ☕️ คาเฟ่เต็นท์แคมป์ปิ้งสุดชิลล์ริมแม่น้ำแคว

 

        บอกเลยว่าถึงแม้ช่วงนี้ทางร้านเค้าจะยังเป็น Soft Opening อยู่ แต่ความดีต่อใจก็จัดเต็มซะแล้วล่ะค่ะ บอกเลยว่าเค้ามีเมนูกาแฟ เครื่องดื่ม และเบเกอรี่หลากหลายเมนูให้เลือกชิล ดีงามไปหมดจริงๆ

 

        สายคาเฟ่ต้องลองไปเปลี่ยนบรรยากาศนั่งชิลในเต็นท์กระโจม ใต้ร่มไม้ใหญ่ และชมวิวริมแม่น้ำแคว บรรยากาศดี๊ดี มีลมพัดโชยมาเย็นๆ 🍃 แถมใครที่เป็นสายถ่ายรูปต้องกดไลค์รัวๆ ไปเลยจ้า เพราะต้องได้รูปชิคๆ ฟีลแคมป์ปิ้งกลับไปแน่นอน

 

        ปักหมุดไว้ให้แน่นๆ ! ในช่วงที่มีสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สามารถมาชิลกันได้ แต่อย่าลืมสวมหน้ากากอนามัย พกเจลล้างมือ และเว้นระยะห่างกันน้า

📍 Pachinko パチンコ

• พิกัด : https://goo.gl/maps/UW6Ecy79sFx5geoeA
• ที่อยู่ : ถนมมหาดไทย ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
• เปิดบริการ : จันทร์ – ศุกร์ 11.00 – 18.30 น. / เสาร์ – อาทิตย์ 10.00 – 19.00 น.
• โทร :‪ 08-6387-5187
• ที่จอดรถ 🚘 : มี
• เว็บไซต์ : https://web.facebook.com/Pachinko

 

🙏 ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากเพจ บ้านฉัน กาญจนบุรี

        วันหยุดสุดสัปดาห์ทั้งที จะนอนกดมือถือ ดูหนังอยู่ที่บ้าน ก็จะดูจำเจเกินไป ลองออกไปหา คาเฟ่ ร้านกาแฟ น่านั่ง อารีย์ ถ่ายรูปเล่น เก๋ๆ กับแก๊งค์เพื่อน กันดูไหมครับ ? ครั้งนี้ เราได้รวม 30 คาเฟ่ ร้านกาแฟ ซอยอารีย์ อัพเดท 2021 จิบกาแฟชิลล์ๆ เดินแวะถ่ายรูปสวยๆ สโลว์ไลฟ์ได้ในวันหยุด กันดีกว่าครับ จะมีร้านไหน น่าไปโดนบ้าง ไปดูกันเลย

 

 

คาเฟ่ ร้านกาแฟ อารีย์ อัพเดท 2021

 

1. Noel Coffee

        Noel Coffee ตั้งอยู่ในโครงการ Feast Ratchakru อารีย์ ที่ร้านแม้จะมีขนาดเล็กตามแบบฉบับคอฟฟี่สแตนด์ แต่กลับมีความน่าสนใจในการใช้พื้นที่เล็กๆ แต่กลับดีไซน์ออกมาได้ดูโมเดิร์น สไตล์ญี่ปุ่น  แม้จะมีที่นั่งไม่มาก และเน้นการ Grab & Go เป็นหลัก ในส่วนของเมนูกาแฟ ที่ร้านให้ความสำคัญกับวัตถุดิบมาก มีเมล็ดกาแฟให้เลือกเยอะ สายกาแฟห้ามพลาด

อ่านรีวิวเพิ่มเติม : Noel Coffee คาเฟ่เปิดใหม่ ร้านกาแฟ อารีย์ coffee stand สุดชิค ที่ห้ามพลาดมาเช็คอิน!

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/LKhgGfoX1jkqx8896
• ที่อยู่ : 1354 พหลโยธิน 5 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
• เปิดบริการ : จันทร์ – ศุกร์ 07.30 – 18.00 น. / เสาร์ – อาทิตย์ 08.30 – 18.00 น.
• โทร : 06-2420-4416
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/noelcoffee.bkk/

 

=============

 

2. Camp Cafe Ari

       Camp Cafe Ari คาเฟ่ฟิลแคมป์ปิ้ง ตั้งอยู่ย่านอารีย์ เกิดจากความตั้งใจของเจ้าของร้าน ที่ชอบเดินทางเข้าป่า ตั้งแคมป์เป็นประจำ ทำให้เกิดไอเดีย ยกการแคมป์ปิ้งมาอยู่ในจากเมือง แถมยังเป็นย่านฮิตของเหล่า cafe hopper อีกด้วย อีกทั้งทำเลที่ตั้งค่อนข้างเงียบสงบ เต็มไปด้วยต้นไม้ปกคลุม ทำให้ได้ฟิลเหมือนเข้าป่าจริงๆ บอกเลยว่ายิ่งช่วงหน้าหนาวแบบนี้ ยิ่งฟิน

อ่านรีวิวเพิ่มเติม : Camp Cafe Ari คาเฟ่อารีย์ ฟิลแคมป์ปิ้งกลางกรุงสุดชิค รับหน้าหนาว! ⛺️

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/omue3BufwcmcheYu5
• ที่อยู่ : 8 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
• ร้านเปิดบริการ : 10.00 – 19.00 น.
• โทร : 06-3232-2424
• ที่จอดรถ : มี
• เว็บไซต์ : https://web.facebook.com/CampCafe.Ari

 

===============

 

3. NANA Coffee Roasters

 

 

 

       NANA Coffee Roasters Ari ร้านกาแฟแนว Specialty Coffee ที่เปิดสาขาที่ไหนก็แน่น เปิดตรงไหนก็คนเยอะร้านแตก สำหรับสาขาใหม่เค้ามาปักหลักตั้งร้านอยู่ที่ อารีย์ ซอย 4 ฝั่งใต้ ที่นี่มีเมล็ดกาแฟคุณภาพดีจากทั่วโลกให้คอกาแฟได้สั่งมาลิ้มลอง มีให้เลือกทั้งแบบ Slow Bar และ Speed Bar หรือสำหรับสาย Cafe Hopping เราบอกเลยว่าต้องห้ามพลาดร้านนี้ เพราะเค้ามีดีทั้งเมนูเครื่องดื่ม เบเกอรี่ และยังมีมุมดีๆ ให้ถ่ายรูปสวยๆ กลับไปอีกเยอะมากเลยทีเดียว

อ่านรีวิวเพิ่มเติม : NANA Coffee Roasters Ari คาเฟ่ ร้านกาแฟเปิดใหม่ อารีย์ การันตีความฟิน

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/uEoBU9bP2Vcgtuds9
• ที่อยู่ : ซอย อารีย์ 4 ฝั่งใต้ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
• ร้านเปิดบริการ : 07.00 – 18.00 น. (เสาร์-อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ เปิด 08.00 น.)
• โทร : ไม่ระบุ
• ที่จอดรถ : มี
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/nanacoffeeroastersari

 

===============

 

4. DROP BY DOUGH at ARI

       DROP BY DOUGH at ARI ร้านดังที่มาเปิดสาขาย่านอารีย์อีกหนึ่งที่ ถึงตัวร้านจะเป็นไซส์มินิ แต่บอกเลยว่าคุณภาพคับแก้ว ทางร้านออกแบบมาอย่างดี ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย เพราะเค้ายังคงคอนเซ็ปต์ ร้านสวย โดนัทอร่อย โดยสาขานี้ยังคงมีขายทั้งโดนัทและเครื่องดื่มอยู่เหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือมีไอศครีมเพิ่มเข้ามาด้วยจ้าา สายขนมทั้งหลายไม่ควรพลาดด

อ่านรีวิวเพิ่มเติม : DROP BY DOUGH at ARI คาเฟ่เปิดใหม่ ย่านอารีย์ ทีเด็ดอยู่ที่โดนัท 🍩

