Category: บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง

     กินอะไรดีที่สมุทรปราการ ? ใครกำลังมองหา ร้านอาหารใกล้ฉัน ร้านอาหาร ย่าน สมุทรปราการ อาหารทะเลสุดคุ้ม ย่านสมุทรปราการอยู่ล่ะก็ วันนี้เรามีตัวเลือกดีๆ มาฝากกันค่ะ ที่ ร้านป้าบุญล้อม Buffet 499 ร้าน บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด เจ้าดัง เมนูอาหารทะเลแบบจัดเต็ม ทั้งปลา กุ้งปลาหมึก แซลมอน และอาหารฝรั่งอย่าง พิซซ่า สปาเกตตี้ ราคานี้รวมน้ำ และของหวาน ไปอีกกก ทานได้แบบไม่อั้น ในเวลา 3 ชั่วโมง บอกเลยว่าคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม

 

 

 

บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด ป้าบุญล้อม ร้านอาหารทะเล สมุทรปราการ

 

 

     วันหยุดนี้ใครยังไม่รู้จะไปหาอะไรอร่อยๆ ทานที่ไหน ลองชวนกันออกเดินทางมาหา ร้านอาหารใกล้กรุงเทพฯ กันที่จังหวัดสมุทรปราการ กับร้านบุฟเฟ่ต์เจ้าดัง อย่างร้าน ป้าบุญล้อม Buffet 499 ร้านสาขาแรก จะตั้งอยู่ที่บริเวณหน้าปากซอยศรีสัมพันธ์ ริมถนน บางพลี-ตำหรุ ส่วนสาขาที่เราไปทานนั้นจะเป็นสาขา 2 ชื่อร้านว่า ป้าบุญล้อม บุฟเฟ่ต์ริมน้ำ หรือ ป้าบุญล้อม ตำ ยำ ทะเลเผา ราคา 489 บาท ร้านจะอยู่ลึกเข้าไปในซอยเดียวกันประมาณ 500 เมตรเท่านั้นเองค่ะ สำหรับสาขานี้จะเป็นสไตล์ Open Air ใกล้ชิดธรรมชาติ ใครชอบนั่งทานอาหารริมน้ำ บรรยากาศดี ชิลๆ นั่งสบาย อากาศถ่ายเทสะดวก มาสาขานี้บอกเลยว่าตอบโจทย์จ่ะแม่

 

 

     บรรยากาศภายในร้าน กว้างขวาง มีที่นั่งเยอะมากกก ทั้งที่สไตล์นั่งพื้น โต๊ะไม้ และโต๊ะม้าหิน แต่ก็แนะนำว่าให้สำรองที่นั่งกับทางร้านก่อนไปจะชัวร์ที่สุดค่ะ ในส่วนของเมนูของสาขาที่ จาที่ลองสอบถามทางร้านดู พนักงานบอกว่าเมนูอาหารของทั้ง2 สาขาจะเหมือนกันค่ะ อาหารของที่นี่จะเสิร์ฟมาเท่าไซส์ปกติ จานไม่เล็กไม่ใหญ่ แนะนำว่าอย่าวู่วาม อย่าสั่งเผื่อเพื่อน เพราะถ้าทานไม่หมด ที่ร้านเค้าปรับจริงอะไรจริงนะจ๊ะ…เตือนแล้วนะ !!

 

 

     ในส่วนของเมนูอาหาร ที่นี่ก็มีให้เลือกทานเยอะมาก เริ่มจาก เมนูกุ้ง ใครเป็นสาวกน้องจุ้งบอกเลยว่าต้องกดเลิฟ เพราะเค้ามีทั้งกุ้งเผา ไซส์พอดีคำ แต่วันที่เราไปแอบเผามาแห้งไปนิด หัวกุ้งเลยไม่ค่อยมีมันเยิ้มๆ ค่ะ และเค้ายังมีกุ้งทอดซอสมะขาม กุ้งแช่น้ำปลา กุ้งดองซีอิ๊วเกาหลี ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดลงหน่อยไปคือเด็ด!! มาต่อที่ เมนูปลา เมนูฮิตในดวงใจที่แทบทุกโต๊ะต้องสั่ง อย่าง ปลากระพงทอดราดน้ำปลา ก็เสิร์ฟมาแบบทั้งตัวเลยจ้าาา กินตัวเดียวก็คุ้มแล้วป่ะล่ะ และเมนูเด็ดอีกหนึ่งเมนูที่ต้องห้ามพลาดอย่างปลาแซลมอน เค้าก็มีเสิร์ฟทั้งแบบสด และแบบดิบ รสชาติอร่อย คุณภาพสมราคา เรียกได้ว่าใครแซลมอนเลิฟเวอร์ มาร้านนี้ถูกใจแน่นอน

 

 

     นอกจากนี้เค้ายังมี เมนูอาหารทะเล อื่นๆ อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นแกงส้มไข่ปลาริวกิว ทะเลผัดฉ่า หมึกไข่ย่าง หอยนางรม รวมไปถึงเมนูเกาเหลา และยำปลาร้า เมนูยำคือนัวอยู่นะ รสชาติอาหารที่ร้านจะออกติดหวานนิดนึง คนไม่กินเผ็ดก็ทานได้ค่ะ และนอกจากอาหารทะเลสดๆ แล้ว ที่นี่ก็ยังมีเมนูอาหารฝรั่ง อย่างพิซซ่า และสปาเกตตี้ เค้าทำออกมารสชาติกลางๆ กินแก้ขัดได้ไม่มีปัญหาจ้าา

 

 

     ปิดท้ายความฟินกันที่ เมนูของหวาน อย่าง ข้าวเหนียวมะม่วง ฮันนี่โทสต์ และบิงซูหลากหลายรสชาติ 1 คน สามารถเลือกสั่งของหวานได้ 1 อย่าง และยังคงคอนเซ็ปต์เดิม คือทานไม่หมดหรือปล่อยบิงซูให้ละลาย ทางร้านปรับจริงตามราคาในเมนูเด้ออ วันนี้เราสั่งข้าวเหนียวมะม่วง และบิงซูมาชิม ข้าวเหนียวมะม่วงมาในปริมาณกำลังดี ไม่เยอะเกินไปคนเดียวก็ทานหมดได้ บิงซูแคนตาลูป ทางร้านใส่แคนตาลูปมาแน่นชามแบบไม่มีหวง พร้อมไอศครีมรสนม 1 ลูกใหญ่ หวานอร่อยสดชื่น แอบกระซิบว่าเมนูบิงซูเหมาะกับการทาน 2 คนขึ้นไปจ้าา

 

 

บุฟเฟ่ต์อาหารทะเล ไม่จำกัดเวลา สมุทรปราการ

 

     เอาล่ะบอกเลยว่าใครมีโอกาสมาเที่ยวแถวสมุทรปราการ หรือเป็นคนที่ชอบความคุ้มค่า และหลงรักเมนูอาหารทะเล ซีฟู้ดสดๆ ที่สามารถทานได้แบบไม่อั้น ลองมาปักหมุกความอร่อยกันที่้ร้าน ป้าบุญล้อม รับรองว่าอิ่มอร่อย สมใจอยากแน่นอนค่ะ

 

📍 ป้าบุญล้อม สาขา 2

• พิกัด : https://goo.gl/maps/xVLpqDTxqZz9cNyE9
• ที่อยู่ : ซอย ศรีสัมพันธ์ 3 ถนน บางพลี-ตำหรุ อำเภอเมือง สมุทรปราการ
• ร้านเปิดบริการ :
  วันธรรมดา 16.00 – 22.00 น. Buffet ไม่จำกัดเวลา (หยุดวันจันทร์ ยกเว้นจันทร์นักขัตฤกษ์)
  เสาร์-อาทิตย์ 10.00 – 22.00 น. Buffet รอบละ 4 ชั่วโมง
• โทร : 08-4705-5339 (สาขา 1) / 08-8683-2110 (สาขา 2)
• ที่จอดรถ : มี
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/pabunlomtumyum/

 

 

Pemika Patchimsiri 16ผู้ติดตาม

เป็นร้านที่มีโอปป้ามาบริการเปลี่ยนตะแกรงอยู่ตลอดๆ จะย่างเนื้อแบบนี้ต้องใช้ตะแกรงแบบนี้ แบบนั้น

บุฟเฟ่ต์เริ่มต้นที่299 ไม่รวมน้ำ ราคาถูกเลยถ้าเทียบกับเนื้อที่หนาขนาดนี้ จะมีบาร์ตรงกลางไว้หยิบพวก ไก่ทอดเกาหลี กิมจิ จับแช พริกผักสด และอีกหลายอย่าง
ตอนนั้นที่ไป ได้ชีส1ถ้วยต่อโต๊ะ

ร้านเปิดเที่ยงวันไปถึงเที่ยงคืน ร้านอยู่ละแวกBTSพระโขนง ข้างๆกับโครงการW market

หักคะแนนตรงแถวนั้นดูไม่ค่อยปลอดภัย รถเยอะ ที่จอดต้องหาตามซอกซอย คิดว่านั่งวินหรือแท๊กซี่ไป น่าจะสะดวกกว่า

เพิ่มเติม

       วันนี้มาเอาใจสายเนื้อกันหน่อยดีกว่า เชื่อว่าหลาย ๆ คนกำลังมองหาร้านเนื้อคุณภาพดีในกรุงเทพ รสชาติดีกินแล้วฟิน เราเลยจะพาไปรู้จัก 7 ร้านเนื้อ ชื่อดัง กรุงเทพ อร่อยสุด หยุดไม่อยู่ สายเนื้อต้องลอง! ร้านที่เรารวบรวมมาให้สำหรับสายเนื้อโดยเฉพาะ บอกเลยว่าคัดมาแล้ว เด็ด ๆ ทั้งนั้น รับรองว่าไปตามได้ไม่ผิดหวังแน่นอนจ้า จะมีร้านอะไรบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่า 

 

 

ร้านอาหาร ร้านเนื้อชื่อดัง กรุงเทพ

 

1. ฉัน – CHUNN

        ฉัน – CHUNN ร้านเนื้อสไตล์โฮมคุกย่านเอกมัยที่เน้นเสิร์ฟความอร่อยด้วยสารพัดเมนูเนื้อ ไม่ว่าจะเป็นลิ้นวัวย่าง ข้าวหน้าสตูว์เนื้อตุ๋น หรือเมนูเด็ดอย่างข้าวหน้าเนื้อย่างไข่ดองซีอิ๊ว เมนูนี้บอกเลยว่าใครกินแล้วก็ต้องอยากกินอีก เพราะเนื้อย่างมากำลังดี ไม่สุกจนเกินไป ไม่เหนียว กินคู่กับไข่ดองและหอมเจียวที่ใส่มาในจาน เข้ากันสุด ๆ และอีกหนึ่งเมนูที่น่าจะโดนใจชาวปลาร้าเลิฟเวอร์ก็คือบาร์บีคิวเนื้อย่างจิ้มซอสแจ่วบอง ตัวบาร์บีคิวที่ว่าอร่อยอยู่แล้ว ยิ่งจิ้มกับซอสแจ่วบอง หยิบแตงกวากินคู่ไปอีกสักชิ้น มันฟินสุด ๆ เลยแหละ ช่วงนี้เขามาเปิด Pop up Store ที่ Central World ด้วยนะ (วันนี้-มกราคม 2564) อย่าลืมแวะไปลองชิมกันนะจ๊ะ อร่อยจริง คอนเฟิร์ม

 

 

=============

 

2. ยี่สับหลก – 26BraisedBeef

       ยี่สับหลก – 26BraisedBeef ร้านเนื้อที่เป็นทายาทของร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายโส่ย โดยร้านยี่สับหลกจะเน้นเสิร์ฟเมนูเนื้อที่มีทั้งหม้อไฟและเมนูอบหม้อดิน อย่างเมนูที่เป็นไฮไลท์ มาแล้วก็ต้องสั่ง คือ ชุดหม้อไฟเนื้อ โดยในชุดจะประกอบด้วย เนื้อสันใน เนื้อตุ๋น ลูกชิ้น และผักตามฤดูกาล เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำซุปสูตรเฉพาะของทางร้านที่ใช้ส่วนเนื้อในการต้มพร้อมเครื่องสมุนไพรยาจีน กลิ่นหอมชวนกินสุด ๆ และอีกหนึ่งเมนูไฮไลท์ของร้านนี้ก็คือ  ข้าวซี่โครงโกเบอบหม้อดิน ข้าวและซี่โครงโกเบนุ่ม ๆ อบกระเทียมและรากผักชีจนได้ที่ เสิร์ฟพร้อมกับผักคะน้าฮ่องกง กินคู่กับน้ำพริกเผาของทางร้าน บีบมะนาวอีกนิดนึง เข้ากันสุด ๆ ยี่สับหลกยังมีอีกหลายเมนูเนื้อให้เราได้เลือก รับรองว่าสายเนื้อจะต้องติดใจร้านนี้อย่างแน่นอน! 

 

• พิกัด : https://g.page/26braisedbeef?share
• ที่อยู่ : ริมถนนเจริญกรุง บริเวณสี่กั๊กพระยาศรี แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
• ร้านเปิดบริการ : 11.00-19.00 น. (ปิดวันจันทร์)
• โทร : 06-2545-9293
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/26braisedbeef

 

=============

 

3. Cast Iron Burgerhaus

 

        Cast Iron Burgerhaus ร้านเบอร์เกอร์ชื่อดังย่านอารีย์ ร้านนี้เขาคัดเฉพาะวัตถุดิบคุณภาพดีอย่างเนื้อ Dry-aged มาเสิร์ฟ โดยเฉพาะเมนู Jalapenos Asado ซึ่งเป็นเมนู Best Seller ของทางร้าน เบอร์เกอร์สไตล์อเมริกาใต้ ทางร้านจะใช้พริกฮาลาปิโน ซึ่งเป็นพริกเม็กซิกันเอามาดองเป็น Pickles แทนแตงกวาดองและตัวเบอร์เกอร์จะใส่ซอส Chimichurri ซึ่งเป็นซอสที่มีต้นกำเนิดมาจากอาร์เจนตินา มีการโรยด้วยกระเทียมเจียวและหอมเจียว เพิ่มความกรุบกรอบในเบอร์เกอร์ มันอร่อยจนหยุดไม่ได้จริง ๆ นอกจากเมนูเบอร์เกอร์ของร้านที่อร่อยจนหยุดไม่อยู่ เขาก็ยังมีเมนูสเต๊กด้วย เนื้อเน้น ๆ คุณภาพดี ไปแล้ว ต้องไปซ้ำแน่นอน

 

• พิกัด : https://g.page/castiron?share
• ที่อยู่ :  ซอยอารีย์ (พหลโยธิน ซอย 7) ใต้คอนโด Noble Reform แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
• ร้านเปิดบริการ : วันจันทร์-ศุกร์ 11.30-15.00 , 17.00-00.00 และ วันเสาร์-อาทิตย์ 11.30-00.00 น.
• โทร : 06-2920-0300
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/castironburgerhaus

 

=============

 

4. วัวทองโภชนา

        วัวทองโภชนา ร้านอาหารจีนที่ผสมผสานความคลาสสิคและความโมเดิร์นไว้ได้อย่างลงตัว ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยเจริญกรุง 45 สำหรับเมนู Signature ของร้านก็คือ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวทองโภชนา มีทั้งแบบน้ำและแห้ง เป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่รสชาติดีไปหมดไม่ว่าเป็นเนื้อ เส้น น้ำซุป เข้ากันได้ดีมาก และอีกหนึ่งเมนูที่อร่อยมากเช่นกันคือ เนื้อตุ๋นวัวทองโภชนา เนื้อวัวส่วนซี่โครงที่ตุ๋นมากับเครื่องเทศจนเปื่อยนุ่ม เสิร์ฟ พร้อมน้ำจิ้มรสชาติแบบไทย ๆ นอกจากเมนูเนื้อแล้ว ร้านวัวทองโภชนายังมีอาหารจีนขายอีกด้วย เหมาะกับการชวนญาติผู้ใหญ่ไปนั่งกินข้าวแบบเหลา ๆ มากเลยค่ะ

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/M4doA96E3rsF7XQn7
• ที่อยู่ : เจริญกรุง 45 แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ
• ร้านเปิดบริการ : วันอาทิตย์-พฤหัสบดี 11.00-21.00 น. และวันศุกร์-เสาร์ 11.00-22.00 น.
• โทร : 09-7260-5305
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/wuatongpochana

 

=============

 

5.Jamie’s Burgers : The โค eating space

        Jamie’s Burgers ร้านเบอร์เกอร์ของเชฟเจมส์ พงษกร บุญรักษา จากรายการ Top Chef Thailand Season 3 จุดเด่นของร้านนี้คือการนำเนื้อวากิวของไทยมาใช้เป็นส่วนประกอบของเมนู Signature ของทางร้าน คือ Jamie’s Burger เนื้อขนาดกำลังดี เสิร์ฟพร้อมกับเบค่อนและพริกดอง อร่อยลงตัวมาก ๆ นอกจากเมนูเบอร์เกอร์แล้วร้านนี้ยังมีอีกหนึ่งเมนูที่เรียกว่าพลาดไม่ได้ นั่นก็คือ  ทางร้านจะคัดเนื้อคุณภาพทั้งเนื้อไทยและเนื้อนำเข้าอย่าง Australian Wagyu, USA Prime และ Japanese Wagyu ซึ่งชนิดของเนื้อจะสับเปลี่ยนกันไปบ้างในแต่ละสัปดาห์ เชื่อว่าร้านนี้จะเป็นอีกหนึ่งร้านที่ถูกใจสายเนื้ออย่างแน่นอน

 

 

=============

 

6. Wagyuism

       Wagyuism แค่อ่านชื่อร้านก็รู้แล้วว่าร้านนี้จะต้องขายเนื้ออย่างแน่นอน ร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านที่สายเนื้อห้ามพลาดจริง ๆ เพราะเขาจะคัดเฉพาะเนื้อวากิวเกรดพรีเมียมระดับ A4, A5 มาปรุงเท่านั้น แถมเชฟที่เป็นคนปรุงอาหารยังเป็นคนญี่ปุ่นแท้ ๆ อีกต่างหาก ทั้งวัตถุดิบและรสชาติเหมือนกับเราไปนั่งที่ญี่ปุ่นเลยนะเนี่ย เมนู Signature ของร้าน Wagyuism คือ KOBE Wagyu Steak เนื้อนุ่ม ละมุนลิ้นสุด ๆ แต่นอกจากเมนู Signature แล้วทางร้านก็มีเมนูอีกเยอะมาก แถมยังดีต่อใจทุกเมนูเลย อย่ารอช้าค่ะ พุ่งตัวไปเล้ยยยยย! 