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/uBi9GRbQw7vnDuqG9
• ที่อยู่ : ใน JOSH HOTEL ซอย อารีย์ 4 ฝั่งเหนือ แขวง/เขต พญาไท กรุงเทพฯ
• ร้านเปิดบริการ : 10.00 – 18.00 น.
• โทร : 09-6393-8838
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/dropbydough

 

===============

 

5. Oh Vacoda Café

        ร้านต่อมาเราจะพาทุกคนไปรู้จักกับร้าน Oh Vacoda Café คาเฟ่สไตล์ Miami Beach สุดชิค เปิดใหม่ในอารีย์สัมพันธ์ ซอย 4 อกเลยว่าวงการอะโวคาโดจะต้องเปลี่ยนไป ! เพราะความแปลก และน่าสนใจของคาเฟ่ที่นี่ คือเจ้าของร้านได้พยายามคิดค้น ทำสูตรเมนูเบเกอรี่ เครื่องดื่ม และอาหารประเภทคาว โดยใช้ส่วนผสมหลัก ก็คืออะโวคาโดแทบจะทุกเมนู นั่นเอง แนะนำว่าให้มาลองกันเอง จะได้รู้ว่ามันดีแค่ไหน ฮ่าๆ

อ่านรีวิวเพิ่มเติม : Oh Vacoda Café คาเฟ่ เปิดใหม่ อารีย์ สวรรค์คนรักอะโวคาโด ที่ต้องมาลอง

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/mb3Gm3nbXGERn4kn9
• ที่อยู่ : 1, 1 ซอยอารีย์สัมพันธ์ 4 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
• ร้านเปิดบริการ : 11.00 – 21.00 น. (ปิดวันอังคาร)
• โทร : 08-0569-7892
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/ohvacodabkk

 

===============

 

6. BONCI

      BONCI คาเฟ่ ร้านกาแฟ สุดมินิมอล สไตล์เกาหลี ย่านสะพานควาย ที่เชื่อมต่อกับถนนอารีย์ที่มีคาเฟ่เยอะไม่แพ้กัน โดยที่นี่มีความชิคปนเท่ เหมือนยกความมินิมอลในแบบเกาหลี มาไว้ในร้านได้เป๊ะๆ ลงตัวไม่ขาดไม่เกิน แถมยังมีเมนูกาแฟและครัวซองต์สุดอร่อยไว้รองรับ cafe hopping อีกเพียบ สายคาเฟ่ต้องรีบตามไปเช็คอินให้ไวก่อนจะช้ากว่าเพื่อนนะจ๊ะ

อ่านรีวิวเพิ่มเติม : BONCI คาเฟ่เปิดใหม่ สะพานควาย สไตล์เกาหลี คาเฟ่สุดชิค ที่สายฮิปห้ามพลาดมาเช็คอิน!

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/d68HTMYQfw8Aypeg6
• ที่อยู่ : 1477 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
• ร้านเปิดบริการ : 10.00 – 18.00 น.
• โทร : 06-4646-9245
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/hellobonci/

 

===============

 

7. Laze BKK

      เพิ่งเปิดร้านได้ไม่นาน แต่ก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม สำหรับร้าน Laze BKK เป็นเพราะการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ภายในร้านและบนดาดฟ้า ที่เรียกได้ว่าเป็นมุมมหาชน ถ่ายรูปออกมาที นึกว่าไป Hopping อยู่ที่เกาหลี แล้วก็ไม่มีดีแค่ร้านสวยนะคะ ร้านนี้เขาเป็นสาย Specialty Coffee มีเมนูกาแฟให้เลือกหลากหลาย แต่เมนู Non-Coffee และเบเกอรี่ก็มีให้เราได้เลือกหลากหลายมากเลยหล่ะค่ะ

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/xLc6XwqYqenTiccXA
• ที่อยู่ : 59-61 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
• ร้านเปิดบริการ : วันอังคาร-ศุกร์ 08.00-17.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ 08.30-18.30 น. (ปิดวันจันทร์)
• โทร : 06-5953-4495
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Lazebkk

 

===============

 

8. Sleep Enemy

      Sleep Enemy ร้านกาแฟชื่อดังจากเกาะสมุย ที่เคยมาเปิดที่กรุงเทพฯแล้วครั้งนึง กลับมาใหม่คราวนี้แน่นอนว่าต้องไฉไลกว่าเดิม การตกแต่งร้านแบบเรียบง่าย ใช้แพงสีแดงกับสีขาวมาตัดกัน ดูสะอาดตา คลีน ๆ แถมยังมีเมนูกาแฟแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใครอย่าง Lastberry กาแฟรสเข้มผสมกับเบอร์รี่กลิ่นหอม ๆ มันลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ใครที่กำลังมองหาคาเฟ่เท่ ๆ อยู่ ร้านนี้เหมาะมากพูดเลย!

 

• พิกัด : https://g.page/sleepenemysupply?share
• ที่อยู่ : 466/33-34 โครงการ The Hub แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
• ร้านเปิดบริการ : 10.00 – 17.00 น. (ปิดวันพุธ)
• โทร : 064-915-6696
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/sleepenemy

 

===============

 

9. Porcupine Café

         ใครที่ชอบดื่มด่ำกับลาเต้อาร์ต ต้องไม่พลาดร้านนี้ เพราะที่นี่มีการเสิร์ฟลาเต้อาร์ตสามมิติ ให้ทุกแก้วอีกด้วย และจุดเด่นของร้านอีกอย่างหนึ่ง คือ การตกแต่งร้านสไตล์บ้านไม้ เพราะทั้งร้าน ใช้วัสดุที่เป็นไม้ตกแต่งอยู่แทบทั้งร้าน รวมไปถึงจักรยานเก่าๆ และแนวๆ ที่ทางเจ้าของร้านนำออกมาตั้งโชว์อีกด้วย

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/4qQM8GSLgMvggQYL7
• ที่อยู่ : 48 ซอยอารีย์ 4 ฝั่งเหนือ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
• ร้านเปิดบริการ : 11.00 – 20.00 น. / พฤหัสบดี – เสาร์ 11.00 – 22.00 น.
• โทร : 0-2126-7811
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/porcupineari/

 

===============

 

10. ทองย้อย

 

 

        อีกหนึ่งคาเฟ่ ในซอยอารีย์ ที่มาแรงมากๆ ในขณะนี้ ก็คือร้าน ทองย้อย หากมีโอกาสได้แวะเวียนมาที่นี่ อย่าพลาดที่จะสั่งเมนู เค้กบัวลอยไข่หวาน เพราะถือเป็นเมนูซิกเนเจอร์ประจำทองย้อยเลยก็ว่าได้ นั่นเองครับ ส่วนเรื่องการตกแต่ง ก็ประทับใจเช่นเดียวกัน ที่นี่มาในสไตล์การตกแต่งแบบทรอปิคอล ผนังสีอิฐๆ ชมพูๆ มีมุมต้นไม้ฟีลประมาณเม็กซิโก และมาดากัสการ์

อ่านรีวิวเพิ่มเติม : ทองย้อย คาเฟ่ อารีย์ ร้านขนมไทย ฟิวชั่น จูงมือเพื่อนสาวไปนั่งชิลกัน มุมถ่ายรูปสวยเพียบ

 

• พิกัด : https://g.page/thongyoycafe?share
• ที่อยู่ : 88/2 ซอยอารีย์สัมพันธ์ 7 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
• ร้านเปิดบริการ : 8.00 – 22.00 น. / เสาร์-อาทิตย์ 10.00 – 22.00 น.
• โทร : 08-3298-7288
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/thongyoycafe/

 

===============

 

11. เวฬาฌา

          คาเฟ่เพิ่งเปิดใหม่ ที่ต่อมาในซอยอารีย์ เราขอพาทุกคนไปรู้จักกับร้าน เวฬาฌา ร้านนี้ก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งร้านที่คงธีมไทยๆ แต่บอกเลยว่าจุดเด่นของที่นี่ก็คือ ขนมไทยรสชาติไทย ออริจินัล นั่นเองครับ เรียกได้ว่าตักกินเข้าไปคำนึงนี่ ให้ฟีลเหมือนคุณหญิงทองกีบม้านั่งกวนน้ำตาลเองกับมือ บอกเลยว่าห้ามพลาด