 

• พิกัด : https://g.page/wagyuism?share
• ที่อยู่ : 110 9 ถนนพระรามที่ 6 แขวง สามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
• ร้านเปิดบริการ : วันอังคาร-ศุกร์ 17.00-23.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ 11:00-14:00 , 17:00-23:00 น. (ปิดวันจันทร์)
• โทร : 06-1651-9591
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/wagyuism

 

=============

 

7. มหาสาร

 

ขอบคุณรูปจาก IG ร้านมหาสาร

        ถ้าพูดถึงร้านเนื้อแล้วจะไม่พูดถึงร้านนี้ก็คงไม่ได้ มหาสาร ร้านเนื้อเล็ก ๆ ในซอยจันทร์  23/1 เพราะนอกจากจะรสชาติดีแล้ว ราคายังน่ารัก จับต้องได้อีกต่างหาก เมนูที่เราอยากจะแนะนำให้เหล่าสายเนื้อไปลอง ก็คือ ลิ้นวัวย่าง ลิ้นวัวที่ผ่านการซูวีมา 24 ชั่วโมงแล้วนำมาย่าง บอกเลยว่ามันนุ่ม ละมุนลิ้นมากกกก ยิ่งกินคู่กับไข่แดงดองซีอิ๊ว หอมเจียวและน้ำจิ้มซีฟู๊ดที่เสิร์ฟมาพร้อมกันแล้ว บอกได้ 3 คำเลยว่า มัน ดี มาก! ร้านนี้ยังมีเมนูเนื้ออีกเยอะมากให้สายเนื้อได้เลือกเอ็นจอยอีทติ้งกัน แต่ก่อนจะไปเอ็นจอยต้องจองคิวไปก่อนนะจ๊ะ

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/J7f6njyawosmpZw48
• ที่อยู่ : ถนนจันทร์ ซอย 23/1 เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
• ร้านเปิดบริการ : วันอังคาร-ศุกร์ 18.30-22.00 น. ,วันเสาร์ 12.00-15.30 , 18.30-23.00 น.และวันอาทิตย์ 12.00-15.30 , 18.30-22.00 น. (ปิดวันจันทร์)
• โทร : 063-406-5566
• เว็บไซต์ : https://www.instagram.com/mahasanofficial

 

Yee FullandFun 669ผู้ติดตาม

ร้านบุฟเฟ่ต์ชาบูจากญี่ปุ่น เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ทั้งวัตถุดิบอาหารคุณภาพดี บริการสุภาพเรียบร้อยตามมาตรฐานร้านญี่ปุ่น ถึงร้านจะบริการบุฟเฟต์ แต่บรรยากาศสบายๆ ไม่วุ่นวายเลย บุฟเฟต์ 90 นาที มี 4 ราคา++ เริ่มต้น 530 (Australian long grain fed beef) เลือกน้ำซุปได้ 1 อย่างถ้าเพิ่มน้ำซุปคิดอย่างละ 20 ++ ต่อคน ตกประมาณหัวละ 645 บาท แต่คุ้มค่าราคามากถึงมากที่สุด เพราะคุณภาพเนื้อดีมาก นี่ขนาดเป็นตัวราคาบุฟเฟต์ต่ำสุด ใครไม่ทานเนื้อก็สามารถสั่งเป็นหมูคุโรบุตะราคา 530++ เช่นกัน เนื้อออสเตรเลียเกรดดี สลับสับเปลี่ยนเสริฟส่วนของเนื้อแต่ละวันเพื่อความหลากหลายของเนื้อ อย่างวันนี้ได้เป็นส่วนหน้าท้องกับสะโพก เนื้อสะโพกชิ้นใหญ่สไลซ์บางสวย ไม่มีขาดหลุดลุ่ย เนื้อนุ่มมากมันน้อยอร่อยสุดๆ เนื้อหน้าท้อง อันนี้ทานแบบสุกี้ญี่ปุ่นอร่อยมากมาย เพราะมีส่วนมันเยอะ ส่วนเนื้อหมูก็อร่อยไม่แพ้เนื้อวัวเลย หมูนุ่มมาก
น้ำซุป มีให้เลือก 5 ตัว ซุปใสจากสาหร่ายปลาแห้ง, ซุปสุกี้ยากี้ทำจากโชยุหวานสไตล์ญี่ปุ่น, ซุปกระดูกหมู, ซุปมิโซะสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม, ซุปต้มยำแบบไทย บอกได้เลยว่าน้ำซุปเค้าเลิศมาก โดยเฉพาะตัวซุปใสจากสาหร่ายปลาแห้ง รสชาตินุ่มนวลอุมามิอร่อยสุดๆ เหมือนทานตามสั่งแบบไม่ใช่บุฟเฟต์ คือดูปราณีตใส่ใจทุกจาน ทุกสิ่งอย่าง ซุปสุกี้ยากี้: หวานหอมอร่อยมาก ปกติทานที่อื่น พอต้มนานๆไปน้ำจะเค็ม ทานต่อไม่ได้ แต่ที่นี่ทานอร่อยยาวๆ จนเช็คบิลเลย น้ำจิ้มใส่กาวางไว้บนโต๊ะ มี 2 กา น้ำจิ้มพอนซึ กับงาญี่ปุ่น ทานแต่พอนซึ คือรสชาติดีมาก ปลื้มปริ่ม เคาน์เตอร์ผัก เครื่องชาบู น้ำ ไอศครีม ถึงตัวเลือกจะไม่เยอะมากมายเหมือนร้านบุฟเฟ่ต์อื่น แต่แต่ละอย่างก็เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ สะอาดสะอ้านน่าทาน สดอร่อย มีข้าวแกงกะหรี่หมูอร่อยๆ ด้วย และยังมี ไอศครีมให้ล้างปากถึง 4 รส น้ำเปล่าก็มี (คือบางที่ชอบมีแต่น้ำหวาน น้ำอัดลม พอจะทานน้ำเปล่า ต้องซื้อเสียตังค์ซื้อเพิ่ม ไม่เข้าใจเลย) สรุป คือเป็นร้านชาบูบุฟเฟ่ต์ที่ทานคุ้มและประทับใจสุดๆ คุณภาพเหมือนทาน alacarte ร้านญี่ปุ่นดีดีเลยเกินมาตรฐานร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ ขนาดสั่งตัวราคาต่ำสุดยังฟินได้ขนาดนี้ วากิวจะฟินขนาดไหน แต่เอาจริงไม่ต้องทานวากิวก็ได้ เอาตัวถูกสุดนี่แหละ อร่อยเกินราคากระเป๋าไม่ฉีก

เพิ่มเติม

       ใกล้เข้ามาทุกทีกับบรรยากาศแห่งความสุขของคืนวันข้ามปี 2020 สู่ 2021 ครั้งนี้เราขยับมาเอาใจสายกินสุดชิล กับ 12 ร้านหมูกระทะ ร้านจิ้มจุ่ม ทั่วกรุงเทพ เปิดดึกข้ามปี บรรยากาศดี ราคาเด็ด ปีใหม่นี้กินวนไป! คืนปีใหม่ถ้าได้กินหมูกระทะอร่อยๆ หรือจิ้มจุ่มร้อนๆ ซดคล่องคอ น่าจะฟินไม่น้อย และร้านที่เราคัดมาให้ ล้วนเปิดยาวข้ามปี มีตั้งแต่เที่ยงคืนยันถึงเช้า มาทำให้วันเคาท์ดาวน์นี้มีหมูกระทะกับจิ้มจุ่มเป็นเพื่อนคุณกันเถอะ!

 

 

ร้านหมูกระ ร้านจิ้มจุ่ม เปิดดึกข้ามปี 

 

1. Bar B Q Resort

     บาร์บีคิวรีสอร์ท ร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง ทะเลเผา โคขุนโพนยางคำ ตั้งอยู่ตรงซอยรามอินทรา 51 มีเมนูหลากหลายให้อิ่มอร่อยกว่า 200 เมนู ทั้งของคาวของหวาน คุณภาพสดใหม่ เติมไม่อั้น ราคา 229 บาท มี 5 สาขา คือ รามอินทรา ปิ่นเกล้า บางแค บางนา และนวนคร

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/s7TfNmks9xgXMrri6
• ที่อยู่ : 610/2 บรมราชชนนี ซอย 2 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
• ร้านเปิดบริการ : 15.00 – 24.00 น.
• โทร : 08-8249-5299
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/BarBQResort/

 

===============

 

2. ต.โต้ง หมูกระทะ

     ร้านหมูกระทะที่มีบริการทั้งหน้าร้าน (สาขาคลองเตย) และจัดส่งเดลิเวอรี่ ร้านมีทีเด็ดที่น้ำจิ้มรสเด็ด แถมมีให้เลือกทางทั้งหมูกระทะและชาบู และยังมีแบบย่าพร้อมทานส่งตรงถึงบ้านเช่นกัน ในส่วนของน้ำซุปก็หอมกลมกล่อม เข้มข้น เป็นอีกร้านที่ห้ามพลาด

 

 

===============

 

3. ริมน้ำหมูกระทะ

        ร้านหมูกระทะและซีฟู้ดติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงใต้สะพานพระปิ่นเหล่า ฝั่งธนบุรี ตักได้ไม่อั้นทั้งเนื้อ หมู ไก่ และซีฟู้ด ทั้งปูม้า หอยหวาน ปลาหมึก และอาหารอีกกว่า 150 ชนิด อิ่มอร่อยพุงกาง หมูกระทะ หัวละ 219 บาท (ฟรีเครื่องดื่มไม่อั้น ไม่จำกัดเวลา) บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด หัวละ 269 บาท และโซนทะเลเผา 299 บาท (ราคารวมเบียร์ จำกัดเวลา 2 ชม.)