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/GzZ1qaaxtAZfkqQEA
• ที่อยู่ : ซอยอารีย์ 1 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
• ร้านเปิดบริการ : 11.00 – 20.30 น.
• โทร : 06-3087-8888
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/vlacha

 

===============

 

12. Landhaus Bakery

        ร้านคาเฟ่ร้านต่อมาเราจะพาทุกคนไปนั่งคาเฟ่ฟีลบ้านๆ สำหรับร้าน Landhaus Bakery บอกเลยว่าบรรยากาศรอบๆ ของคาเฟ่ที่นี่ดีมาก มีขนาดเล็กๆ เจ้าของตั้งใจทำร้านนี้ให้ออกมาในฟีลบ้าน อบอุ่นสไตล์โฮมเมด เมนูเด็ดที่นี่ก็คงหนีไม่พ้นพวกเบเกอรี่ ขนมปังต่างๆ แนะนำว่าใครเป็นสายขนมปังล่ะก็ ต้องมาลองเลย เพราะมันหอมมาก

 

 

===============

 

13. Chuanpisamai Cafe

          ขอเอาใจสายวินเทจ กันด้วยร้าน Chuanpisamai Cafe คาเฟ่สไตล์วินเทจ ที่มีขายทั้งเครื่องดื่มเมนูแปลกๆ สีพาสเทล เค้ก รวมไปถึงเสื้อผ้าแนววินเทจด้วยนั่นเองครับ อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยว่า ร้านนี้มีชื่อเสียงในหมู่วัยรุ่นเป็นอย่างมาก คงเป็นเพราะ บรรยากาศ และการตกแต่งภายในร้าน ที่ไม่ว่าจะถ่ายรูปกับมุมไหน ก็สวยทุกมุม

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/4iuEtLvc5QSHz9MBA
• ที่ตั้ง : ถนน 179 ซอยพหลโยธิน 11 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
• เปิดบริการ : 10.00 – 19.00 น. (ปิดวันจันทร์)
• โทร : 09-5554-0638
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Landhausbakeryari/

 

===============

 

14. Bar Storia del Caffe

         ร้านกาแฟ ร้านนี้ เราขอแนะนำว่า ไม่ควรพลาดที่จะไปโดนเป็นอย่างมาก เพราะเนื่องจากทางร้านมีเมนูอาหารที่หลากหลาย ให้เราอิ่มได้ โดยที่ไม่ต้องไปต่อร้านไหนอีกเลย อาทิ ของคาวสไตล์ยุโรป และ ของหวาน ขนมปังฝรั่งเศส เป็นต้น รวมไปถึงทุกคนยังสามารถเพลิดเพลินไปกับ สปาให้นวดคลายเส้นในด้านหลังอีกด้วย จุดเด่นของร้านอีกอย่างหนึ่ง ที่จะไม่พูดถึงเลยก็ไม่ได้ ก็คือ บรรยากาศ และสไตล์การตกแต่งของร้าน ในแบบยุโรปสมัยใหม่ ผสมผสานกับความธรรมชาติของต้นไม้นานาชนิดอย่างลงตัวในพื้นที่จำกัด รับรองเลยว่า ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหน ก็สวยอย่างแน่นอน

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/rPpXnifCiyP7RL6n6
• ที่ตั้ง : 13 ซอยพหลโยธิน 7 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
• เปิดบริการ : 09.00 – 21.00 น. (ปิดวันจันทร์)
• โทร : 08-2581-9026
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Landhausbakeryari/

 

===============

 

15. Frank Cake Bar

          แม้ว่าร้านนี้จะไม่มีที่นั่ง เนื่องจากเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ใน อารีย์ ซอย 1 แต่ใครจะไปคิดว่าลูกค้าที่นี่ เยอะมาก หากไปในวันหยุด จะเห็นแถวที่ต่อเพื่อซื้อเครื่องดื่มร้านนี้อย่างชัดเจน เมนูที่กำลังฮิตอยู่ในขณะนี้ คือเมนู โกโก้เย็นสูตรเข้มข้น ฉะนั้นวันหยุดนี้ ขอให้ทุกคนตื่นตอนเช้า แล้วไปยืนต่อแถวหน้าร้านนี้กันเถอะ 

 

 

===============

 

16. Hor Hidden Café

          เดินตรงถัดออกมาหน่อย จากร้าน Frank ก็จะพบร้าน Hor Hidden Café อยู่ทางขวามือ เป็นอีกหนึ่งร้านที่มีที่นั่งกว้างขวาง บรรยากาศเงียบสงบ และรวมไปถึงเมนูของคาว ของหวาน มาเสิร์ฟให้ทุกคน จนอิ่มพุงกางกลับบ้าน ราคาก็ไม่แรง ประหยัดงบได้อีกด้วยครับ

 

• พิกัด : https://g.page/HorHiddenCafe?share
• ที่ตั้ง : 40, 2 ซอยอารีย์ 1 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
• เปิดบริการ : 10.00 – 22.30 น. (วันอังคาร)
• โทร : 08-8974-0419
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/HorHiddenCafe/

 

===============

 

17. Purutan

         อีกหนึ่งร้านกาแฟ ที่ทุกคนไม่ควรพลาด คือ ร้าน Purutan เพราะร้านนี้ เมนูจำพวกเค้ก อร่อยฟิน ละมุนลิ้น เป็นอย่างมาก รวมไปถึงบรรยากาศภายในร้าน ที่ดูชวนหลงใหลไปกับยุคเก่าในยุโรป และหลังคาเรือนกระจก จนหลายๆ คนที่ไปมา ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “อิ่มอร่อย เหมือนไปกินที่ยุโรปจริงๆ”

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/yg947AVpEzAduoYZA
• ที่ตั้ง : 46/1 ชอยอารีย์ 5 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
• เปิดบริการ : 13.00 – 23.00 น. (ปิดวันจันทร์)
• โทร : 0-2357-1099
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/HorHiddenCafe/

 

===============

 

18. Slowhands Café

       Slowhands Café คาเฟ่สไตล์มินิมอล ที่รอให้เราได้ไปใช้ชีวิตแบบสโลว์ ๆ กัน ตัวร้านมีขนาดกะทัดรัด น่ารักกำลังดี โดยเฉพาะมุมหน้าร้าน นึกว่าวาร์ปไปอยู่เกาหลี แต่ถึงร้านจะเล็ก แต่ภายในร้านอัดแน่นไปด้วยเมนูขนมและเครื่องดื่ม หน้าตาน่าอัพรูปลงสตอรี่มากกกกก แถมราคายังสบายกระเป๋าสุด ๆ เหมาะกับวันว่าง ๆ ไม่รู้จะไปไหน ลองแวะมา Hopping กันแบบสโลว์ ๆ ที่ Slowhands Café กันดูนะคะ

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/eLMFQ7LjjmWkna8c6
• ที่อยู่ : 9 23 ประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
• ร้านเปิดบริการ : วันอังคาร-ศุกร์ 09.00-16.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ 10.00-16.00 น. (ปิดวันจันทร์)
• โทร : 064-990-9654
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/slowhands.cafe

 

===============

 

19. Sateaday Café

      Sateaday Café คาเฟ่เล็ก ๆ ในโครงการ The Hub ตัวร้านมีความมินิมอลนิด ๆโคเรียหน่อย ๆ มีมุมถ่ายรูปพอกรุบกริบ ร้านนี้จะเน้นขายเครื่องดื่มประเภทชา ไม่ว่าจะเป็นชานม ชาใส หรือแม้แต่บราวชูการ์ที่ท็อปด้วยครีมชีสสูตร Non-Fat สูตรของทางร้าน พูดเลยว่าของเขาดีจริงทุกเมนู ราคาเริ่มต้นเบา ๆ ที่ 40 บาทเท่านั้นเอง

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/kDt3wvB7UGxiWRX38
• ที่อยู่ : 466/9 ถนนสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
• ร้านเปิดบริการ : วันจันทร์-ศุกร์ 07:30-18:30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ 09:30 – 19:00 น.
• โทร : 094-516-9415
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Sateadaycafe

 

===============

 

20. Perfect Strangers Bangkok

      Perfect Strangers Bangkok ร้านนี้กลางวันเป็นคาเฟ่ กลางคืนกลายร่างเป็นบาร์จ้า ในช่วงกลางวันเราอยากแนะนำให้ทุกคนมานั่งจิบกาแฟกันเพลิน ๆ เพราะเขามี Coffee Mocktail ให้เราได้เลือกดื่ม แถมทุกรสชาติ เป็นสูตรที่ทางร้านคิดขึ้นมาเองเลย นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารสไตล์ฟิวชั่น ลูกครึ่งอิตาเลียน-ญี่ปุ่น รอเสิร์ฟทุกคนอยู่ตลอดทั้งวัน ช่วงเย็น ๆ ก็สามารถชวนแก๊งค์เพื่อนไปนั่งเม้าท์กันยาว ๆ ได้เลยจ้า เพราะร้านเขาเปิดถึงเที่ยงคืน!

 

 

===============

 

21. Before Thirtieth Café

      Before Thirtieth Café คาเฟ่สีน้ำเงินสะดุดตาในซอยพหลโยธิน 11 ร้านนี้เป็นร้านเงียบ ๆ เหมาะกับการมาใช้เวลากับตัวเอง ค่อย ๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศ เครื่องดื่มและขนมหลากหลายเมนูที่ทางร้านตั้งใจทำมาให้เรา ภายในร้านได้จัดแบ่งพื้นที่ไว้อย่างลงตัว มีหลายมุมให้เราได้เลือกนั่ง ใครที่กำลังมองหาคาเฟ่สำหรับไปนั่งเล่นชิลล์ ๆ หรือนั่งทำงานเงียบ ๆ เราขอแนะนำร้านนี้เลยจ้า

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/FVK47LM1oZXSj6wY9
• ที่อยู่ :  36/4, 10 ประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
• ร้านเปิดบริการ : วันจันทร์-ศุกร์ 09.00-19.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ 10.00-20.00 น. (ปิดวันพุธ)
• โทร : 09-4421-8636
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/beforethirtieth.cafe

 

===============

 

22. Common Room x Ari

 

 

 

23. The Crack Cafe

 

 

        The Crack Cafe คาเฟ่สำหรับสายรักธรรมชาติ ในหมู่แมกไม้นานาชนิด โอบล้อมร้านไว้ ทำให้บรรยากาศได้ความสงบร่มรื่นเป็นอย่างมาก โดยที่นี่มีคอนเซ็ปต์สุดอบอุ่นว่า คาเฟ่ในบ้าน ที่นอกจากจะหมายถึงบรรยากาศแล้ว ยังรวมไปถึงเมนูเครื่องดื่มและอาหารก็เป็นสไตล์โฮมเมด เหมือนเราไปนั่งจิบกาแฟ กินขนมที่บ้านเพื่อนนั่นเอง

 

 

24. POET HOUSE CAFE

 

 

       POET HOUSE CAFE คาเฟ่สุดชิลในซอยอารีย์ 5 บรรยากาศภายนอกเหมือนเรากำลังเดินเข้าไปในบ้านสุดแสนมินิมอลอบอุ่นหนึ่งหลัง เมนูของที่นี่ เน้นไปในเชิง Comfort Food สามารถนั่งทำงานหรือแฮงค์เอาท์ได้ยาวๆ มีทั้งมุมในบ้านที่แสนจะอบอุ่น หรือมุมนอกบ้านมองเห็นพื้นสนามหญ้าสุดจะสบายตา บอกเลยว่าเป็นคาเฟ่เหมาะกับครอบครัวสุดๆ ไปเลย

 

 

===============

 

25. Witty Ville

 

 

         Witty Ville ร้านขนมหวาน และเบเกอรี่ขนาดจิ๋ว ที่มีหน้าร้านสุดแสนจะมินิมอลสไตล์ญี่ปุ่น รวมไปถึงความโด่งดังของร้านนี้คือมีเมนูสโคนสุดอร่อยหลากหลายรสชาติ ที่ทุกคนต้องแวะมาสั่งให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นรส แมคคาดาเมีย นูเทลล่าและเบค่อนชีส ที่อบใหม่ทุกวัน บอกเลยว่าสายสโคนไม่ควรพลาดร้านนี้จ้า

 

 

26. Fika & Co. Cafe

 

 

       เป็นอีกหนึ่งสาขาย่านอารีย์ที่พึ่งเปิดได้ไม่นานกับ Fika & Co. ร้านที่เป็นจุดแลนด์มาร์คของคนรักกาแฟเอาไว้ เพราะที่นี่มีบาริสต้ามากความสามารถ และเมล็ดกาแฟที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี ในแบบที่คอกาแฟต้องแวะมาให้ได้ นอกจากนี้บรรยากาศร้านยังมีความเท่ ในแบบที่สายฮอปเปอร์ต้องอยากตามมาถ่ายรูปแน่นอน 

 

 

27. Volks

 

28. TROPI HOOLA

 

 

Sasitron Watcharakorn 3Followers

ขื่อร้าน ฮ่องเต้ สุกี้ ปิ้งย่าง หัวละ 199฿ ไม่รวมเครื่องดื่ม ถ้ารวมเครื่องดื่ม ตกหัวละ 228฿ อร่อย น้ำจิ้มอร่อย น้ำซุปใสอร่อย ของคุณภาพดี คุ้มราคามากๆ ไม่สงสัยว่าทำไมคนเต็มตลอดและเข้าคิวรอทุกวัน กะทะส่วนต้ม ร้อนไวมากเดือดปุดๆ แต่ส่วนปิ้งร้อนช้ากว่า แต่โดยรวม รับได้ มีไอติมฟรีให้กิน อร่อยเพลิน ลืมถ่ายรูปตอนปิ้งย่างเลย 55
พิกัด เคหะร่มเกล้า
ไปซ้ำแน่นอนจ้า
#rettyhappyjan

     ชาว หม้อทอดไร้น้ำมันเลิฟเวอร์ คนไหนกำลังมองหา สูตรทำขนม ด้วยหม้อทอดไร้น้ำมันอยู่ วันนี้ TrueID Food รวบรวมมาให้แบบจัดเต็ม กับ 15 สูตรทำขนม ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน เมนูอร่อย ทำง่าย อยู่บ้านก็มีขนมอร่อยๆ ทานได้ รับรองว่าถูกใจสมาชิกทุกคนในครอบครัว มีทั้งขนมไทย ขนมอบ เบเกอรี่ต่างๆ โอ้ยยย เยอะแยะบอกเลยว่าฟิน!!