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/Pc8F7JJwQEXwvupt8
• ที่อยู่ : 1 14 ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
• ร้านเปิดบริการ : 16.00 – 24.00 น.
• โทร : 08-9457-1234
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/pom1579/

 

===============

 

4. จุ่มแซ่บ la รัชดา

        สำหรับร้านจิ้มจุ่มชื่อดังย่านรัชดา ห้วยขวาง ทีเด็ดของจิ้มจุ่มร้านนี้คือ น้ำซุปรสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นเครื่องต้มยำและสมุนไพร เผ็ดร้อนได้ใจ ในส่วนของหมูหมักก็ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มสุดๆ กินคู่กับน้ำจิ้มแจ่วสูตรเด็ดของทางร้าน แนะนำว่าให้สั่งมาทานคู่กับคอหมูย่างรสเด็ดของร้าน ฟินนน

 

 

==============

 

5. ร้านจิ้มจุ่มสุทธิพร 

      ไม่พูดถึงร้านนี้คงไม่ได้ เพราะร้านนี้คือร้านจิ้มจุ่มในตำนานที่ใครหลายคนจะต้องรู้จัก อย่างร้าน จิ้มจุ่มสุทธิพร ทีเด็ดคือหม้อจิ้มจุ่มที่เด็ดตรงน้ำซุปหอมๆ รสชาติเผ็ดแซ่บถึงทรวง และน้ำจิ้มรสเด็ดที่ทางร้านทำเอง มีแบบเผ็ดแซ่บ และแบบหวานเปรี้ยว กินคู่กับเมนูส้มตำ ลาบ น้ำตก ไก่ย่าง คอหมูย่าง และอีกมากมาย ที่สำคัญราคาดีมาก ต้องมาลอง

 

 

==============

 

6. แดงหมูจุ่ม

      อีกหนึ่งร้านชื่อดังอย่างจิ้มจุ่มกระทะร้อน ชื่อดังที่ถนนลาดหญ้า ร้านดังรอบดึก ที่มีเมนูจิ้มจุ่มสุดอร่อยคอยให้บริการอยู่ ที่นี่เป็นจิ้มจุ่มหม้อดินเผา มีทั้งหมู เนื้อ ทะเล น้ำจิ้ม นอกจากนี้ยังมีเมนูกระทะร้อนที่กินช่วงหน้าหนาวนี่บอกเลยฟินมาก นอกจากนี้ยังมี ส้มตำ ลาบ น้ำตก ต้มแซ่บ และปลาช่อนเผาเกลือ และอีกมากมาย บอกเลยต้องมา

 

 

==============

 

7. ตุ้มจิ้มจุ่ม

       เป็นอีกร้านจิ้มจุ่มในเมืองย่านพระราม 4 ที่เด็ดไม่แพ้ร้านไหน ที่นี่มีจุดเด่นอยู่ที่น้ำซุปจิ้มจุ่มหอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรแตะจมูก ให้แบบจัดเต็ม ซดร้อนๆ คู่กับข้าวเหนียวบอกเลยฟินมาก นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ ให้เลือกสั่งได้ไม่ว่าจะเป็น ส้มตำไทย ปากเป็ดทอด น้ำตกหมู คอหมูย่าง ลาบปลาหมึก เป็นต้น 

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/D6g39vKFwtvgsvk76
• ที่อยู่ : 416 ถนนพระรามที่ ๔ แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
• ร้านเปิดบริการ : 09.00 – 02.00 น.
• โทร : 08-9516-3157
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/kengza7543

 

==============

 

8. โคขุน คุณทอง

       เอาใจจิ้มจุ่มสายเนื้อกันบ้าง เพราะร้านนี้เป็นร้านจิ้มจุ่มที่เน้นความเป็นเนื้อคุณภาพดี ราคาย่อมเยาไว้เป็นอย่างดี ตอนนี้มีหลายสาขามาก ไม่ว่าจะเป็น สาขานวลจันทร์ 21 สาขาพระราม 5 สาขาลำลูกกาคลอง 2 สาขาอ่อนนุช-ลาดกระบัง สาขาศรีวรา และพุทธมณฑลสาย 1 แต่สำหรับใครที่ไม่ทานเนื้อที่นี่ก็มีเมนูหมู และทะเลที่อร่อยไม่แพ้กัน บอกเลยว่าต้องมาให้ได้จ้า

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/GYtDAbHgW72u2edx8
• ที่อยู่ : ถนนนวลจันทร์ – นวลจันทร์ แขวงลาดพร้าว เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร
• ร้านเปิดบริการ : 11.00 – 24.00 น.
• โทร : 0-2944-4581
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/kokhunlovers/

 

==============

 

9. จุ่มลาดหญ้าหน้าสหกรณ์

         มาถึงอีกหนึ่งร้าน อาหารอีสาน และเมนูเด็ดของที่นี่จะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากเมนู จิ้มจุ่มหม้อไฟนั่นเองง ที่ร้าน หมูจุ่มลาดหญ้า ถนนลาดหญ้า หมูจุ่มที่นี่รสชาติดีเวอร์ แซ่บโดนใจ นอกจากนี้ยังมีเมนู เสือร้องไห้ ลาบทอด เมี่ยงปลาเผา ที่บอกเลยว่าเย็นนี้ต้องโดน!

 

 

==============

 

10. มังกรซีฟู้ดส์ บุฟเฟ่ต์ทะเลเผา

        สายซีฟู้ดมาทางนี้จ้า ที่้ร้าน มังกรซีฟู้ดส์ บุฟเฟ่ต์ทะเลเผา สาขาห้วยขวาง ราคา 459 บาท ต่อคน รวมหมดไม่มีจ่ายเพิ่ม ใช้สิทธิ คนละครึ่ง จ่าย 309 บาท ต่อคนเท่านั้น บอกเลยว่าคุ้มสุดอะไรสุด ไม่ว่าจะเป็นกุ้งแม่น้ำ ปูทะเล เป็นๆ ว่ายน้ำเล่นให้จับไปปิ้งแบบสะใจ ปลาหมึกสดๆ ทางร้านการันตีว่าซีฟู้ดวางแน่นบาร์ ไม่มีเคว้งคว้างแน่นอน

 

 

==============

 

11. จอมมารบู-บุฟเฟ่ต์

        สายปิ้งย่างชาบูต้องร้านนี้ จอมมารบู บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง สุกี้ชาบู พร้อมด้วยชีสเน้นๆ มีให้เลือกทั้งแบบสั่งจานเดี่ยวหรือกินเป็นบุฟเฟ่ต์เอาใจคนกินจุ โดยมีเมนูให้เลือกมากมาย ในราคากันเอง เริ่มต้นที่ 199++ บาท ต่อคนเท่านั้น กินได้จุกๆ แบบไม่อั้นเลยทีเดียว บอกเลยว่าถ้ามาตลาดนัดเลียบด่วน ไม่ควรพลาด

 

 

==============

 

12. เดอะฟาร์ม บุฟเฟ่ต์ อุดมสุข 45

        ร้าน The Farm Buffet อุดมสุข 45 บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด หมูกระทะปิ้งย่าง ที่เราภูมิใจนำเสนอมากๆ รวมไปถึงใครมีงบน้อย บอกเลย ที่นี่ตอบโจทย์มาก ! ราคาก็ดี๊ดี บุฟเฟต์หมูกระทะ 199 บาท ต่อคน แลพ บุฟเฟต์ทะเลปิ้งย่าง 349 บาท ต่อคน นอกจากนี้เมนูซีฟู้ดเค้าก็ยกมาทั้งทะเลเลยล่ะ เอาเป็นว่าต้องมาลองสักครั้ง จะติดใจอย่างแน่นอน

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/Vg6RC5P9koQnSR8s9
• ที่อยู่ : ถนน อุดมสุข แขวง บางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
• ร้านเปิดบริการ : 16.00 – 24.00 น.
• โทร : 09-9292-6265
• ที่จอดรถ : มี
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/farmudomsuk45/

 

==============

     อาหารญี่ปุ่น แบบ Omakase (โอมากาเสะ) ใครว่าจะต้องจ่ายแพงคอร์สละหลายพันบาทต่อคนเสมอไป! วันนี้เราได้รวบรวม 12 ร้าน โอมากาเสะ ราคาไม่แพง ในกรุงเทพฯ 2021 ที่เสิร์ฟอาหารคุณภาพดี วัถุดิบพรีเมี่ยม ในราคาสบายกระเป๋า ไม่เกิน 2,000 บาท มาให้แล้วจ้าา ซึ่งคำว่า Omakase แปลง่ายๆ ก็คือ “ตามใจเชฟ” โดยเชฟจะเป็นผู้รังสรร และคัดเลือกเมนูที่จะมาเสิร์ฟให้เราด้วยตัวเองค่ะ ในแต่ละวันเมนูก็อาจจะแตกต่างกันออกไปตามฤดูกาล และวัตถุดิบที่ทางร้านได้มา โดยใน 1 คอร์ส จะเสิร์ฟเริ่มจากเมนู Appetizer เรียกน้ำย่อย ไต่ระดับความฟินของมื้ออาหารขึ้นมาเรื่อยๆ และปิดท้ายด้วยของหวานล้างปาก เรียกได้ว่าเป็นการเติมเต็มประสบการณ์การทานอาหารไปอีกระดับ ที่เราอยากให้ทุกคนได้มาลองค่ะ