 

 

สูตรทำขนมด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน

 

1. สูตรทาร์ตไข่ ด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน

 

 

ส่วนผสม ทาร์ตไข่

• แป้งทาร์ตสำเร็จรูป (แช่แข็ง) 15 ถ้วย
• ไข่แดง (ไข่ไก่เบอร์ 1) 4 ฟอง
• วิปปิ้งครีม (เดลี่) 300 กรัม
• นมสด (จืด) 100 กรัม
• น้ำตาลทราย 75 กรัม
• เกลือ 1/4 ช้อนชา
• กลิ่นวนิลา 1/2 ช้อนโต๊ะ (ถ้าใช้แบบสังเคราะห์วินเนอร์ ใส่แค่ 1/2 ช้อนชา)

 

ดูสูตรและวิธีทำเพิ่มเติม ที่ : แจกสูตร ทาร์ตไข่ ด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน หน้าเนียนสวย อร่อยฟินทุกคำ

 

 

2. สูตรทำขนมปัง 2 รสชาติ ด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน

 

 

ส่วนผสม ขนมปังลูกเกด และ ขนมปังช็อกโกแลต

 

• แป้งขนมปัง 1.5 ถ้วยตวง
• กล้วยหอมสุก 1 ผล (ยิ่งสุก ยิ่งหวาน)
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• ยีสต์ผง 1 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
• นมข้น 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
• กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
• นมสด (เอาไว้เติมถ้าแป้งแห้งไป)
• ลูกเกด
• ช็อกโกแลตชิพ

 

ดูสูตรและวิธีทำเพิ่มเติม ที่ : สูตรทำขนมปัง 2 รสชาติความอร่อย วิธีอบขนมปัง ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

 

3. สูตรทำขนมปัง 2 รสชาติ ด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน

 

 

ส่วนผสม ชีสเค้ก หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

ส่วนที่ 1

1. ครีมชีส (Cream cheese) 100 กรัม
2. เนยจืด (Butter) 20 กรัม
3. นม (Milk) 60 มิลลิลิตร (ml)
4. ไข่แดง (Egg Yolks) 2 ฟอง
5. แป้งเค้ก (Cake flour) 2 ช้อนโต๊ะ

 

ส่วนที่ 2

1. ไข่ขาว (Egg whites) 2 ฟอง
2. ครีมออฟทาทาร์ (Cream of Tartar) 1/4 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำตาลป่น (Granulated Sugar) 3 ช้อนโต๊ะ

 

ดูสูตรและวิธีทำเพิ่มเติม ที่ : สูตรทำชีสเค้ก ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน อร่อยนุ่ม ชุ่มฉ่ำ หอมชีสนัวๆ

 

 

4. สูตรเค้กกล้วยน้ำว้า ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

 

ส่วนผสม เค้กกล้วยน้ำว้า สูตรหวานน้อย

 

• กล้วยน้ำว้าสุกงอม 5 ลูก
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• แป้งอเนกประสงค์ 250 มิลลิลิตร
• นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
• เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
• น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

 

ดูสูตรและวิธีทำเพิ่มเติม ที่ : สูตรทำเค้กกล้วยน้ำว้า ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน สูตรหวานน้อย อร่อยจัดหนัก

 

 

5. สูตรบราวนี่ ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

 

ส่วนผสม บราวนี่ หม้อทอดไร้น้ำมัน

• น้ำมันหรือเนยจืด 50 มิลลิลิตร
• น้ำตาล 65 กรัม
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• แป้งสาลีเอนกประสงค์ 30 กรัม
• ผงโกโก้ 20 กรัม
• เกลือ 1/4 ช้อนชา
• กลิ่นวนิลา 1/2 ช้อนชา

 

ดูสูตรและวิธีทำเพิ่มเติม ที่ : แจกสูตรทำ บราวนี่ ด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน เนื้อแน่น เข้มข้น อร่อยได้ไม่ง้อเตาอบ

 

 

6. สูตรขนมปังกรอบเนยน้ำตาล หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

วิธีทำ ขนมปังกรอบเนยน้ำตาล หม้อทอดไร้น้ำมัน

▼

 

ส่วนผสม ขนมปังกรอบเนยน้ำตาล หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

• ขนมปังแผ่น
• เนยสด
• น้ำตาล

 

7. สูตรเผือกทิพย์ ในหม้อทอดไร้น้ำมัน

 

วิธีทำ เผือกทิพย์ หม้อทอดไร้น้ำมัน

▼

 

ส่วนผสม เผือกทิพย์ หม้อทอดไร้น้ำมัน

• ข้าวโพดต้ม 150 กรัม
• กะทิ 150 มิลลิลตร (ml)
• น้ำตาล 120 กรัม
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• ผงฟู 1/2 ช้อนชา

 

 

8. สูตร ขนมไข่นกกระทา ด้วย ทอดไร้น้ำมัน

 

วิธีทำ ขนมไข่นกกระทา ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

▼

 

ส่วนผสม ขนมไข่นกกระทา ด้วย ทอดไร้น้ำมัน

 

• มันไข่นึ่ง หรือ ต้ม 350 กรัม
• แป้งมันสำประหลัง 1 ถ้วยตวง
• แป้งสาลีเอนกประสงค์ 1/3 ถ้วยตวง
• น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วยตวง
• เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• นมข้นจืด หรือ กระทิ 70 มิลลิลตร (ml) (หรือน้ำเปล่าก็ได้)

 

 

9. สูตรบัตเตอร์ เค้ก สูตรลดน้ำตาล 50% ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

วิธีทำบัตเตอร์ เค้ก ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

▼

 

ส่วนผสมบัตเตอร์ เค้ก ด้วย ทอดไร้น้ำมัน

 

• แป้งเค้ก 75 กรัม
• ผงฟู 1/2 ช้อนชา
• เนยจืด 90 กรัม
• เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 55 กรัม (ใช้น้ำตาลไอซิ่งจะละลายง่ายกว่า)
• สารให้ความหวาน อิริทริทอล 3 ช้อนโต๊ะ
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• นมสด 30 มิลลิลิตร
• กลิ่นวนิลา 1/2 ช้อนชา

 

**ถ้าใช้น้ำตาลทรายอย่างเดียว ใช้ 55 กรัม

 

 

10. สูตร ชีสเค้กหน้าไหม้ ด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน

(Basque Burnt Cheesecake Air Fryer)

 

วิธีทำ ชีสเค้กหน้าไหม้ ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

▼

 

ส่วนผสม ชีสเค้กหน้าไหม้ ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

• ครีมชีส 100 กรัม
• น้ำตาลทราย 35 กรัม
• ไข่แดง 1 ฟอง
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• ครีมสด (cooking cream) 50 กรัม (ใช่นมแทนได้)
• แป้งข้าวโพด 3 กรัม
• กลิ่นวนิลา ครึ่งฝา (1/2 ช้อนชา)
• เกลือ เล็กน้อย

 

 

11. สูตร พายไส้กรอก ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

วิธีทำ พายไส้กรอก ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

▼

 

ส่วนผสม พายไส้กรอก ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

• แป้งพายชั้นแช่แข็ง
• ไส้กรอก
• ไข่

 

 

12. สูตรทำ สโคน ( Scone) ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

วิธีทำ สโคน ( Scone) ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

▼

 

ส่วนผสม สโคน ( Scone) ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

• แป้งเค้ก 200 กรัม
• ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ 1/4 ช้อนชา
• นม 30 มิลลิลิตร (ml)
• มาการีน หรือ เนย 60 กรัม
• น้ำตาล 15 กรัม
• ไข่ไก่ 1 ฟอง

 

 

13. สูตรทำ มาการอง ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

วิธีทำมาการอง ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

▼

 

ส่วนผสม มาการอง ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

ส่วนผสม ตัวมาการอง

• อัลมอนด์ป่น 40 กรัม
• น้ำตาลไอซิ่ง 40 กรัม
• ไข่ขาว 30 กรัม
• น้ำตาลทรายป่น 40 กรัม

 

ส่วนผสม ไส้มาการอง

• เนยจืด 30 กรัม
• โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลไอซิ่ง 1/2 ช้อนโต๊ะ

 

 

14. สูตรทำ ชิฟฟ่อนมะพร้าวอ่อน ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

วิธีทำชิฟฟ่อนมะพร้าวอ่อน ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

▼

 

ส่วนผสม ชิฟฟ่อนมะพร้าวอ่อน ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

• แป้งเค้ก (พัดโบก) 50g
• ผงฟู 1/2 ช้อนชา
• เกลือ 1/8 ช้อนชา
• น้ำตาลป่น 25 กรัม
• น้ำมันพืช 25g (เราใช้น้ำมันรำข้าว)
• น้ำมะพร้าว 15 กรัม
• กระทิ 20 กรัม
• ไข่แดง 2 ฟอง (เบอร์ 2)

 

เมอแรงค์

• ไข่ขาว 2 ฟอง (เบอร์ 2)
• น้ำตาลป่น 35 กรัม
• ครีมออฟทาร์ทา 1/8 ช้อนชา

 

 

15. สูตรทำ เค้กช็อกโกแลต ลาวา ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

วิธีทำเค้กช็อกโกแลต ลาวา ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

▼

 

ส่วนผสม เค้กช็อกโกแลต ลาวา ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

• ดาร์กช็อกโกแลต 70% 70 กรัม
• เนยจืด 40 กรัม
• ไข่ไก่ 1 ฟอง (เบอร์1)
• ไข่แดง 1 ฟอง (เบอร์1)
• น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/3 ถ้วยตวง
• เกลือ นิดหน่อย
• กลิ่นวนิลา 1/2 ช้อนชา

 

 

 

 

 

สูตรขนมปังลูกเกด หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

 ดูคลิปขั้นตอนและวิธีทำ ด้านล่าง 

▼

 

ส่วนผสม ขนมปังลูกเกด และ ขนมปังช็อกโกแลต

 

• แป้งขนมปัง 1.5 ถ้วยตวง
• กล้วยหอมสุก 1 ผล (ยิ่งสุก ยิ่งหวาน)
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• ยีสต์ผง 1 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
• นมข้น 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
• กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
• นมสด (เอาไว้เติมถ้าแป้งแห้งไป)
• ลูกเกด
• ช็อกโกแลตชิพ

 

วิธีทำ ขนมปังลูกเกด ขนมปังช็อกโกแลตชิพ หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

1. นำกล้วยหอมมาบดให้ละเอียด

2. จากนั้นใส่ยีสต์ น้ำตาลทราย นมข้นหวาน น้ำมันพืช กลิ่นวนิลลา และไข่ไก่ลงไป แล้วคนให้ส่วนผสมเข้ากัน

3. เทส่วนผสมลงในแป้งขนมปัง แล้วคนให้เข้ากันก่อนนวดแป้ง

4. เติมนมสดทีละน้อย ถ้าแป้งแห้งไป (ตามคลิป)

5. พอแป้งเข้ากันพอสมควร ให้ใช้มือนวดแป้ง จนแป้งไม่ภาชนะ

6. พักแป้งไว้ในชาม หาผ้ามาคลุมทิ้งแป้งไว้จนขนาดเพิ่มเป็น 2 เท่า (ตามคลิป)

7. นำแป้งออกมานวดมือเล็กน้อยทาน้ำมันที่พิมพ์ เพื่อกันขนมปังติด

8. แบ่งแป้งเป็น 2 ส่วน เพื่อใส่ไส้ลูกเกด และ ช็อกโกแลต แล้วห่อไส้ขนมปังตามคลิป

9. ทาน้ำมันพืชรอบๆ แป้ง ก่อนใส่ลงพิมพ์ เสร็จแล้วพักแป้งอีก 1 รอบก่อนอบ (ตามคลิป)

10. นำขนมปังเข้าเตาอบใช้อุณหภูมิ 160 องศา 10-12 นาที

11. ทาเนยละลายด้านบนขนมปังให้เงาสวย พร้อมทาน

 

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก 

        ช่วงนี้เมนูลูกชุบกำลังฮอตฮิต เราเลยไม่รอช้า รวบรวมสูตรขนม ลูกชุบ 10 แบบ สูตรขนมไทย เมนูสร้างอาชีพ ทำตามง่าย ทำขายเวิร์ค! ลูกชุบรูปทรงสวยสีสวยน่ากินที่เราเห็นตามตลาด แท้จริงแล้ววิธีทำไม่ยากอย่างที่คิด อีกทั้งวันนี้เรานำวิธีปั้นลูกชุบในแบบต่างๆ ถึง 10 แบบ จะนำไปเดียไปปั้นกินเองก็ได้ หรือจะนำไปทำขาย บอกเลยลูกค้าเพียบแน่นอน ใครกำลังมองหาเมนูสร้างอาชีพ ลูกชุบ ถือเป็นอีกหนึ่งขนมไทยที่น่าสนใจเลยทีเดียว คงอยากรู้แล้วสิว่า ลูกชุบทั้ง 10 แบบ มีวิธีทำอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลย!

• 12 สูตรขนมไทย เมนูสร้างอาชีพ ทำกินอร่อย ทำขายรวย!

 

 

สูตรทำ ลูกชุบ ขนมไทย เมนูสร้างอาชีพ

 

1. ลูกชุบ ผลไม้รวม

(ชมพู่ มะม่วง ส้ม มังคุด มะยม)

ดูคลิปวิธีทำด้านล่าง

2. ลูกชุบ ผลไม้รวม

(เชอรี่ อะโวคาโด ลูกท้อ ทุเรียน)

 ดูคลิปวิธีทำด้านล่าง

ส่วนผสม ลูกชุบผลไม้รวม

อัตราส่วนถั่วกวน

• ถั่วเขียวซีกดิบ 500 กรัม
• หัวกะทิ 500 กรัม
• น้ำตาลทราย 450 กรัม
• เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
• แป้งมัน 1 ช้อนตวง

อัตราส่วนวุ้นสำหรับชุบ

• ผงวุ้นตรานางเงือก AA  75 กรัม
• น้ำเปล่า 1500 มิลลิลิตร
• น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง

 

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก

• FB : แม่ซี น้องมดดี้ channel
• Youtube : แม่ซี น้องมดดี้ channel

 

==============

 

3. ลูกชุบ ดวงดาว

ดูคลิปวิธีทำด้านล่าง

ส่วนผสม ลูกชุบดวงดาว

ส่วนถั่วกวน 

• ถั่วเขียวเลาะเปลือก 125 กรัม 
• กะทิ 150 กรัม
• แป้งข้าวเหนียว 5 กรัม
• กลิ่นมะลิ 1/2 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 125 กรัม
• สีผสมอาหาร แบบน้ำ 

ส่วนวุ้นชุบ 

• น้ำเปล่า 440 กรัม 
• ผงวุ้น 10 กรัม
• น้ำตาลทราย 40 กรัม

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก

• FB : VIPS Station
• Youtube : VIPS Station

 

==============

 

4. ลูกชุบ องุ่นเคียวโฮญี่ปุ่น

ดูคลิปวิธีทำด้านล่าง

ส่วนผสม ลูกชุบ องุ่นเคียวโฮญี่ปุ่น

ส่วนผสมถั่วกวน / Mung bean 

• ถั่วเขียวเลาะเปลือกที่ยังไม่แช่น้ำ / Mung bean = 250g 
• กะทิ / Coconut milk = 350 -400g
• น้ำตาลทราย / Sugar = 220g
• เกลือ / Salt = 1/4 ช้อนชา (ใส่พร้อมน้ำตาล) 

ส่วนผสมสำหรับสี / Colour 

• น้ำเปล่า / Water 100 มิลลิลตร
• สีเขียวแอปเปิ้ล (ยี่ห้อ Winner )/ Apple Green colour (Brand Winner) = 1/2 ช้อนชา teaspoon
• สีเขียวแก่ (ยี่ห้อ Best Odour) / Green colour (Brand Best Odour) = 1/4 ช้อนชา teaspoon 

ส่วนผสมสำหรับวุ้น / Agar -agar powder 

• ผงวุ้น / Agar-agar powder = 15 กรัม
• น้ำลอยดอกไม้ หรือน้ำเปล่าแล้วใส่กลิ่นมะลิ / Jasmine floated water Or Water / 650 มิลลิลิตร
• น้ำตาล / Sugar  = 60 กรัม

 

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก

• FB : Pimmy ชวนกินของอร่อย
• Youtube : PIMMY TASTY

 