 

 

 

ร้านโอมากาเสะ กรุงเทพ ราคาไม่เกิน 2000 บาท

 

1. Shinkanzen Omakase

 

รูปภาพจาก คุณ : กานต์เจริญฯ

 

     เริ่มต้นกันที่ร้าน Shinkanzen Omakase สำหรับใครที่อยากมาเปิดประสบการณ์การทานซูชิแบบโอมากาเสะเป็นครั้งแรก เราขอแนะนำให้มาที่ร้านนี้เลยค่ะ คอร์ส Omakase ของที่นี่ เริ่มต้นเพียง 1,500++ บาทเท่านั้นเอง สามารถทานได้ถึง 17 คอร์สสุดพรีเมียม คอนเซ็ปต์ของทางร้านคือ เค้าอยากให้ลูกค้าได้ทานอาหารคุณภาพในราคาที่สบายกระเป๋า และอยากให้อร่อยในทุกๆ คำที่ทาน โดยทางร้านได้คัดเลือกวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมสดๆ ส่งตรงมาจากตลาดปลาที่ปประเทศญี่ปุ่น หืมม แค่คิดก็ฟินแล้ว ถือเป็นร้านโอมากาเสะที่ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ

 

ดูบทความรีวิวเต็มๆ ได้ที่ : OMAKASE 17 คอร์สในราคาที่จับต้องได้

 

รูปภาพจาก คุณ : กานต์เจริญฯ

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/VUoxvAjiAr7c2vA69
• ที่อยู่ : สาขา สยาม ชั้น3 ถนนอังรีดูนัง ใกล้ร้านชานม Bear House แขวง/เขต ปทุมวัน กรุงเทพฯ
• ร้านเปิดบริการ : ทางร้านเปิดให้บริการ omakase ทั้งหมด 4 รอบต่อวัน
  รอบเเรก เวลา 12.00- 13.15
  รอบที่ 2 เวลา 13.30 -14.45
  รอบที่ 3 เวลา 17.30- 19.00
  รอบที่4 เวลา 19.30-​ 21.00
  (หยุดให้บริการทุกวันจันทร์)
• ราคาเริ่มต้น : 1,500++ บาท
• โทร : 08-8620-7898
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Shinkanzen-Omakase

 

 

2. Akako Omakase

 

 

     มาต่อกันที่ร้าน Akako Omakase ความพิเศษของคอร์สโอมากาเสะของที่นี่คือ เราจะสามารถทานอาหารคุณภาพดี 12 คอร์ส ในราคาไม่ถึงพันบาท บอกเลยว่าเป็นร้านโอมากาเสะที่ราคาดี และคุ้มค่าร้านนึงเลยก็ว่าได้ ถึงแม้คอร์สจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็ได้ทานซูชิระดับพรีเมียม ในราคาที่จับต้องได้ ถ้าใครอยากลองมาเปิดประสบการณ์ การทานโอมากาเสะ ระดับเริ่มต้น มาร้านนี้บอกเลยว่าไม่ผิดหวังค่ะ

 

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/byEgFweVAecnGWj38
• ที่อยู่ : The Ciecle ราชพฤกษ์ แขวง บางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
• ร้านเปิดบริการ : ทุกวัน 11.00-21.00 น.
  รอบเเรก เวลา 12.00 น.
  รอบที่ 2 เวลา 15.00 น.
  รอบที่ 3 เวลา 17.00 น.
  รอบที่ 4 เวลา 19.00 น.
• ราคาเริ่มต้น : 999 บาทสุทธิ
• โทร : 09-7086-4094
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/akako.omakase/

 

 

3. Koko Japanese Restaurant

 

 

     Koko Japanese Restaurant อีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์พรีเมียม ใจกลางเมือง ทางร้านนำเข้าวัตถุดิบคุณภาพดี จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งไม่ต้องห่วงเรื่องความสด เพราะที่ร้านเค้ารับประกันว่า เสิร์ฟตรงความสด อร่อย ถึงมือเราแน่นอน ด้วยสูตรลับเฉพาะที่ KOKO เท่านั้น ในส่วนของ คอร์สโอมากาเสะ ก็เริ่มต้นที่ 14 คำ 1,499++ บาท นอกจากนี้ในวันพิเศษต่างๆ ทางร้านเค้ามักจะมีโปรโมชั่นโอมากาเสะราคาพิเศษด้วยนะคะ ใครอยากไปพิสูจน์ความสด ความอร่อย ก็จัดไปเลยค่าา

 

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/uvb4C8nthhG3kUMp8
• ที่อยู่ : หลังอาคารหะรินธร (จอดรถฟรี 3 ชม.) ซอย สาทร 4 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ
• ร้านเปิดบริการ : Omakase เปิดทุกวัน วันละ 3 รอบ
  รอบเเรก เวลา 12.00 น.
  รอบที่ 2 เวลา 17.00 น.
  รอบที่ 3 เวลา 19.00 น.
• ราคา : เริ่มต้น 1,499++ บาท
• โทร : 0-2115-7628 / 08-8627-8264
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/KOKOJAPANESE/

 

 

4. Shinsei Sushi

 

 

     ร้านต่อมา Shinsei Sushi โอมากาเสะ พิเศษแบบเชฟจัดให้คำต่อคำ คุณภาพพรีเมี่ยมในราคาสบายๆ ถ้ามาลองทางโอมากาเสะที่ร้านนี้รับรองว่า อื่ม อร่อย ฟิน กระเป๋าสตางค์ไม่ฉีกแน่นอนค่ะ ร้านนี้เค้ามีสโลแกนว่า “กินซูชิทั้งที…ไม่ได้มีดีแค่เรื่องปลา” แน่นอนว่าคอร์สโอมากาเสะของที่นี่ต้องมีความหลากหลาย ใครที่อยากมาเติมความแปลกใหม่ของรสชาติอาหารให้ชีวิต เราแนะนำให้เพิ่มร้านนี้เข้าไปในลิสต์เลยค่ะ ราคาก็ดี๊ดี เริ่มต้นเพียง 1,500 บาท ไม่มีเซอร์วิสชาร์จไปอี๊ก ดีขนาดนี้ พลาดไม่ได้น้าา

 

 

• พิกัด : https://g.page/Shinseisushi
• ที่อยู่ : ถนน พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
• ร้านเปิดบริการ : 11.30 – 22.00 น. (โอมากาเสะ รอบละ 6 ท่าน)
  รอบเเรก เวลา 12.15 – 14.00 น.
  รอบที่ 2 เวลา 17.45 – 19.30 น.
  รอบที่ 3 เวลา 19.45 – 21.15 น.
• ราคา : 1,500 บาทสุทธิ
• โทร : 06-3319-6655
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/shinseisushi/

 

 

5. Yuna Japanese Restaurant

 

 

      Yuna Japanese Restaurant ร้านอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ ของเชฟชาวญี่ปุ่น โอมากาเสะของร้านนี้เป็นแบบดั้งเดิม ออริจินัลสุดๆ เป็นการเสิร์ฟซูชิโอมากาเสะที่มาพร้อมกันเป็นเซ็ต โอมากาเสะซูชิ หรือ โอมากาเสะจิราชิ มื้อกลางวันสุดหรูมาพร้อมกับซูชิ 10 คำ มีทั้ง โอโทโร่ ชูโทโร่ คินเมได ปลาตามฤดูกาล และ เนกิโทโร่ ซึ่งในแต่ละวันปลาหรือวัตถุดิบที่เชฟใช้เสิร์ฟมาในเซ็ตจะไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับว่าในแต่ละวันจะปลาอะไรมามั่ง ในราคาเริ่มต้นที่หลักร้อยเท่านั้นจ้าา แต่ถ้าใครอยากทานโอมากาเสะแบบคอร์สที่นี่เค้าก็มีนะ ในราคาเริ่มต้นคอร์สละ 2,500 บาทค่ะ

 

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/17FN52H8KViBb8hH8
• ที่อยู่ : ซอยสุขุมวิท 11/1 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ (BTS นานา)
• ร้านเปิดบริการ : 11.00 – 23.30 น. (Omakase Time 17.00 – 21.00 น.)
• ราคา : Omakase course เริ่มต้น 2,500 บาท
• โทร : 0-2067-2602
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/yunajp/

 

 

6. Chingcha Tenyuu

 

 

     Chingcha Tenyuu (ชิงช้าเทนยุ) ร้านโอมากาเสะน้องใหม่ในเครือ Tenyuu (เทนยุ) พิกัดกลางใจเมืองที่สยามพาราดกอนนี่เองค่ะ ที่ร้านนำเข้าวัตถุดิบชั้นดี ส่งตรงจากญี่ปุ่น คัดสรรความสดใหม่มาอย่างดีที่สุด พร้อมให้คุณได้ลิ้มลองความอร่อยในคอร์ส Omakase 15 Items กับวัตถุดิบสุดพิเศษ ทั้ง Uni, Awabi, Hotate, Kagoshima Beef มาพร้อมดีลปังๆ 1,799++ (ปกติ ฿3,600++)

 

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/Wdu8vxxizjuMz2gG6
• ที่อยู่ : สยามพารากอน ชั้น G ถนน พระรามที่ 1เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
• ร้านเปิดบริการ : 11.00 – 22.30 น. (หยุดวันอังคาร)
  รอบที่ 1 : 12.00 – 14.00 น.
  รอบที่ 2 : 15.00 – 17.00 น.
  รอบที่ 3 : 17.30 – 19.30 น.
  รอบที่ 4 : 20.00 – 22.00 น.
• ราคา : เริ่มต้น 1,799++ บาท
• โทร : 09-6135-8299
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/chingchatenyuu

 

 

7. Shinsoko Sushi (ชินโซโคะซูชิ)

 

 

     มาเปิดประสบการณ์การทานอาหารญี่ปุ่นแบบ โอมากาเสะ กันต่อที่ร้าน Shinsoko Sushi (ชินโซโคะซูชิ) จัดความอร่อยให้เต็มรูปแบบด้วยTest Course คอร์สโอมากาเสะสุดคุ้ม 5 คำ สำหรับคนที่ไม่อยากทานเป็นคอร์สใหญ่ๆ ในราคา 999++ ซูชิอร่อยๆ จากวัตถุดิบระดับพรีเมียม แถมของหวานเเละน้ำซุบสูตรพิเศษ ใครที่อยากลองสัมผัสวัตถุดิบชั้นเลิศ ในราคาที่จับต้องได้ โดยเชฟมากฝีมือ มาทานได้ที่ร้าน Shinsoko Sushi เลยค่าา

 

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/rahyuWutSu4amT6YA
• ที่อยู่ : สุขุมวิท 26 (ใกล้ K Village) แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
• ร้านเปิดบริการ : 11.30 – 14.30 น. / 18.00 – 22.30 น.
• ราคา : เริ่มต้น 999++ บาท
• โทร : 0-2074-4419 / 09-7078-5257
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/ShinsokoSushiBKK/

 

 

8. Tenyuu Sho

 

 

     ต่อที่ร้าน Tenyuu Sho จ่ายเพียง 1,799++ ได้ถึง 18 คอร์สสุดพรีเมียม ที่ร้านคัดสรรค์วัตถุดิบที่ดีที่สุด รังสรรค์ออกมาเป็นเมนูที่อร่อยตั้งแต่หยิบเข้าปากจนกลื่นลงคอ Uni, Hotate, Awabi, Otoro และ Kagoshima Beef จัดเต็มความอร่อยระดับพรีเมียม อิ่มอร่อยกับหลากหลายวัตถุดิบชั้นดีในแบบคุ้มเกินคุ้ม

 

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/v9L3qWCNvSrpK5Gf6
• ที่อยู่ : The Helix EmQuartier ชั้น 8 ถนนสุขุมวิท เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
• ร้านเปิดบริการ :
  วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี จำนวน 3 รอบ
  รอบที่ 1 : 12.00 – 14.00 น.
  รอบที่ 2 : 15.00 – 17.00 น.
  รอบที่ 3 : 18.00 – 20.00 น.
  วันศุกร์ – วันอาทิตย์ จำนวน 4 รอบ
  รอบที่ 1 : 12.00 – 14.00 น.
  รอบที่ 2 : 15.00 – 17.00 น.
  รอบที่ 3 : 17.30 – 19.30 น.
  รอบที่ 4 : 20.00 – 22.00 น.
• ราคา : เริ่มต้น 1,799++ บาท
• โทร : 09-5247-2889 / 0-2003-6277
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/TenyuuSho/

 

 

9. Ichika Omakase

 

 

     ปิดท้ายกันที่ร้าน Ichika Omakase อีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่น แบบ โอมากาเสะ ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การทานอาหารแบบพรีเมี่ยม ด้วยวัตถุดิบคุณภาพดี ตามฤดูกาล ส่งตรงมาแบบสดๆ จากประเทศญี่ปุ่น และการปรุงรสแบบพิเศษสูตรเฉพาะของทางร้าน บอกเลยว่าใครได้มาที่นี่ ไม่มีคำว่าผิดหวังกลับบ้านไปแน่นอนค่า ราคาคอร์สโอมากาเสะ ของร้าน Ichika Omakase มื้อกลางวันเริ่มต้นที่ 1,700 บาทเท่านั้น ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!!

 

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/rkoBsJBcn8YwpSjc8
• ที่อยู่ : ซอย สุขุมวิท 18 เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
• ร้านเปิดบริการ : Lunch : 12.00 – 14.30 น. / Dinner : 18.00 – 22.30 น. (หยุดวันพุธ)
• ราคา : เริ่มต้น 1,700 บาท
• โทร : 06-1165-6546
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/ichikathailand/

 

 

10. Shosushi

 

 

     Sho sushi ร้านซูชิเจ้าดังจากฮ่องกง สาขาแรกที่เมืองไทย ตั้งอยู่ที่ ทองหล่อ ซอย 10 รับรองว่าคุณจะได้ดื่มด่ำกับประสบการณ์ การทานอาหารญี่ปุ่น วัตถุดิบพรีเมี่ยม แบบโอมากาเสะ ในราคาที่จับต้องได้ 10 course ราคา 1,599 ++ บาท มื้อนี้คือฟินแหละบอกเลย

 

 

• พิกัด : https://g.page/shosushibkk?share
• ที่อยู่ : ซอย ทองหล่อ 10 แขวง คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
• ร้านเปิดบริการ :
  รอบที่ 1 : 12.00 น.
  รอบที่ 2 : 18.00 น.
  รอบที่ 3 : 20.00 น.
• ราคา : เริ่มต้น 1,599 ++ บาท
• โทร : 09-8899-8740
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Shosushi.asia/

 

 

11. Omakase Ten

 

 

     ชวนมาสัมผัสประสบการณ์ การทานอาหารสุดพรีเมียมในรูปแบบ โอมากะเสะ กันต่อที่ร้าน Omakase Ten ร้านอาหารบรรยากาศดี บนถนนสาทร พื้นที่เดียวกับนร้าน Tenyuu Grand มีที่จอดรถกว้างขวาง คอร์สโอมากาเสะของที่นี่ เริ่มต้นที่ราคา 1,999++ บาท ถ้าตัวร้านจะะไม่ใหญ่มาก แต่คุณภาพเค้าไม่แพ้ใครนะจ๊ะ ใครสนใจรีบไปเถอะบอกเลยว่าดีย์

 

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/JyJ2w8TWDPid9ejm7
• ที่อยู่ : ถนน สาทรเหนือ แขวง สีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ (พื้นที่เดียวกับนร้าน Tenyuu Grand)
• ร้านเปิดบริการ : 4 ช่วงเวลา
  รอบที่ 1 : 12.00 – 14.00 น.
  รอบที่ 2 : 14.30 – 16.30 น.
  รอบที่ 3 : 18.00 – 20.00 น.
  รอบที่ 4 : 20.30 – 22.30 น.
• ราคา : เริ่มต้น 1,999++ บาท
• โทร : 0-2115-9659 / 08-9363-6262
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/OmakaseTen/

 

 

12. Hotaru Omakase

 

 

     ปิดท้ายความฟินกันที่ร้าน Hotaru Omakase ร้านโอมากาเสะขวัญใจวัยรุ่นย่าน จามจุรีสแควร์ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ไม่ถึงหลักพัน สามารถฟินกับโอมากาเสะ 14 คอร์ส พร้อมเสิร์ฟจากมือเชฟ แบบคำต่อคำ ราคาดีบวกกับความสด อร่อย และวัตถุดิบคุณภาพดี บอกเลยว่าใครเป็นคออาหารญี่ปุ่น ต้องห้ามพลาดร้านนี้เลยค่ะ

 

 

• พิกัด : https://g.page/zero-sushi?share
• ที่อยู่ : Chamchuri Square ชั้น 2 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
• ร้านเปิดบริการ : วันละ 5 รอบ 11.30 / 13.30 / 15.30 / 17.30 / 19.30
  รอบที่ 1 : 11.30 น.
  รอบที่ 2 : 13.30 น.
  รอบที่ 3 : 15.30 น.
  รอบที่ 4 : 17.30 น.
  รอบที่ 5 : 19.30 น.
• ราคา : เริ่มต้น 799++ บาท (เฉพาะรอบ 11.30 / 13.30 / 15.30)
• โทร : 061-1919-946
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/hotaru.omakase/

 

 

Kitty Intra 8ผู้ติดตาม

เป็นอีก 1 บัฟเฟตต์ที่อยากแนะนำมากๆ เลยค่ะ ที่ห้องอาหาร Flavors, โรงแรมเรเนอซองส์ 😍😋

อาหาร- มีหลากหลายประเภทให้เลือกทานค่ะ แบ่งออกเป็นโซนๆ ไปค่ะ ตามนี้นะคะ
1. โซนอาหารญี่ปุ่น มีข้าวปั้นหน้าต่างๆ, ปลาดิบ, ปลาหมึก
2. บาร์บีคิว / ปิ้งย่าง มีกุ้ง กั้ง หมึก หอย ไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อแกะ ให้เลือกปิ้งย่างในเตาตรงนั้นเลยค่ะ
3. อาหารทะเลแบบต้ม(แช่แข็ง) มีปูอลาสก้า, ปูม้า, กุ้ง, ปลาหมึก, หอยแมลงภู่ และหอยนางรม(สด ทรงเครื่อง)
4. ฟัวกราส์และสเต๊ก มีฟัวกราส์ที่สั่งเชฟทำใส่จาน ได้จานละ 2 ชิ้นค่ะ ส่วนสเต๊กก็มีทั้ง หมู ไก่ แกะ ปลา และเนื้อค่ะ
5. ส้มตำ และอาหารไทย มีหลายเมนูให้ตัก (ไป 3 ครั้งเมนูไม่ซ้ำกันเลยค่ะ) มีครกสำหรับตำส้มตำทานเองด้วยนะคะ
6. โซนแฮม, เบคอนหลากหลายชนิด และชีสหลากหลายชนิดเช่นกันค่ะ
7. โซนอาหารแขก(เรียกตามทีเห็นนะคะ) มีแผ่นโรตี และแผ่นแป้งอะไรสักอย่างที่ใช้ทานคู่กับอาหารที่มีเครื่องเทศเยอะๆ เช่นแกงกะหรี่ เป็นต้น
8. โซนอาหารอิตาเลี่ยนค่ะ มีพิซซ่า และสปาเก็ตตี้ต่างๆ
9. โซนของหวานและไอศกรีม มีให้เลือกเยอะมากๆค่ะ ข้าวเหนียวมูนมะม่วงคือดีมากๆ มีกลิ่นดอกมะลิอ่อนๆ บัวลอยมะพร้าวอ่อนก็นุ่มละไม ท็อปปิ้งก็มีให้เลือกหลากหลายอย่าง ไอศกรีมก็มีหลายรสค่ะ
10. โซนเบเกอรี่ มีเยอะมากกกก ทานไม่ครบเลยค่ะ มีเค้กแหลากหลายเมนู พุดดิ้งหน้าต่างๆ และแครมบรูเล่เป็นกลิ่นใบเตยนี่ชอบมากเลย 😋
11. โซนผักและผลไม้ จำผักไม่ได้แล้วค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ด้วย แต่ผลไม้ก็มีทั่วไปเลย เช่น ฝรั่ง แตงโม สัปปะรด ชมพู่ ส้ม ประมาณนี้ค่ะ
12. เครื่องดื่ม ไม่แน่ใจว่ามีอะไรให้เลือกค่ะ เพราะตอนไปสั่งไวน์ และค็อกเทลที่ไม่รวมในราคาบัฟเฟตต์ค่ะ

12 ข้อที่เอ่ยมาก็ไม่รู้ว่าครบรึยังนะคะ ใครมีอะไรเพิ่มเติมก็ทักท้วงได้ค่ะ มาแชร์กัน

ราคาขึ้นอยู่ที่วัน/เวลา ที่เลือกไป และโปรโมชั่นต่างๆ นะคะ ส่วนเราไปช่วงดินเนอร์วันจันทร์ และใช้ส่วนลดบัตรเครดิต Ktc ก็ลดไป 35% ตกประมาณคนละ 1,xxx บาทค่ะ

เหมาะสำหรับไปเนื่องในโอกาสพิเศษเช่น วันเกิดคนสำคัญ, เลี้ยงขอบคุณ/อำลา, พาลูกค้ามารับประทานก็ได้ค่ะ #Dec2018

เพิ่มเติม

       เอาใจสายกินย่านเลียบด่วนกันบ้างกับ 10 ร้านอาหาร เลียบด่วน รามอินทรา ร้านดัง บรรยากาศดี การันตีความอร่อย! ย่านที่รวบรวมร้านอาหารชื่อดัง คาเฟ่น่าแวะไว้ตลอดทั้งเส้น บอกเลยว่าใครเป็นสายกิน ต้องเคยแวะเวียนมาแถวนี้แน่นอน เพราะนอกจากที่นี่จะรวบรวมร้านอาหารชื่อดังสุดอร่อยไว้แล้ว ยังพร้อมไปด้วยบรรยากาศสุดชิล เหมาะแก่การพาครอบครัว หรือคนรักมาดื่มด่ำที่สุด เอาเป็นว่าวันหยุดหรือหลังเลิกงาน ใครยังคิดร้านอาหารที่จะไปฝากท้องไม่ออก ลองตามมาดูรายชื่อร้านอาหารเลียบด่วน รามอินทรากัน เผื่อถูกใจสักร้าน จะได้แวะไปเช็คอินกันเลย!

 

 

 

ร้านอาหาร เลียบด่วน รามอินทรา 

 

1. ครัวแม่ศรีเรือน

 

 

===============

 

2. แซ่บอินดี้

        ร้านอาหาร เอาใจคออีสานอย่างแซ่บอินดี้ ที่ถูกใจสายกินยามค่ำคืนสุดๆ ตัวร้านตกแต่งด้วยโครงไม้โปร่ง สีทึบเท่ แถมมีที่นั่งรองรับมากมาย เป็นร้านอาหารอีสานที่ดูทันสมัย เมนูเด็ดของร้านแน่นอนว่าต้องเป็น ส้มตำ ลาบ น้ำตก และกับข้าวสไตล์อีสาน ที่บอกเลยว่าแซ่บจริงๆ แถมช่วงค่ำ ยังมีดนตรีสดอีกด้วยนะ บอกเลยร้านนี้ห้ามพลาด 

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/uYNL8fDd8NXZwR6cA
• ที่ตั้ง : 5/2 ถนนประดิษฐ์มนูญธรรม แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
• เปิดบริการ : 16.00 – 24.00 น.
• โทร : 08-5664-4645
• ที่จอดรถ : มี
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/SabindyRestaurant/

 

===============

 

3. เกาะลันตา เกษตร-นวมินทร์

       ร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ พร้อมเสิร์ฟเมนูอาหารไทยรสชาติดี ภายในร้านตกแต่งด้วยต้นไม้นานาพรรณ พร้อมด้วยงานศิลปะสไตล์บาหลี จากอินโดนีเซีย ทำให้ได้กลิ่นอายความวินเทจนิดๆ ส่วนเมนูของร้านก็มีทั้งอาหารไทย อาหารฟิวชั่น ที่อร่อยไม่แพ้ร้านอื่นเลยทีเดียว 

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/VvJUx9TMNpJKJmu59
• ที่ตั้ง : 18/9 หมู่ 9 ถนนคลองลำเจียก แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร
• เปิดบริการ : 16.00 – 24.00 น.
• โทร : 08-5098-5199, 0-2943-9015, 0-2943-9016
• ที่จอดรถ : มี
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/KohLantaKasetNawamin/

 

===============

 

4. Bluetamp Cafe

        ไปชิลกันต่อที่ร้าน Bluetamp Cafe ที่ร้านสามารถจองโต๊ะแล้วมานั่งทานในร้านได้ล่วงหน้า ให้บริการทั้งอาหารจานเดียว อาหารเช้าสไตล์ฝรั่ง รวมไปถึงกาแฟและขนมปังไว้ให้นั่งจิบชิลๆ มาในสไตล์ All Day Brunch มากี่โมงก็กินมื้อเช้าได้ เป็นร้านที่เหมาะแก่การแวะมานั่งชิลยามสาย กินอาหารเช้าไปพลางๆ บอกเลยว่าห้ามพลาด

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/qTKYbABWkNjkDT4g7
• ที่ตั้ง : 56 ซอยลาดพร้าว 73 แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร
• เปิดบริการ : 08.00 – 18.00 น.
• โทร : 09-2426-4145
• ที่จอดรถ : มี
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/BluetampCoffee/

 

===============

 

5. Chocolate Ville

     เริ่มต้นกันที่ร้านแรก กับร้าน Chocolate Ville คงไม่ต้องอธิบายอะไรบ้างสำหรับที่นี่ เพราะทุกคนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เมนูเด็ดของที่นี่อย่างเมนูขาหมูเยอรมัน ก็นุ่มละมุนในปากไม่น้อย และอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนของที่นี่ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน รวมไปถึงวิวบรรยากาศก็ชิลล์ เหมาะแก่การมานั่งถ่ายรูปอีกด้วยครับ

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/3McUHmthafA7rZZf9
• ที่ตั้ง : 23, 1-16 ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร
• เปิดบริการ : 16.00 – 24.00 น.
• โทร : 08-1921-2016
• ที่จอดรถ : มี
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/chocolateville/

 

===============

 

6. The Club24 Bangkok

    เอาใจสายแฮงค์เอาท์กับร้าน Club 24 ร้านนี้เหมาะสำหรับผู้ชายสายกลางคืนเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าช่วงไหนมีเทศกาลดูบอลแล้วล่ะก็ ร้านนี้จะคึกคักเป็นพิเศษอีกด้วย ในส่วนของเมนูอาหาร ที่นี้เน้นเมนูรสแซ่บไม่ว่าจะเป็นลาบ กระเพรา ที่บอกเลยว่าจัดจ้านสุดๆ อีกหนึ่งเมนูที่พลาดไม่ได้เลยคือ ยำแซลมอน ที่ทั้งสดและแซ่บ สายชิลยามค่ำคืน ห้ามพลาด

 

 

===============

 

7. Hungy Eatery

        ร้านอร่อย ย่านนี้ อย่างร้าน Hungy Eatery ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ด้วยบรรยากาศสุดชิลล์ และเขียวขจีของต้นไม้ เลยทำให้เรารู้สึกสดชื่น สบายตาทุกครั้งที่ไปเยือน รวมไปถึงที่นี่มีเมนูอร่อยให้เลือกทั้งของคาว และของหวาน เรียกได้ว่ามาที่เดียว ครบจริงๆ

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/rZaz5qxTCpd5mi1d7
• ที่ตั้ง : 10/895 ซอยประเสรฺฐมนูกิจ 33 นวลจันทร์ บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร
• เปิดบริการ : 11.30 – 24.00 น.
• โทร : 08-8227-3966
• ที่จอดรถ : มี
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/HungyEatery/

 

===============

 

8. EST.33

      ร้านอาหารชื่อดังย่านเลียบด่วน ที่ได้แรงบันดาลใจจากโรงเบียร์ในต่างประเทศ ทำบรรยากาศมาได้ในสไตล์คันทรีสุดคลาสสิก เน้นเมนูอาหารแนวตะวันตก ดัดแปลงให้เข้ากับรสชาติแบบไทยๆ ไม่ว่าจะเป็นเมนูสเต็ก ผัดฉ่าทะเล รวมไปถึงซี่โครงหมูซอสพิเศษสุดอร่อย เป็นร้านที่เหมาะแก่การมานั่งชิลหลังเลิกงานสุดๆ

 

• พิกัด : https://g.page/EST-33CDC?share
• ที่ตั้ง : 1420/1 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
• เปิดบริการ : 11.00 – 24.00 น.
• โทร : 09-3193-1933
• ที่จอดรถ : มี
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/EST.33/

 

===============

 

9. Waterside Restaurant

        เริ่มกับร้านอร่อย กรุงเทพฯ บรรยากาศดีอีกหนึ่งร้านอย่าง Waterside Restaurant ที่คงไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าที่นี่เหมาะแก่การมานั่งสังสรรค์กับแก๊งค์เพื่อน หรือออฟฟิศเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่นี่มีบริการห้องคาราโอเกะนั่นเองครับ รวมไปถึงรสชาติอาหารของที่นี่ก็ดีงาม คุ้มค่ากับราคาอย่างแน่นอน

 

• พิกัด : https://g.page/WatersideKaraoke?share
• ที่ตั้ง : 16 13 ซอยประเสริฐมนูกิจ 33 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร
• เปิดบริการ : 16.00 – 23.00 น.
• โทร : 0-2018-9200
• ที่จอดรถ : มี
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/WatersideKaraoke/

 

===============

 

10. Gyu Gyu Tei

       เอาใจสายเนื้อกันบ้างกับร้านเนื้อย่างแบบ A La Carte สไตล์ญี่ปุ่น ที่ทางร้านคัดเนื้อมาอย่างดี มีส่วนที่มาแล้วต้องสั่งเลยก็คือ ฃเนื้อกิวกิวเต้ เนื้อเด่นของร้านที่นุ่มและมีมันแทรกกำลังดี หรือจะเป็น ลิ้นวัวหมักเกลือ ที่หนึบหนับเคี้ยวเพลินสุดๆ ส่วนใครไม่กินเนื้อที่ร้านก็มี หมูโทโร่ เนื้อหมูส่วนมันแทรกละลายในปากไม่แพ้กัน สายปิ้งย่างต้องมา!

 

• พิกัด : https://goo.gl/maps/AMmBgjhDXUm5YokY7
• ที่ตั้ง : ถนนเลียบทางด่วน เอกมัย รามอินทรา กรุงเทพมหานคร
• เปิดบริการ : 11.00 – 22.30 น.
• โทร : 08-1291-6666
• ที่จอดรถ : มี
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/gyugyutei.fan/

 

===============

       ประกาศแล้ว! กับรางวัลมิชลิน ไกด์ ประเทศไทย 2564 Michelin Thailand 2021 ในจังหวัด กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต และพังงา ถือเป็นงานประกาศผลรางวัลที่เป็นกำลังใจให้กับร้านอาหารทั่วประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ซึ่งปีนี้มีหลายร้านน้องใหม่ที่ได้รางวัลเป็นปีแรก รวมไปถึงร้านเดิมที่ได้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน บอกเลยว่าอาหารในประเทศไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ เหล่าสายกินคงอยากรู้แล้วใช่ไหมละว่าจะมีร้านอะไรบ้าง ถ้างั้นอย่ารอช้า ตามไปเช็คลิสต์พร้อมกันเลย!

 

 

ประกาศรางวัล มิชลิน ไกด์ 

Michelin Thailand 2021

 

 

รางวัลบิบ กูร์มองด์ (bib gourmand) 2564

      ในปีนี้ประเทศไทยได้รางวัลไปทั้งหมด 106 ร้าน โดยลิสต์นี้ก็มีร้านที่เพิ่งติดอันดับครั้งแรกด้วยกันทั้งสิ้น 17 ร้าน จากกรุงเทพฯ 9 ร้าน เชียงใหม่ 3 ร้าน และ ภูเก็ต-พังงา 5 ร้าน และมีร้านที่ได้รับการเลื่อนระดับจาก ‘มิชลิน เพลท’ (MICHELIN Plate) ด้วยกันทั้งหมด 4 ร้าน (จังหวัดละ 1 ร้าน) 

 

 

ร้านอาหาร Michelin Star 1 ดาว 2564

จำนวนทั้งหมด 22 ร้าน เป็นร้านอาหารใหม่ 3 ร้าน ได้แก่

รางวัล Michelin Star 1 ดาว ประจำกรุงเทพมหานคร 

• 80/20 Eighty Twenty
• Bo.Lan โบ.ลาน
• Canvas แคนวาส
• Chim by Siam Wisdom
• Elements เอเลเมนท์
• Ginza Sushi Ichi
• J’Aime by Jean-Michel Lorain
• เจ๊ไฝ Jay Fai 
• Khao (Ekkamai) ข้าว สาขาเอกมัย
• Le Du ฤดู
• เมธาวลัย ศรแดง
• Nahm น้ำ 
• Paste Restaurant
• สวรรค์ Saawaan
• เสน่ห์จันทร์
• savelberg (ซาเวลเบิร์ก)
• สระบัว by กิน กิน
• สวนทิพย์
• Sushi Masato (ได้รับรางวัลเป็นปีแรก)
• Blue by Alain Ducasse (ได้รับรางวัลเป็นปีแรก)
• Cadence by Dan Bark (ได้รับรางวัลเป็นปีแรก)

 

 

รางวัล Michelin Star 1 ดาว ประจำจังหวัดภูเก็ต – พังงา

 

 

ร้านอาหาร Michelin Star 2 ดาว 2564

จำนวนทั้งหมด 6 ร้าน เป็นร้านอาหารใหม่ 1 ร้าน ได้แก่

• Le Normandie เลอ นอร์มังดี
• Mezzaluna เมซซาลูน่า
• R-Haan
• Sorn ศรณ์
• Sühring
• Chef’s Table เชฟส์เทเบิล (ได้รับรางวัลเป็นปีแรก)

 

 

ปีนี้ มิชลิน ไกด์ ยังเพิ่มมาอีก 3 รางวัลพิเศษ ได้แก่

MICHELIN Guide Service Award presented by TAT 

(มอบให้กับสุดยอดบุคลากรของร้านอาหารที่ทุ่มเทให้กับการบริการเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การทานอาหารที่ยอดเยี่ยม

• ได้แก่ Mr.Guillaume Barray จากร้าน Chef’s Table

MICHELIN Guide Young Chef Award presented by BlancPain

• ได้แก่ เชฟอ้อม สุจิรา พงษ์มอญ หัวหน้าเชฟ ร้าน สวรรค์ กรุงเทพฯ
  
  

MICHELIN Green Star by MICHELIN Guide Thailand (รางวัลดาวมิชลินรักษ์โลก)

• Pru พรุ (ภูเก็ต)

 

Katherine Tan 207ผู้ติดตาม

🇹🇭Thailand
📍Gojuu Sushi, Siam Center, Bangkok
.
🚆เดินทางด้วยบีทีเอส Siam แล้วเดอนเชื่อมเข้าห้าง siam center
.
⏱เปิดปิดตามเวลาห้าง 10.00am – 10.00pm
.
ตามมาค่ะ มื้อนี้ตามใจเพื่อนล้วนๆ
ไปถึง siam center ก็เกือบสองทุ่มแล้ว ตอนแรกกะว่าจะกินอะไรเบาๆ สบายพุง หันไปเจอร้านนี้บุฟเฟ ซูชิ ซาชิมิของเชฟกะทะเหล็ก ทางเราก็เดินเข้าไปลองอะไรใหม่ๆกันหน่อย มื้อนี้เรียกว่า สั่งทุกอย่างในเมนู เริ่มจากซุปใส ซาชิมิ แซลม่อนสไลด์พริก กุ้งเทมปุระ โรลปลาไหลย่าง โรสทอดกรอบซอสสไปซี่ สุกี้ยากี้เนื้อวากิว แซลม่อนยำไทย หมึกย่างซีอิ้ว แซลม่อนย่างซอสเทอริยากิ และอีกเยอะมากๆๆๆๆ โดยรวมเรื่องความสดและความสะอาดถือว่าดีเลย รสชาติอาหารทำออกมาได้อร่อย และมีเมนูหลากหลายมาก เมื่อเทียบกับราคาประมาณนี้ ซุปสาหร่าย เค็มนำไปบ้าง แต่รวมๆ ถือว่ารับได้เลยค่า
.
💰คนละ 599++ (net อยู่ที่ ประมาณ 740 บาท)
.
#retrest

เพิ่มเติม