     ใครกำลังมองหา สูตรชงกาแฟ เมนูฮิตติดลมบน ตามคาเฟ่ต่างๆ อย่าเมนู Dirty Coffee อยู่ล่ะก็ วันนี้เราจัดมาให้แล้ว กับ สูตรเครื่องดื่ม วิธีทำกาแฟ Dirty Coffee ซึ่งเมนูนี้ก็มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่นค่ะ Dirty coffee เป็นเมนูกาแฟเย็นที่ไม่ใส่น้ำแข็ง โดยจะนำนมไปแช่ให้เย็นจัด นิยมเสิร์ฟในแก้วกาแฟแบบใสๆ ขนาดย่อมๆ มีส่วนผสมของนมที่มีความเข้มข้นกว่ากาแฟชนิดอื่นๆ และช็อตกาแฟแบบ Overdose ที่มีความหนัก และมีน้ำมันกาแฟลอยอยู่ที่ด้านบน วิธีดื่มจะเป็นการยกแก้วดื่ม ไม่ใช้หลอด รสชาติกาแฟจะเข้มข้น นัวนม หวานอ่อนๆ หอมกาแฟ อร่อยลงตัว บอกเลยว่าใครได้ชิมก็ต้องติดใจ หรือใครอยากเอาไปทำขายในร้านกาแฟ ก็รับรองว่าปังแน่นอนจ้าา

 

 

 

สูตรชงกาแฟ วิธีทำกาแฟ Dirty Coffee

 

 ดูคลิปขั้นตอนและวิธีทำด้านล่าง 

▼

 

ส่วนผสม กาแฟ Dirty Coffee

(ใช้ด้ามชงน้ำไหลทางเดียว แต่เปลี่ยนเป็นตะแกรงสำหรับใส่กาแฟเอสเพรสโซ่ 2 ช็อต)

 

สูตร Dirty Coffee แบบไม่ใส่วิปปิ้งครีม

• น้ำกาแฟ (เอสเพรสโซ่ช็อต) 1 oz (30 ml)
• นมสดรสจืด 4 oz (120 ml)
• ไซรัปรสวนิลลา 10 ml (ถ้าไม่ชอบหวานไม่ใส่ก็ได้)

 

สูตร Dirty Coffee แบบใส่วิปปิ้งครีม

• น้ำกาแฟ (เอสเพรสโซ่ช็อต) 1 oz (30 ml)
• นมสดรสจืด 3 oz (90 ml)
• วิปปิ้งครีม 1 oz (30 ml)
• ไซรัปรสวนิลลา 10 ml (ถ้าไม่ชอบหวานไม่ใส่ก็ได้)

 

 

วิธีทำ กาแฟ Dirty Coffee

1. ผสมนมสด วิปปิ้งครีม และไซรัป แล้วคนให้เข้ากัน แล้วนำไปแช่ในช่องแข็งประมาณ 10-15 นาที ให้นมเย็นจัด

2. ทำช็อตกาแฟ โดยเพิ่มปริมาณกาแฟบดให้มากขึ้น และกดกาแฟให้แรงขึ้น เพื่อให้ได้ช็อตกาแฟที่เข้มข้นขึ้น

3. นำแก้วใส่นมมารองกาแฟ แล้วทำช็อตกาแฟท็อปด้านบนได้เลย

4. เสิร์ฟตอนเย็นๆ อร่อยแน่นอน

 

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก 

 

     ร้านกาแฟใกล้ฉัน ? ชาวพระราม 3 คนไหน Work From Home อยู่แต่บ้านมันเบื๊อเบื่อ อยากออกนอกบ้านไปเปิดหูเปิดตา หาของอร่อยกิน แวะถ่ายรูปเล่น วันนี้เรามี คาเฟ่เปิดใหม่ ย่าน พระราม 3 มาฝากกันค่ะ กับร้าน Teyaki คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น ถ่ายรูปสวย มินิมอล ที่ตอนนี้กำลังปังสุดๆ ร้านสวยมากก บรรยากาศดีสุดๆ บอกเลยว่า Cafe Hopper สายมินิมอลต้องเลิฟฟฟ

 

 

 

คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น ร้านกาแฟกรุงเทพฯ พระราม 3

 

 

     การเดินทางมาที่ร้าน Teyaki ก็ง่ายสุดๆ ค่ะ ถ้ามารถยนต์ส่วนตัวก็ขับมาที่ถนนพระราม 3 ซอย 19 เข้ามาไม่ไกล็จะเจอกับร้านอยู่ที่ทางซ้ายมือ ร้านจะอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับร้านล้างรถ Pit Lane แอบกระซิบว่าหน้าร้านมีที่จอดรถไม่มากนัก แนะนำว่าไม่ช่วงก่อนเที่ยงจะดีที่สุดค่ะ และถ้าใครดินทางมาโดยรถสาธารณะ ก็สามารถขึ้นรำ BRT มาลงที่สถานีเจริญราษฎร์ และต่อรถมาเพียง 5 นาที ก็ถึงร้านแล้ววว

 

 

     ตัวร้าน Teyaki จะเป็นคาเฟ่ไซส์กลางๆ ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ มีที่นั่งทั้งด้านนอกและด้านในร้าน ถ้าคนเยอะจะต้องลงชื่อรอโต๊ะกันหน่อยค่ะ การตกแต่งร้านจะเน้นแนวเรียบง่าย มินิมอลสไตล์ญี่ปุ่น เน้นการใช้โทนสี ขาว-ครีม-น้ำตาล ให้ความอบอุ่น ฟีลลิ่งแบบ คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น มีความมูจิ คือดีย์ คือสวย มุมถ่ายรูปเยอะ มีมุมบาร์แบบโอเพ่น มองเข้าไปจะเห็นเชฟทำเซมเบ้ให้ดูแบบสดๆ เลยจ้าา

 

 

     ในส่วนของเมนูของทางร้าน ราคาจะอยู่ในเรทกลางๆ ค่อนไปทางสูงอยู่เหมือนกัน เมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์คือ Momo-Ume Soda ทางร้านบอกว่าแก้วนี้จะเป็นเครื่องดื่มที่ผสมผสานระหว่างน้ำส้มสายชูหมักจากลูกพีชไม่ผสมน้ำตาลหรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “โมะ-โมะ” เเละบ๊วยดอง “อุ-เมะ” เติมรสหวานอ่อนๆ ด้วยน้ำผึ้งป่าเเท้ รสชาติหวานเค็ม ผมกับความซ่าของโซดา คือสดชื่นนน อร่อยลงตัว

 

 

     และขนมที่ต้องห้ามพลาด เพราะหาทานที่ร้านอื่นไม่ได้ก็คือ ขนมเซมเบ้ นั่นเองจ้าา ขนมญี่ปุ่น กรุบกรอบ มีหลายรสให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น สาหร่าย ปลาหมึก เนื้อ เห็ด และกุ้ง เราสั่งรสสาหร่าย แป้งบาง กรอบอร่อย เค็มนิด หวานหน่อย หอมสาหร่าย ถือว่าผ่านจ้าาา นอกจากนี้ที่ร้านยังมีเมนูกาแฟ และขนมอื่นๆ ให้เลือกทานอีกเพียบเลยล่ะ

 

 

     เอาล่ะๆ บอกเลยว่าร้านนี้คือดีแบบเทให้ทั้งใจเลยจ้าาา ทั้งบรรยากาศร้าน การตกแต่ง และเมนู ถ้าไม่นับเรื่องความปังที่ทำให้มีลูกค้าคอยแวะเวียนมาอย่างไม่ขาดสาย เลยทำให้บางครั้งก็ไม่มีที่จอดเพียงพอ ซึ่งทางร้านก็กำลังหาวิธีแก้ปัญหานี้อยู่เน้อออ บอกเลยว่าวันหยุดนี้ ใครตื่นเช้าๆ แล้วยังไม่รู้จะไปทิ้งตัวที่ไหน เราขอแนะนำให้มาปักหมุดชิลกันที่นี่เลยค่ะ บอกเลยว่าหายคิดถึงญี่ปุ่นไปได้เหมือนกันนะ

 

 

📍 Teyaki

• พิกัด : https://goo.gl/maps/LQdrWYXS2wSH3Tbf9
• ที่อยู่ : ถนนพระรามที่ 3 แขวง บางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ
• ร้านเปิดบริการ : 09.00 – 18.00 น. (หยุดวันจันทร์)
• โทร : 09-2441-9354
• ที่จอดรถ : มี (จอดหน้าร้านได้ 4-5 คัน)
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/TEYAKIBKK/

 

 

        เรียกว่าเป็นย่านที่แข่งกันเปิดคาเฟ่เยอะที่สุดที่นึงในกรุงเทพเลยก็ว่าได้อย่าง ย่านอารีย์ โดยครั้งนี้คาเฟ่เปิดใหม่ ที่ได้มาเปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมานั่นก็คือ Noel Coffee คาเฟ่สไตล์มินิมอล ร้านกาแฟ กรุงเทพ coffee stand สุดชิค ที่ห้ามพลาดมาเช็คอิน ว่าแต่คาเฟ่สุดกระทัดรัดเปิดใหม่แห่งนี้จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามมาหาคำตอบไปพร้อมกันเลย

 

 

Noel Coffee คาเฟ่ ร้านกาแฟเปิดใหม่ อารีย์

     Noel Coffee ตั้งอยู่ในโครงการ Feast Ratchakru อารีย์ ที่ร้านแม้จะมีขนาดเล็กตามแบบฉบับคอฟฟี่สแตนด์ แต่กลับมีความน่าสนใจในการใช้พื้นที่เล็กๆ แต่กลับดีไซน์ออกมาได้ดูโมเดิร์น สไตล์ญี่ปุ่น ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยม กระจกล้อมรอบด้าน ทำให้ร้านดูปลอดโปร่งกว่าปกติ พร้อมการใช้สีน้อยที่สุดเพียง 2 สีคือเทากับน้ำเงิน ทำให้ดูสบายตามากยิ่งขึ้น

 

 

      แม้จะมีที่นั่งไม่มาก และเน้นการ Grab & Go เป็นหลัก แต่บรรยากาศรอบร้านน่าถ่ายรูปไม่แพ้ร้านอื่นเลยทีเดียว ยิ่งไปในช่วงกลางวัน จะมีแสงแดดเล็ดลอดผ่านกระจก ทำให้ถ่ายรูปได้สวยและเก๋มากทีเดียว 

 

 

 

       ในส่วนของเมนูกาแฟ ที่ร้านให้ความสำคัญกับวัตถุดิบมาก ไล่มาตั้งแต่การเลือกใช้กาแฟจากโรงคั่ว Nip Coffee นอกจากนี้ยังมีเครื่องบด Slingshot ที่มีเพียงไม่กี่ตัวในเมืองไทย ในส่วนของเมล็ดกาแฟที่ใช้มีตั้งแต่ Brazil แถมด้วยเมล็ดไทยและนอก ที่มีทั้งหมด 3 ตัวเลือก ได้แก่เมล็ดกาแฟไทยจากสะเมิงในเชียงใหม่ เมล็ด Costa rica Las Piadra และ Ethiopia Guji Uraga 

 

 

 

มากันที่เมนูกาแฟของร้านกันเลยดีกว่า จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างของ Noel Coffee คือราคาจับต้องได้ เหมาะสำหรับหนุ่มสาวชาวออฟฟิสที่สามารถแวะเวียนมากินได้ทุกวัน โดยเมนูแรก Noel ตามชื่อร้าน โดยใช้เป็นน้ำส้มคั้นสดด่านล่างตามด้วยนมเย็น และเอสเปรสโซช็อตด้านบน เข้มข้นหอมอร่อยไม่เหมือนใคร 

 

 

นอกจากนี้ยังมีเมนูยอดฮิตของใครหลายคนอย่าง Dirty เลือกเมล็ดกาแฟตามชอบ จากนั้นราดบนนมเย็นสุดเข้มข้น เหมาะสำหรับสายกาแฟละมุน ดื่มเพลิน เป็นเมนูที่กินได้ทุกวัน สายกาแฟพลาดไม่ได้

 

 

 

เรียกว่าเป็น Grab & Go Coffee น้องใหม่ย่านอารีย์ ที่หนุ่มสาวชาวออฟฟิสไม่ควรพลาด

 

📍 Noel Coffee

• พิกัด : https://goo.gl/maps/LKhgGfoX1jkqx8896
• ที่อยู่ : 1354 พหลโยธิน 5 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
• เปิดบริการ : จันทร์ – ศุกร์ 07.30 – 18.00 น. / เสาร์ – อาทิตย์ 08.30 – 18.00 น.
• โทร : 06-2420-4416
• ที่จอดรถ 🚘 : มี
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/noelcoffee.bkk/

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ และภาพประกอบ : เพจ โน่น นั่น นี่  IG : nonnunnee.ig

     ของไทยแน่นอน !! วันนี้เรามี สูตรอาหาร เมนูอาหารอีสานยอดนิยม ที่ทุกร้านต้องมีเมนูนี้ กับ สูตรเสือร้องไห้ เนื้อย่างโคขุน สูตรหมักเนื้อย่างสูตรอร่อย ซึ่งวิธีทำก็ทำง่ายๆ และมาพร้อมกับ สูตรน้ำจิ้มแจ่ว แซ่บๆ กินตอนร้อนๆ คู่กับข้าวเหนียว ผักาด โอ้ยยย ฟินแน่นอน ฟินแบบไม่ต้องสืบเลยค่ะ

 

 

 

สูตรเสือร้องไห้ สูตรหมักเนื้อย่าง สูตรเด็ด

 

 ดูคลิปขั้นตอนและวิธีทำด้านล่าง 

▼

 

ส่วนผสม เสือร้องไห้

 

ส่วนผสม เนื้อย่าง เสือร้องไห้

1. เนื้อวัวติดมัน ( เสือร้องไห้​ ) 500 กรัม
2. กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
3. พริกไทย 1/2 ช้อนชา
4. เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
5. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
6. ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา
7. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา

 

ส่วนผสม น้ำจิ้มแจ่ว

1. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
2. น้ำปลา 1.5 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
4. ข้าวคั่ว 2 ช้อนชา
5. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
6. พริกขี้หนู 1 ช้อนโต๊ะ
7. ผักชีฝรั่ง 1 ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำ เสือร้องไห้

 

1. เริ่มจากการหมักเนื้อก่อนค่ะ เตรียมชามผสมใส่เนื้อลงไป ใส่เบกกิ้งโซดาขยำให้เข้ากันดีเนื้อจะได้นุ่มขึ้น

2. ใส่กระเทียม พริกไทย ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย นวดให้ข้ากันดี ใส่กล่องปิดฝาใส่ตู้เย็น พักไว้อย่างน้อย 30 นาที หรือถ้ามีเวลาก็ 1-2 ชั่วโมงก็จะเข้าเนื้อดีค่ะ

3. เตรียมกระทะที่จะนำมาย่างเนื้อ พอกระทะร้อนได้ที่เอาเนื้อลงไปวาง

4. ย่างไฟอ่อนๆ ให้พอสุกแต่ไม่แห้ง ให้เนื้อข้างในฉ่ำๆ จะอร่อยค่ะ

5. เสร็จแล้วก็เอามาหั่นใส่จาน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่วที่เตรียมไว้ และผักสดด้วย ไว้กินคู่กัน เนื้อย่างเสือร้องไห้โคขุนต้องกินร้อนๆ นะคะถึงจะอร่อย

** การย่างเนื้อโคขุน วันนี้เราจะใช้กระทะปิ้งย่าง ถ้าใครสะดวกใช้เตาถ่านยิ่งหอมอร่อยเลยค่ะ

 

     การทำน้ำจิ้มแจ่ว เตรียมถ้วยใส่น้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น ข้าวคั่ว พริกขี้หนูซอย ใบผักชีฝรั่งซอยลงไป ผสมให้เข้ากัน ชิมรสให้ออกเผ็ด เปรี้ยว หวาน เค็ม หรือตามชอบ พักไว้ก่อนค่ะ

 

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก