สูตรทำ บานอฟฟี่ ซอสคาราเมล ส่วนผสมน้อย ทำง่าย ทำขายสร้างอาชีพ !

          ใครกำลังมองหาสูตรขนมไม่ต้องอบ เมนูสร้างอาชีพ เมนูขนมทำง่าย อยู่ละก็ วันนี้เราจะมาแจกสูตรขนม สูตรทำ บานอฟฟี่ ซอสคาราเมล ส่วนผสมน้อย ทำง่าย ทำขายสร้างอาชีพ ! บานอฟฟี่ เมนูขนมสุดอร่อยที่หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เป็นอีกหนึ่งเมนูขนมทำง่าย โดนใจคนทุกเพศทุกวัยเลยทีเดียว ด้วยรสชาติหอมหวานจากคาราเมลและกล้วย ท็อปด้านบนด้วยวิปปิ้งครีมละมุน บอกเลยว่ากินฟินสุดๆ แถมต้นทุนต่ำ แต่หน้าตาดี ทำขายกำไรงามแน่นอน ว่าแต่สูตรทำ บานอฟฟี่ จะมีวิธีทำอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลย!

 

 

 

สูตรขนม บานอฟฟี่ เมนูสร้างอาชีพ

ดูคลิปขั้นตอนและวิธีทำ ด้านล่าง 

ส่วนผสม บานอฟฟี่ ซอสคาราเมล

อัตราส่วน แครกเกอร์

  • ริชท์แครกเกอร์ 300 กรัม
  • เนยสดชนิดเค็มละลาย 150 กรัม 

อัตราส่วน ซอสคาราเมล

  • น้ำตาลทรายชนิดละเอียด 250 กรัม
  • น้ำเปล่า 70 กรัม
  • วิปปิ้งครีม 150 กรัม (ใช้ริชโกลด์ Non-Dairy )
  • กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
  • เนยสดชนิดเค็ม 50 กรัม

อัตราส่วน วิปครีม

  • วิปปิ้งครีม 500 กรัม (ใช้ริชโกลด์ Non-Dairy )
  • กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
  • ผงโกโก้ (สำหรับโรยหน้า)
  • กล้วยหอม 8-9 ลูก

วิธีทำ บานอฟฟี่ ซอสคาราเมล

  1. นำแครกเกอร์ไปบดให้ละเอียด ใส่ลงในชามผสม ตามด้วยเนยละลาย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  2. นำไปใส่ในถ้วยขนาด 7 ออนซ์ กดให้เรียบ ความหนาประมาณ 1 เซนติเมตร นำไปแช่ตู้เย็น 39 นาที
  3. เทน้ำตาลทรายลงไปในหม้อ ตามด้วยน้ำเปล่า เปิดตาแก๊สใช้ไฟอ่อน รอจนน้ำเดือด ห้ามคน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที พอเริ่มเปลี่ยนสี ค่อยวนหม้อเบาๆ 
  4. พอได้ที่แล้วให้ปิดแก๊ส ใส่วิปปิ้งครีมลงไป แล้วรีบคนด้วยความเร็ว 
  5. พอส่วนผสมเข้ากันดี ใส่เนยลงไป ตามด้วยกลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากันอีกครั้ง พักให้เย็นสนิท
  6. เทวิปปิ้งครีมแช่เย็นลงในชามผสมที่นำไปแช่เย็นจัดมาแล้ว ตีด้วยตะกร้อไฟฟ้าความเร็วสูงสุดจนวิปปิ้งครีมตั้งยอด 
  7. นำวิปปิ้งครีมใส่ถุงบีบเตรียมไว้ จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นให้เซตตัว
  8. นำกล้วยมาหั่นเป็นแว่นๆ นำไปวางรอบแก้วใส่แครกเกอร์พักไว้ตั้งแต่แรก บีบซอสคาราเมลลงไปตามชอบ 
  9. ตามด้วยวิปปิ้งครีมด้านบน โรยผงโกโก้ด้านบนเพื่อความสวยงาม เป็นอันเสร็จ

 

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก

สูตรทำ เค้กกล้วยหอม ไม่ใช้เตาอบ เนื้อนุ่ม หอมอร่อย ทำได้ไม่ยาก

        สูตรขนม ทำง่ายๆ ในวันนี้ บอกเลยว่าเป็นขนมเค้กดีต่อใจ ใครทำก็อร่อย แฮปปี้ทั้งบ้าน นั่นก็คือ เค้กกล้วยหอม สูตรไม่ใช้เตาอบ เป็นสูตรแบบนึ่ง รับรองว่า หอมอร่อย เนื้อนุ่ม ทำง่ายไม่ซับซ้อนค่ะ จะทำทานเองคู่กับกาแฟก็ได้ หรือจะทำขาย จัดเบรค ก็ได้กำไรดีงามเลยน้า ตามไปจดสูตร เตรียมวัตถุดิบ แล้วทำไปพร้อมๆ กันได้เลยค่ะ

 

 

 

สูตรทำ เค้กกล้วยหอม ไม่ใช้เตาอบ

 

ดูคลิปขั้นตอนและวิธีทำ ด้านล่าง 

 

ส่วนผสม เค้กกล้วยหอม (สูตรนี้ได้ขนมประมาณ 20 ถ้วย)

  1. แป้งเค้ก 275 กรัม
  2. ไข่ไก่ 3 ฟอง (เบอร์ 2)
  3. กล้วยหอม 330 กรัม
  4. น้ำตาลทราย 130 กรัม
  5. น้ำตาลปื๊บ 50 กรัม
  6. ผงฟู 1 ช้อนชา
  7. เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  8. เกลือ 1/2 ช้อนชา
  9. นมข้นจืด 100 กรัม
  10. กลิ่นวนิลา 1/2 ช้อนชา
  11. น้ำมะนาว 10 กรัม
  12. น้ำมันข้าวโพด 110 กรัม

 

วิธีทำ เค้กกล้วยหอม

  1. เริ่มจากเตรียมชามผสม ตะแกรงร่อนแป้ง ใส่แป้ง เกลือ ผงฟู เบกกิ้งโซดา ร่อนใส่ชามเตรียมไว้ก่อน
  2. เตรียมถ้วยผสม ใส่น้ำตาลปิ๊ปลงไปบี้พอละเอียด ใส่นม น้ำมันพืช กลิ่นวนิลา น้ำมะนาว ผสมให้เข้ากันพักไว้ก่อน
  3. ต่อมาเตรียมชามผสม ตอกไข่ใส่ลงไป ตีด้วยเครื่องตีไฟฟ้าให้ไข่ขึ้นฟูเนียนดี ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปตีจนเข้ากันดี แบ่งใส่สัก 2-3 รอบ ค่อยๆ ใส่นมที่ผสมไว้ แล้วตีให้เข้ากัน บี้กล้วยหอมให้พอละเอียด ใส่ลงไปผสมให้เข้ากัน ใส่แป้งที่ร่อนเตรียมไว้ ใช้พายตะล่อมแป้งให้เข้ากัน
  4. ตักใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ ตักใส่ให้พอดีพิมพ์ แล้วใส่ซึ้งนึ่งในน้ำเดือดจัด ประมาณ 15-20 นาที หรือดูจนขนมสุกดี เป็นอันใช้ได้ค่ะ

 

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก

 

Summer Brown คาเฟ่เปิดใหม่ ร้านกาแฟ ย่าน เจริญนคร ต้องลองมาชิล 🌞

     ชาวธนบุเรี่ยนทั้งหลายยิ้มกว้างกันได้อีกหนึ่งรอบจ้าาา เพราะตอนนี้ ฝั่งธนฯ บ้านเรา มีอีกหนึ่ง คาเฟ่เปิดใหม่ ร้านกาแฟสวย อย่างร้าน Summer Brown คาเฟ่ร้านดังจากย่านอโศก พระราม 9 ตอนนี้เค้าย้ายทำเลมาเปิดร้านใหม่ กันที่ ย่าน ถนนเจริญนคร แล้วจ้าาา สำหรับร้านใหม่นี้จะเป็นคาเฟ่เล็กๆ ร้านกาแฟไซส์มินิ ที่บรรยากาศดู Cozy วินเทจแบบอบอุ่นขึ้นกว่าเดิม เอาล่ะอย่ารอช้า ตามเรามาสแกนกันดีกว่าว่าร้านนี้มีดีที่อะไร ทำไมเราถึงอยากแนะนำให้ทุกคนไปตำ !

 

 

 

Summer Brown ร้านกาแฟสวย ย่าน เจริญนคร

 

 

     Summer Brown คาเฟ่ เจริญนคร ถึงแม้ว่าร้านใหม่นี้จะเป็นคาเฟ่ไซส์เล็กๆ แต่บอกเลยว่าการตกแต่งร้าน และมุมถ่ายรูปเค้าก็จัดไว้ให้มุกคนได้มา Hopping กันอย่างเต็มอิ่มแน่นอนค่ะ และยังมีมุมให้นั่งทำงานได้เบาๆ สบายๆ การตกแต่งร้านจะเป็นฟีลวินเทจ ผสมความดิยหน่อยๆ ด้วยผนังปูนเปลือย และโต๊ะเก้าอี้สีออกโทนน้ำตาล มีตู้ไม้เก่า ดูโบราณแบบมีสไตล์ เดินเข้าร้านจะเจอกับเคาท์เตอร์และตู้ขนม ด้านในมีที่นั่งประมาณ 3-4 โต๊ะ ถึงแม้ที่นั่งจะมีไม่มาก แต่ทางร้านก็จัดมุมไว้ดี เรียกได้ว่านั่งโต๊ะไหนก็ได้รูปแน่นอนค่ะ

 

 

     ในส่วนของเมนู ที่ร้านมีทั้งเมนู coffee และ non-coffee มีเมล็ดกาแฟให้เลือกตามความเหมาะสมของแต่ละเมนู และตามความชอบของลูกค้า เมนูแรกที่เราลองสั่งมาคือ 500 Days of summer เป็นกาแฟส้ม เรียกได้ว่าแก้วนี้คือปลุกความสดชื่นในตัวคุณได้ดี เดินเข้าซอยมาร้อนๆ โดนแก้วนี้เข้าไป เอ้อออ สดชื่อจ่ะ

 

 

     และอีกเมนูคือ Dirty กาแฟเย็นแบบไม่มีน้ำแข็ง แก้วนี้รสชาติจะออกไปทางมันๆ นัวๆ มีความหวานอยู่น้อยๆ กาแฟไม่เข้มมาก ทานง่าย ในส่วนของขนมที่นี่ก็มีให้เลือกอยู่หลายเมนู (ดูจากป้ายในตู้) แต่ตอนเราไป ค่อนข้างจะเย็นแล้ว เลยเหลือขนมให้เลือกไม่มาก บอกเลยว่าใครเป็นสายครัวซองต์ ที่นี่เค้าก็มีนะจ๊ะ สั่งมาทานกับกาแฟเข้ากันดีน่าดูเลยล่ะ

 

 

     สำหรับการเดินทางมาที่ร้าน Summer Brown เจริญนคร ก็ง่ายๆ ค่ะ ตัวร้านตั้งอยู่ใน ซอยเจริญนคร 30 สามารถมาได้ทั้งรถไฟฟ้า และรถส่วนตัว ถ้าใครเอารถมาเองก็จอกได้ที่บริเวณริมถนน แล้วเดินเข้าซอยแล้วเลี้ยวซ้ายไปไม่ไกล ถ้าใครมารถไฟฟ้าก็นั่งรถต่อมาอีกไม่ไกลก็ถึงแล้ว บอกเลยว่าวันหยุดนี้ ใครไม่อยากเข้า ก็ลองมานั่งจิบกาแฟชิลๆ กันที่นี่ได้ รับรองว่าจะชอบ

 

 

🌞 ข้อมูลร้าน Summer Brown

  • พิกัด : https://g.page/summerbrowncafe
  • ที่อยู่ : ซอย เจริญนคร 30 แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพฯ
  • ร้านเปิดบริการ : 07.00 – 16.00 น. / เสาร์-อาทิตย์ 08.00 – 17.00 น. (หยุดวันจันทร์)
  • โทร : 08-0466-5559
  • ที่จอดรถ : ไม่มี (จอดริมถนน)
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/summerbrown.cafe/

 

 

สายกินต้องจด ! 9 ร้านอาหารมิชลิน เซ็นทรัลเวิลด์ ไปลิ้มลองความอร่อยระดับตำนาน ใจกลางกรุงเทพ

        วันนี้ขอเอาใจสายกิน ด้วยร้านอาหารอร่อย ใจกลางเมืองแบบระดับตำนาน บอกเลยว่าไม่ธรรมดา ! เพราะวันนี้เราจะพาไปจดลิสต์ 9 ร้านอาหารมิชลินสตาร์ และมิชลินไกด์ เซ็นทรัลเวิลด์ แต่ละร้านการันตีความอร่อยด้วยมิชลิน เราจัดเต็มให้ทั้งอาหารคาว และหวาน ไม่ว่าจะเป็นสายเนื้อ สายราเมน สายซีฟู้ด หรือสายติ่มซำ ก็ต้องอร่อยถูกใจแน่นอน ว่าแล้วก็ตามไปเก็บให้ครบทุกพิกัดกันเลยดีกว่าค่ะ

 

 

 

ร้านอาหารอร่อย มิชลินสตาร์ มิชลินไกด์ เซ็นทรัลเวิลด์

 

1. Tsuta

 

 

        Tsuta ซึตะ – ร้านราเมนชื่อดัง ระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาว จากญี่ปุ่น เจ้าแรกของโลก ! เค้ามาเปิดสาขาแรกในไทยค่ะ บอกเลยว่าคนรักราเมนต้องไปลองกันให้ได้ ไม่ต้องบินไปต่อแถวถึงญี่ปุ่น แค่มาเช็คอินใจกลางกรุงเทพฯ ก็สามารถซู้ดเส้นดังๆ กันได้แล้วค่ะ เมนูที่ต้องไปลอง ซึ่งเป็นเมนูพิเศษที่เชฟคิดค้นสูตรมาเฉพาะสาขาในไทย คือ ราเมนซุปหม่าล่า Mala Tonkotsu Soba รับรองว่าเด็ดโดนใจมากค่ะ

        อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : ไม่ต้องบินไปถึงญี่ปุ่น ! Tsuta ซึตะ ร้านราเมนชื่อดัง มิชลินสตาร์ ไปซู้ดดดเส้นดังๆ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ 🍜

 

 

 

==========

 

2. Kam’s Roast

 

 

        KAM’S ROAST –  ร้านห่านย่าง ระดับตำนาน ! จากฮ่องกง ที่ขอรับประกันความอร่อยด้วยดีกรีมิชลิน 1 ดาว ถึง 7 ปีซ้อนด้วยกันค่ะ บอกเลยว่าไปลิ้มลองความอร่อยกันได้ง่ายๆ ที่ เซ็นทรัลเวิลด์ เพราะสาขาแรกในประเทศไทยของเค้า อยู่ที่นี่แล้ว ! ใครที่ชอบทานห่านย่างต้องไปลองจริงๆ ค่ะ รับรองว่าคุ้มค่าแก่การไปเยือนแน่นอน


        อ่านเพิ่มเติมได้ที่ :  มาแล้ว! KAM’S ROAST ร้านดังจากฮ่องกง ห่านย่างระดับตำนาน ดีกรีมิชลิน 1 ดาว

 

 

 

==========

 

3. Pang Cha

 

 

        Pang Cha Thai Royal by Luk Kai Thong – ปังชา คาเฟ่ขนมหวานจากชาไทย ที่มีดีกรีความหวานอร่อยด้วย Michelin Guide 2 ปีซ้อน สำหรับคนรักชาไทยต้องไม่พลาดที่จะไปลองค่ะ เพราะที่นี่เค้านำเสนอขนมหวานที่เน้นชาไทยเป็นรสชาติหลัก แต่ละเมนูคือดีต่อใจสายหวานเหลือเกินค่ะ การตกแต่งของร้านก็หรูหรา ดูปลอดโปร่ง สะอาดตา ใครที่กำลังมองหาร้านขนมหวานอยู่ล่ะก็ ห้ามพลาดเลยค่ะ

        อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : Pang Cha ขนมหวาน ชาไทย รางวัลมิชลินด์ไกด์ Central World ที่สายหวานห้ามพลาด!

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/voPfYaQmiYTAqGZLA
  • ที่อยู่ : ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 3 ถนนราชดำริ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
  • ร้านเปิดบริการ : 10.00 – 22.00 น.
  • โทร : 02-106-3498
  • เว็บไซต์ : https://web.facebook.com/PangchaCafe/

 

==========

 

4. Jok โต๊ะเดียว (Jok’s Kitchen)

        Jok โต๊ะเดียว – ร้านอาหารระดับตำนานแห่งเยาวราช เป็นอาหารที่มาในสไตล์ไทย-จีน จากทำนานที่มีเพียงหนึ่งโต๊ะ ตอนนี้สามารถไปนั่งทานได้ชิลๆ ที่ห้างแล้วค่ะ สำหรับเมนูที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือ บะหมี่เกี๊ยว บอกเลยว่าเกี๊ยวกุ้งดีต่อใจ แป้งเกี๊ยวบางๆ ไส้แน่น ! เป็นกุ้งเน้นๆ โรยกระเทียมเจียว จิ้มซอสสักหน่อย อร่อยเหาะไปเลยล่ะค่า

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/3E6BpiP14t9XYy2m8
  • ที่อยู่ : ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 7 ถนนราชดำริ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
  • ร้านเปิดบริการ : 11.00 – 20.00 น.
  • โทร : 09-9629-2449
  • เว็บไซต์ : https://web.facebook.com/JOK-Kitchen

 

========

 

5. The Coffee Academics

        The Coffee Academics – คอฟฟี่เฮ้าส์แบรนด์ดังจากเกาะฮ่องกง หนึ่งในร้านกาแฟที่ดีที่สุดในโลก ! ชาว Coffee lover ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่เค้าใส่ใจในทุกกระบวนการของกาแฟ ให้เราได้ลิ้มลองกาแฟแบบเข้มข้นเต็มรส ไม่ว่าจะชอบรสชาติเข้มข้นหนักๆ หรือกลิ่นกาแฟเบาๆ เค้าก็มีให้เลือกหลากหลายเมนูค่ะ

 

========

 

6. Din Tai Fung

        Din Tai Fung – ร้านอาหารจีนชื่อดัง ที่มีต้นกำเนิดจากไต้หวัน มีเมนูขึ้นชื่อที่ต้องไปลองให้ได้สักครั้ง นั่นก็คือ เสี่ยวหลงเปา บอกเลยว่ารสชาติอร่อยถูกใจนักชิมทั่วโลก สำหรับพวกเราคนไทยไม่ต้องบินไปกินที่ไหนไกลเลยค่ะ ไปลิ้มลองความอร่อยได้ที่เซ็นทรัลเวิลด์ นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารจีนอื่นๆ อีกมากมายที่รับประกันความอร่อยด้วย Michelin Guide

 

========

 

7. สมบูรณ์โภชนา (Somboon Seafood)

        สมบูรณ์โภชนา (Somboon Seafood) – ร้านอาหารทะเลระดับตำนานที่โด่งดังไปไกลทั่วโลก กับเมนู ปูผัดผงกะหรี่ สูตรต้นตำรับ ที่ต้องไปลิ้มลองรสชาติออริจินัลนี้ให้ได้ค่ะ ทางร้านเค้าได้เลือกสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และส่วนผสมที่กลมกล่อมลงตัว รวมถึงมีเมนูซีฟู้ดจานเด็ดอีกมากมายที่รอให้สายกินทั้งหลายได้ไปชิมกัน รับรองว่าดีต่อใจแน่นอน

 

========

 

8. แสนยอด (Grand Sanyod)

        แสนยอด (Grand Sanyod) – ร้านอาหารรสเลิศ ต้นตำหรับอาหารจีนกวางตุ้ง ที่การันตีความอร่อยด้วยการแนะนำจากมิชลินไกด์ มีเมนูอร่อยให้เลือกหลากหลาย ที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือ เป็ดย่างเตาถ่าน ที่หมักด้วยน้ำซอสสูตรลับเฉพาะ บอกเลยว่านุ่มเข้าเนื้อ ดีต่อใจ ลองได้ทานคู่กับบะหมี่ไข่เหนียวนุ่ม รับรองว่ารสชาติถูกปากสายกินแน่นอนค่ะ

 

========

 

9. Song Fa Bak Kut Teh (ซงฟา บักกุ๊ดเต๋)

        ซงฟา บักกุ๊ดเต๋ – บักกุ๊ดเต๋ระดับ Michelin Guide Singapore สาขาแรกในไทยอยู่ที่นี่แล้วค่ะ ไม่ต้องบินไปไกลถึงสิงคโปร์ สำหรับสายกินแล้วต้องไม่พลาดที่จะไปลิ้มลองความอร่อยของบักกุ๊ดเต๋ร้อนๆ พร้อมเนื้อหมูเหนียวนุ่มเต็มคำ ! หรือจะเป็นซุปกระดูกหมูที่ตุ๋นจนเปื่อยราดน้ำซุปใสๆ บอกเลยว่าไม่ว่าจะเป็นเมนูไหนก็ฟินค่า

 

========

 

 

10 ร้านเป็ดปักกิ่ง ร้านอาหารจีน 2021 กรุงเทพ หนังกรอบ เนื้อนุ่ม ชุ่มซอส !

       ยังไม่หมดช่วงเทศกาลวันตรุษจีน 2564 ไปง่าย ครั้งนี้เอาใจอากง อาม่า กับ 10 ร้านเป็ดปักกิ่ง ร้านอาหารจีน 2021 กรุงเทพ หนังกรอบ เนื้อนุ่ม ชุ่มซอส ในแบบต้นตำรับ ! เป็ดปักกิ่งอันแสนคุ้นเคย ที่หลายคนชื่นชอบกันเป็นอย่างดี หนังเป็ดกรอบๆ รสชาติหวานเค็มมันกำลังดี กินคู่กับแป้งและเครื่องเคียงสไตล์จีน และน้ำซอสชุ่มฉ่ำสุดอร่อย ที่แต่ละร้านจะมีสูตรลับเฉพาะต่างกัน แต่บอกเลยว่า เป็นเมนูที่โดนใจทั้งครอบครัวแน่นอน ไหว้ตรุษจีนเสร็จแล้ว ใครกำลังมองหาร้านอาหารจีน ร้านเป็ดปักกิ่งเลี้ยงครอบครัวอยู่ละก็ ตามมาดูลิสต์รายชื่อร้านไปพร้อมกันเลย!

 

 

 

ร้านอาหารจีน ร้านเป็ดปักกิ่ง กรุงเทพ 2021

 

1. ส.บ.ล. ภัตตาคารสมบูรณ์ลาภ

     เรื่องอาหารจีน ต้องยกความดีงามให้กับร้าน ส.บ.ล. ภัตตาคารสมบูรณ์ลาภ เลยค่า ที่นี่เปิดมายาวนานกว่า 50 ปีเชียวนะ! เพราะฉะนั้นเราก้ห่วงเรื่องรสชาติอาหารของที่นี่กันเลย บอกเลยว่าถูกใจสมาชิกในตระกูลแน่นอน! บรรยากาศภายในร้านตกแต่งมาในสไตล์ Versace มาผสมกับสไตล์จีน หรูหรามากๆ เหมาะกับการมากินเลี้ยงแบบครอบครัวใหญ่สุดๆ แถมอาหารจีนก็พรีเมี่ยมสุดๆ มีให้เลือกทั้งสไตล์ฮ่องกง และแต้จิ๋วอีกด้วย เรากล้ารับประกันเลยค่ะว่าทุกคนจะต้องชอบเมนูเป็ดปักกิ่ง ของที่นี่อย่างแน่นอน

 

 

================

 

2. หลิวเซียงฟง

         ร้านอาหารจีนชื่อดัง หลิวเซียงฟง ร้านนี้มีจุดเด่นอยู่ที่เมนูเป็ดปักกิ่งรสเลิศ พร้อมด้วยคาราวานติ่มซำกว่า 50 แบบให้เลือกสั่งไปฟินกันได้ที่บ้าน บอกเลยว่าคนรักอาหารจีนต้องห้ามพลาดกับร้านนี้เลยละ ที่สำคัญยังมีเมนูอาหารจีนต้นตำรับ และมีพื้นที่รองรับอีกเพียบ สามารถพาครอบครัวไปกินได้ชิลๆ เลยจ้า

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/5ByaUwnSJeJQTJyb8
  • ที่อยู่ : 2 ซอย 39 ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร
  • โทร : 0-2108-5058
  • ร้านเปิดบริการ : 10.30 – 21.30 น.
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Liuxiangfong/

 

==================

 

3. ตงเพ้ง ภัตตาคาร

     ภัตตาคารอาหารจีนกวางตุ้ง-แต้จิ๋ว ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมานานกว่า 33 ปี ตงเพ้ง ภัตตาคาร ปัจจุบันร้านมีเมนูต้นตำรับ และเมนูฟิวชั่นมากมาย แต่ส่วนใหญ่เน้นรสแท้แบบคนจีนเกือบทั้งหมด ทำให้สามารถสั่งมากินได้ทั้งครอบครัว มีทั้งของกินเล่น อาหารจานหลักมาหมาย เข้าไปเลือกเมนูที่ชอบกันเลย

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/C2B5PjBwkXGaaB3h9
  • ที่อยู่ : ซอยลาดพร้าว 5 ถนนลาดพร้าว 53 โชคชัย 4 ซอย 5 แขวง สะพานสอง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 
  • โทร : 02-539-1343
  • ร้านเปิดบริการ : 10.00-22.00 น.
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/TongPengChineseRestaurant

 

==================

 

4. ฮองมิน ภัตตาคารอาหารจีน

     ร้านอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งต้นตำรับ ฮองมิน ภัตตาคารอาหารจีน ที่ร้านมีเมนูอาหารจีนยอดนิยมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้เลือกมากมาย จุดเด่นคือที่ร้านปรุงแต่ละเมนูอย่างพิถีพิถัน ทำให้คนกินได้ลิ้มรสความเป็นจีนแบบแท้จริง เมนูขายดีของร้านมีมากมายกว่า 50 เมนูเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น เป็ดปักกิ่ง เป็ดย่าง ติ้มซำ และอีกเพียบ

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/4gi7oMVNrnGD7oyH9
  • ที่อยู่ : เลขที่ 5 ซอยลาดพร้าว 72 วังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 
  • โทร : 08-8248-0123
  • ร้านเปิดบริการ : 09.30 – 20.00 น.
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/hongminfanpage/

 

==================

 

5. Hong Kong Fisherman

       เริ่มต้นที่ร้านบุฟเฟ่ต์ติ่มซำ สไตล์ฮ่องกงเเท้ที่ Hong Kong Fisherman IMPACT อารีน่า เมืองทองธานี ที่นี่ตกแต่งแบบจีนสมัยใหม่ เมนูแนะนำของร้านจะเป็นอาหารประเภทหมูแดง หมูกรอบ ทานคู่ถั่วต้ม ขิงดอง เเละน้ำจิ้มถั่วบดหวาน ฮ่องกงสุกี้ บะหมี่เป็ดย่าง ฯลฯ รับประกันความอร่อยโดยเชฟชาวฮ่องกงแท้ๆ บอกเลยว่าห้ามพลาด

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/G1BCfAWPU8PWU2Jy5
  • ที่อยู่ : IMPACT EXHIBITION CENTER, Hall 8 เลขที่ 99 ถนนป๊อปปูล่า เเยกบ้านใหม่ ปากเกร็ด นนทบุรี
  • เปิดบริการ : 11.00 – 22.00 น.
  • โทร : 0-2833-5434-5
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/HongKongFisherman

 

==================

 

6. Fei Ya

 

         ร้านเฟยยา ภัตตาคารจีนที่ได้รับรางวัล Thailand’s Best Restaurant ถึง 5 ปีติดต่อกัน (2011-2015) อยู่ที่ชั้น 3 โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพ ด้วยบุฟเฟ่ต์ติ่มซำที่มีให้เลือกกว่า 30 อย่าง ตัวร้านตกแต่งมาในสไตล์จีนโมเดิร์นน่านั่ง เหมาะสำหรับครอบครัวสุดๆ รสชาติต้นตำรับ แต่ยังแฝงเมนูอาหารฟิวชั่นสไตล์จีนอีกด้วย

 

  • พิกัด : https://g.page/feiyabkk?share
  • ที่อยู่ : 518/8 Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 
  • เปิดบริการ : 11.30 – 21.00 น.
  • โทร : 0-2125-5000
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/feiyabkk

 

================

 

7. LIN-FA Chinese Restaurant

         ห้องอาหารจีนสไตล์แต้จิ๋ว อยู่ที่โรงแรมเดอะ สุโกศล (โรงแรมสยามซิตี้เก่า) และมีชื่อเสียงมายาวนาน เมนูที่หลินฟาโดดเด่นกว่าร้านอื่นอยู่ที่ซุป เช่นซุปเกี๊ยวกุ้ง ที่กุ้งเป็นกุ้งจริงๆ หรือจะเป็นซุปไข่สไตล์เเต้จิ๋ว ซุปเห็ดหอมเพื่อสุขภาพ เป็นต้น สำหรับอาหารอย่างอื่นก็มีให้เลือกมากมายเช่นกัน ทั้งเซ็ตของทอดเรียกน้ำย่อย เซ็ตติ่มซำที่คัดแต่วัตถุดิบชิ้นโตๆ บริการรวดเร็วทันใจรับรองไม่ผิดหวัง

 

  • พิกัด : https://g.page/LinFa_Sukosol?share
  • ที่อยู่ : 477 ศรีอยุธยา ถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
  • เปิดบริการ : 11.30 – 14.30 น. / 17.00 – 21.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
  • โทร : 0-2247-0123
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/myLinFa

 

================

 

8. Chef Pom Kitchen

          Chef Pom Kitchen ภัตตาคารที่ตั้งโดยเชฟป้อม เชฟกระทะเหล็กอาหารจีนที่อยู่ในวงการมานาน ร้านตั้งอยู่ย่านพระราม 3 เรื่องความอร่อย และรูปร่างหน้าตาของเมนูนั้นหายห่วงแน่นอน ติ่มซำเริ่มต้นที่เข่งละ 79 บาท ได้รสชาติความอร่อยในแบบอาหารจีนต้นตำรับ ที่สำคัญราคาจับต้องได้ บอกเลยสายติ่มซำไม่ควรพลาด

 

 

================

 

9. Chef Man Restaurant

 

 

      Chef Man ถือเป็นภัตตาคารอาหารจีนในตำนาน ขวัญใจครอบครัวคนจีนมาอย่างยาวนาน เพราะที่นี่นอกจากเมนูอาหารจีนจะมีให้เลือกมากมายแล้ว ยังอร่อยตามแบบฉบับต้นตำรับ ที่สำคัญ มีเมนูติ่มซำที่พลาดไม่ได้ โดยเฉพาะขนมจีนกุ้งที่ใช้กุ้งเป็นตัวเลยทีเดียว กัดเข้าไปเต็มปากเต็มคำ สายอาหารจีน ไม่ควรพลาด

 

 

10. ฟุกหยวน

        หนึ่งในห้องอาหารจีนที่ขึ้นชื่อเป็นอันดับ 1 ในเรื่องติ่มซำ การันตีด้วย เชฟชัช เพชรไทรแก้ว เชฟที่มีประสบการณ์ฝีมือด้านอาหารจีนมากกว่า 30 ปีเลยทีเดียว มาพร้อมกับฉายาติ่มซำ คำโต รวมไปถึงซาลาเปา ขนมจีบ แต่ละอย่างมาแบบจัดเต็ม อร่อยแบบจีนแท้ สั่งมาลองกันเลย 

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/MKNLFCVqcqv4cH9Q6
  • ที่อยู่ : 92 ซอยโรงพยาบาลพระราม 9 บางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
  • เปิดบริการ : 11.30 – 14.30 น. / 06.00 – 22.30 น.
  • โทร : 0-2641-4777 ต่อ 1138
  • เว็บไซต์ : www.goldentulipbangkok.com

 

==================

สูตรทำ เฉาก๊วยนมสด คาราเมล เมนูขายดี ฮิตติดตลาด ใครได้ลองทานก็สดชื่น !

        เมนูทำขาย ดีต่อใจคนรักของหวาน เป็นเมนูที่สดชื่นนน คลายร้อน ใครได้ลองทานก็ต้องฟิน กับเมนู เฉาก๊วยนมสด คาราเมล ที่เราเห็นขายกันตามตลาดนัด หรือหน้าโรงเรียน เป็นเมนูที่อยู่คู่กับสตรีทฟู้ดต่างๆ ได้ดีมากทีเดียวค่ะ อากาศร้อนๆ แบบนี้ ได้เฉาก๊วยนมสดเข้าไปหน่อย รับรองว่าฟินเวอร์ ! ทำทานเองที่บ้านก็ดี หรือจะทำขายก็ได้กำไรดีงามเหมือนกัน บอกเลยว่าทำง่ายนิดเดียว ใช้วัตถุดิบไม่เยอะ ไม่มีซับซ้อนเลยค่ะ ว่าแล้วก็ตามไปเตรียมวัตถุดิบแล้วทำตามกันเลยดีกว่า รับรองว่าสดชื่นที่คนทำ และคนทานเลยล่ะค่า

 

 

 

สูตรทำ เฉาก๊วยนมสด คาราเมล

 

คลิกดู คลิปวิธีทำด้านล่าง

 

ส่วนผสม คาราเมล

  • น้ำตาลอ้อย 500 กรัม
  • น้ำตาลทรายแดง 500 กรัม
  • น้ำสะอาด 500 กรัม
  • แบะแซ ½ ถ้วย

ส่วนผสม เฉาก๊วยนมสด

  • นมข้นจืด 3 ถุง
  • เฉาก๊วย 3 โล
  • คาราเมล ที่ทำไว้แล้ว
  • น้ำแข็งหลอดเล็ก หรือ น้ำแข็งบด
  • น้ำตาลอ้อย สำหรับโรยหน้าฃ

 

วิธีทำ คาราเมล

  1. เตรียมหม้อ ใส่น้ำตาลอ้อย น้ำตาลทรายแดง น้ำสะอาด และแบะแซลงไป คนทุกอย่างให้พอเข้ากัน 
  2. นำหม้อขึ้น ใช้ไฟอ่อน เมื่อเริ่มเดือดแล้วค่อยๆ คน แล้วจึงปิดไฟคนต่อสักเล็กน้อย อย่าปล่อยให้เหนียวจนเกินไป
  3. ใส่โหล พักไว้ให้เย็น

วิธีทำ เฉาก๊วยนมสด

  1. หั่นเฉาก๊วยเป็นลูกเต๋าชิ้นเล็กๆ
  2. ใส่คาราเมลลงไปในเฉาก๊วยเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  3. เทนมข้นจืดใส่ภาชนะที่เตรียมไว้
  4. ตักน้ำแข็งใส่แก้ว เทนมลงไป ตามด้วยเฉาก๊วย
  5. เทคาราเมลใส่แก้วช็อต ราดคาราเมลลงไปในแก้ว โรยหน้าด้วยน้ำตาลอ้อย

 

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก

 

เคลียร์ตู้! รวมเมนูเด็ดจากของไหว้เจ้า เปลี่ยนของเหลือเป็นของหร่อย 🐔🐷

     วันตรุษจีน เทศกาลวันไหว้เจ้าครั้งใหญ่ ของชาวไทยเชื้อสายจีนเพิ่งผ่านพ้นไป แน่นอนว่าหลายๆ บ้านจะมี ของเหลือ จากการ ไหว้เจ้า ไม่ว่าจะเป็น ไก่ต้ม เป็ดต้ม หรือแม้แต่หมูสามชั้น สำหรับใครที่ยังไม่รู้จะทำยังไงกับของไหว้พวกนั้น วันนี้เรามีไอเดียสุดเจ๋ง รวมสูตรเมนูเด็ดๆ จากของไหว้เจ้า จะตรุษจีน หรือสารทจีน ก็ไม่ใช่ปัญหาหนักตู้เย็นอีกต่อไป! มาแปลงโฉมไก่ต้ม เป็ดต้ม จืดๆ ให้มีรสชาติแซ่บๆ โดนใจทุกคนในบ้านกัน ว่าแต่จะมีเมนูอะไรบ้าง ตามเรามาเลยค่าา!!

 

 

รวมสูตร เมนูของไหว้เจ้า

 

เมนูที่ 1 : ไก่ต้มผัดกระเทียม

Credit Clip : สุขกับการกิน

 

     มาเริ่มกันที่เมนูจาก ไก่ต้มไหว้เจ้า กันค่ะ กับเมนู ไก่ต้มผัดกระเทียม ส่วนผสมของเมนูนี้ก็ง่ายนิดเดียวค่ะ หลักๆ ก็มีแค่ ไก่ต้ม หั่นเป็นชิ้นๆ ขนาดกำลัง กระเทียม ผักชี และต้นหอม เท่านั้นเองค่า วิธีทำก็ง่ายสุดๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน เป็นเมนูที่ทำง่าย แต่อร่อยมากนะจ๊ะบอกเลย!

 

ส่วนผสม ไก่ต้มผัดกระเทียม

  • เนื้อไก่หั่นเป็นชิ้นพอประมาณ
  • กระเทียมสับ
  • ผักชี
  • ต้นหอม
  • ซีอิ้วขาว
  • น้ำตาลทราย
  • น้ำมันหอย

 

เมนูที่ 2 : ไก่ฝอยกรอบ

Credit Clip : แม่ซี น้องมดดี้ Channel

 

     เมนูเคลียร์ตู้เย็นเมนูต่อมา ยังอยู่ที่การเอา ไก่ต้ม มาแปลงโฉมค่ะ กับเมนู ไก่ฝอยกรอบ ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือเมนูนี้จะเป็นฟีลคล้ายๆกับหมูฝอยค่ะ แต่เปลี่ยนจากหมูเป็นไก่ รสชาติหวานๆ กรอบๆ หอมกลิ่นหอมเจียว อร่อย เคี้ยวเพลิน แถมยังเก็บไว้ได้นาน กินเป็นของกินเล่นก็ได้ หรือกินคู่กับข้าวเหนียวก็ฟิน รับรองว่าถูกใจเด็กๆ แน่นอนค่าา

 

ส่วนผสม ไก่ฝอยกรอบ

  • อกไก่ หรือเนื้อไก่ต้มฉีก 2 อก (ประมาณ 400-500 กรัม)
  • น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 1 ถ้วยตวง
  • เกลือป่น 1+1/2 ช้อนชา
  • หอมแดงซอย 100 กรัม
  • น้ำมันปาล์มสำหรับทอด 1 ขวด

 

เมนูที่ 3 : ไก่หมูรวนเค็ม

Credit Clip : เที่ยวตามใจ.com

 

     อีกหนึ่งเมนูเบสิค ในการเอาไก่ต้ม และหมูสามชั้นต้ม มาดัดแปลงให้กลายเป็นของอร่อยค่ะ สำหรับเมนู ไก่รวนเค็ม หมูรวนเค็ม หรือจะเอามารวมกันทีเดียวเป็น ไก่หมูรวนเค็ม แบบในคลิปนี้ก็ประหยัดเวลาได้แบบฟินทั้งคนทำและคนรอทานเลยค่ะ 

 

ส่วนผสม ไก่หมูรวนเค็ม

  • เนื้อไก่ และเนื้อหมู หั่นเป็นชิ้นพอดีๆ
  • ขิงสับ
  • กระเทียมสับ
  • ซีอิ้วขาว
  • ซอสปรุงรส
  • ซีอิ้วดำหวาน
  • น้ำมันหมู

 

เมนูที่ 4 : ลาบเป็ดอุดร

Credit Clip : YNN Channel

 

     มาถึงคิวเมนูเด็ด จาก เป็ดต้ม หรือ เป็ดย่าง กันบ้างค่ะ คราวนี้ขอเพิ่มความแซ่บกับเมนูรสจัดอย่าง ลาบเป็ดอุดร จากเป็ดไหว้เจ้า หื้มม! แค่ดูชื่อเมนูก็ซี้ดปากแล้วมั้ยล่า ถ้าอยากรู้แล้วว่าทำยังไง ก็คลิกดูคลิปด้านบนได้เลยจ้า บอกเลยว่าทำไม่ยาก รสชาติถูกปากสายแซ่บแน่นอน!!

 

ส่วนผสม ลาบเป็ดอุดร

  • เนื้อเป็ดต้ม หรือเป็ดย่าง 
  • พริกป่น
  • ข้าวคั่ว
  • ต้นหอมซอย
  • มะนาว
  • ใบมะกรูด

 

เมนูที่ 5 : คั่วแห้งเป็ดพะโล้

Credit Clip : แม่ไหย่น้อย Noi free style

 

     คั่วแห้งเป็ดพะโล้ อีกหนึ่งเมนูเก็บตกของไหว้เจ้าอย่าง เป็ดต้มพะโล้ คั่วในน้ำมันที่ใส่กระเทียมและพริกแห้งจนมีกลิ่นหอม คั่วจนเป็ดมีสีเหลือง โอ้ยย ใครที่ชอบกลิ่นกระทะหอมๆ ต้องห้ามพลาดเอาสูตรนี้ไปทำเลยค่าา แอบกระซิบว่าสามารถดัดแปลงจากเนื้อเป็ดเป็น ไก่ต้ม หรือหมูสามชั้นก็ได้ค่ะ

 

ส่วนผสม คั่วแห้งเป็ดพะโล้

  • เนื้อเป็ดพะโล้ 
  • กระเทียม
  • พริกแห้ง
  • ซอสปรุงรส
  • น้ำมันหอย
  • น้ำตาลทราย
  • ผงปรุงรส
  • พริกสด
  • ขิง
  • หอมหัวใหญ่

 

เมนูที่ 6 : แกงเผ็ดเป็ดพะโล้

Credit Clip : YING HOM CHANNEL

 

อีกหนึ่งเมนูไทยๆ สำหรับคนที่เบื่ออาหารจากของไหว้รสชาติจืดๆ เราขอเสนอสูตร แกงเผ็ดเป็ดพะโล้ จ้าา ใครว่าเป็ดพะโล้จะเอามารวนหรือตุ๋นได้เท่านั้น เมนูนี้บอกเลยว่าไอเดียเลิศ รสชาติดี ตู้เย็นบ้านใครมีเป็ดนอนค้างอยู่ ลองทำเมนูนี้ดูนะคะ รับรองว่าฟิน!

 

ส่วนผสม คั่วแห้งเป็ดพะโล้

  • เนื้อเป็ดพะโล้ 
  • พริกแกงเผ็ด
  • มะเขือเปราะ
  • กะทิ
  • ใบโหระพา
  • น้ำตาลปี๊บ
  • น้ำปลา
  • พริกชี้ฟ้าแดง

 

เมนูที่ 7 : หมูกรอบ จากหมูสามชั้นไหว้

Credit Clip : เที่ยวตามใจ.com

 

     หมูสามชั้นต้ม หนึ่งในของไหว้สำคัญ ที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะไหว้เจ้า ในเทศกาลตรุษจีน และสารทจีน เชื่อว่าต้องมีว่าหลายๆ บ้าน ที่ไม่รู้จะเอาหมูสามชั้นชิ้นใหญ่นี้มาทำอะไรต่อดี ขอบอกให้มาดูคลิปนี้เลยจ้า กับ สูตรทำ หมูกรอบ จากหมูสามชั้นต้มไหว้เจ้า บอกเลยว่าไม่ต้องกลัวเปลืองน้ำมัน เพราะสูตรนี้เค้าใช้วิธีทอดหมูสามชั้นด้วยด้วยหม้ออบลมร้อน รับรองว่า กรอบ อร่อย ไม่อ้วน(มาก) ส่วนหน้าตาจะออกมาเป็นยังไง ไปดูกันเลยค่า

 

ส่วนผสม คั่วแห้งเป็ดพะโล้

  • หมูสามชั้นต้ม
  • เกลือ
  • น้ำมัน (ทาหนังหมู)

 

เมนูที่ 8 : หมูหวาน

Credit Clip : เมนูบ้าน ๆ ทําทานง่าย ๆ

 

ปิดท้ายกันด้วยเมนูเด็ด จากหมููไหว้เจ้า กันอีกซักหนึ่งจานค่ะ กับเมนู หมูหวาน เมนูเครื่องเคียง ทานง่าย รสชาติอร่อยจัดจ้าน กินคู่กับแกงไทยหรืออาหารไทยอย่าง แกงไตปลา ข้าวคลุกกะปิ และแกงเผ็ดอื่นๆ เข้ากันสุดๆ เมนูนี้พูดสั้นๆ เลยว่า เด็ด!!

 

ส่วนผสม คั่วแห้งเป็ดพะโล้

  • หมูสามชั้นต้ม
  • เนื้อหมูสด
  • กระเทียม พริกไทย รากผักชี
  • น้ำตาลปี๊บ
  • ซีอิ้วขาว
  • ซีอิ้วดำหวาน

 

สูตรอาหารอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สูตรขนมเทียน หอมหวานนุ่มหนับ ทำง่าย รับตรุษจีน

 

แจกสูตรเด็ดรับตรุษจีน! ซาลาเปากุ๊กไก่
ทำขายได้ ทำไหว้เลิศ 🐣

สูตรทำขนม สาลี่นมสด สาลี่กรอบ 2 สไตล์ ขนมมงคลทำง่าย รับตรุษจีน !

         อยู่ในเทศกาลวันตรุษจีน 2564 แบบนี้ เรายังไม่หยุดแจกสูตรขนม เพราะวันนี้เราจะมาแจก สูตรขนมมงคล สาลี่นมสด สาลี่กรอบ 2 สไตล์ ทำง่ายรับตรุษจีน ! ขนมสาลี่สุดอร่อย ทำง่าย โดยรอบนี้เรามาบอกต่อถึง 2 สูตรเอาใจทั้งคนชอบแบบนุ่มและแบบกรอบ 2 แบบ 2 สไตล์กันไปเลย บอกละเอียด ทำตามได้แบบง่ายๆ ไว้สำหรับไหว้เจ้าในตรุษจีน สารทจีน ได้หมด หรือใครจะจดสูตรไปทำขายเป็นเมนูสร้างอาชีพก็เริ่ดไม่แพ้กัน ถ้าอยากรู้ว่ามีวิธีทำอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลย!

 

 

 

สูตรทำ ขนมสาลี่นมสด

ดูคลิปวิธีทำด้านล่าง 

ส่วนผสม ขนมสาลี่นมสด

  • แป้งเค้กบัวแดง 110 กรัม
  • ผงฟู 1/2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทรายชนิดละเอียด 125 กรัม
  • ไข่ไก่เบอร์ 1= 2 ฟอง
  • นมสดรสจืดแช่เย็น 65 กรัม
  • กลิ่นนมแมว 2-3 หยด
  • SP 8 กรัม
  • น้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา
  • สีผสมอาหารสีแดง 4-5 หยด
  • ลูกเกดสำหรับแต่งหน้าขนม

วิธีทำ ขนมสาลี่นมสด

  1. ร่อนแป้งกับผงฟูลงไปในชามผสม ใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน
  2. ตอกไข่ไก่ลงไปในชามผสม ตามด้วยนมสดแช่เย็น กลิ่นนมแมว 2-3 หยด ตีให้เข้ากัน 
  3. เทลงไปในชามผสมของแป้งที่ร่อนไว้ คนส่วนผสมให้เข้ากัน
  4. จากนั้นตีด้วยเครื่องตี ป้ายตรงหัวที่ตีด้วย SP เล็กน้อย ตีด้วยสปีดต่ำสุด 1 นาที ปาดชามผสมเล็กน้อย
  5. จากนั้นตีด้วยสปีดสูงสุดเป็นเวลา 6 นาที ปาดชามผสมอีกครั้ง จากนั้นใส่น้ำมะนาวลงไป และสีผสมอาหารสีแดง 
  6. ตีด้วยสปีดต่ำสุด 3 นาที ช่วยตัดอากาศทำให้ขนมออกมาเนื้อเนียน ปาดชามผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
  7. เทลงถาดขนาด 8*8 รองด้วยกระดาษไข เกลี่ยด้านหน้าให้เรียบดี นำไปนึ่งด้วยไฟกลางน้ำเดือดจัด 15 นาที 
  8. พักให้เย็นสนิท ตัดเป็นชิ้นๆ ตกแต่งด้านหน้าด้วยลูดเกด เป็นอันเสร็จ

 

==============

 

สูตรทำ ขนมสาลี่กรอบ

ดูคลิปวิธีทำด้านล่าง 

ส่วนผสม ขนมสาลี่กรอบ

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์  130 กรัม
  • ผงฟู 1/2 ช้อนชา
  • ไข่ไก่เบอร์ 2 = 5 ฟอง
  • น้ำตาลทรายชนิดละเอียด 180 กรัม (ยี่ห้อลิน)
  • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  • กลิ่นใบเตยกะทิ 1/2 ช้อนชามะพร้าวอบแห้ง 190 กรัม
  • น้ำตาลทราย 2 ช้อนตวง (สำหรับโรยหน้า)

วิธีทำ ขนมสาลี่กรอบ

  1. ร่อนแป้งและผงฟูเข้าด้วยกัน จากนั้นตอกไข่ใส่ชามผสม ตีด้วยความเร็วปานกลาง จนไข่ขึ้นฟูเข้าด้วยกัน
  2. จากนั้นแบ่งน้ำตาลทรายชนิดละเอียด ใส่ทีละครึ่ง และตีด้วยความเร็วสูงสุด จนหมด
  3. ตามด้วยเกลือป่น กลิ่นใบเตยกะทิ ตีด้วยความเร็วสูงสุดอีกครั้งจนส่วนผสมข้นฟู เป็นสีขาว
  4. จากนั้นใส่มะพร้าวอบแห้งลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำ ไม่ต้องนาน ปาดชามผสมให้ทุกอย่างเข้ากันดี
  5. แบ่งแป้งที่ร่อนไว้ใส่ลงไป ใช้ความเร็วต่ำตีให้เข้ากัน ทะยอยใส่แป้งเรื่อยๆ ไปจนหมด ปาดชามผสมอีกครั้งให้เข้ากัน 
  6. เทแป้งใส่ถาดที่รองด้วยกระดาษไข ขนาด 11*11 นิ้ว สูง 1.5 นิ้ว ปาดให้ด้านหน้าเรียบ
  7. นำน้ำตาลทรายมาโรยด้านหน้าบางๆ นำเข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิ 180 องศา ไฟบนล่าง ไม่ต้องเปิดพัดลม เป็นเวลา 20-25 นาที 
  8. พักขนมให้เย็นสนิท จากนั้นตัดเป็นชิ้นๆ 

 

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก

Fortune Street Food โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน จานด่วนคุณภาพดินดาว ราคาติดดิน

     ด้วยวิกฤติของโรค โควิด-19 ที่เกิดขึ้นในบ้านเราอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีที่ท่าว่าจะลดลงจนเป็นที่น่าพอใจ ทำให้เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีหลายๆ บริษัท หลายๆ หน่วยงานนั้น ที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในส่วนของผู้ประกอบกิจการธุรกิจการโรงแรม หลายๆ ที่ต้องปิดตัวลง และหลายๆ ที่ต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด และวันนี้เราจะขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ Fortune Street Food เมนูสตรีทฟู้ดเลิศรส ในราคาที่ใครๆ ก็ซื้อทานได้ ได้มาตรฐานโดยเชฟระดับ 5 ดาว จาก โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน กันค่ะ

 

 

 

สตรีทฟู้ดคุณภาพโรงแรม

Fortune Street Food โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน

 

     ทาง โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน ได้เริ่มต้นขาย Fortune Street Food มาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งก็มีการตั้งเต็นท์ขายอยู่บริเวณด้านหน้าโรงแรม ที่หน้า MRT สถานี พระราม 9 ออกประตู 1 นี่เองค่ะ โดยเริ่มจากขายเฉพาะมื้อเช้าอย่างเดียว โดยมีเมนูนิยมอย่างเช่น ผัดกะเพรา โจ๊ก กระเพาะปลา ข้าวเหนียวหมู และปาท่องโก๋ ที่มีคิวต่อยาวมากๆ ด้วยรสชาติที่อร่อยตามมาตรฐานห้องอาหารโรงแรม และวัตถุดิบคุณภาพดี และที่สำคัญสำหรับชาวออฟฟิศอย่างเราก็คือราคาไม่แพง อิ่มได้แบบคุ้มค่า เลยทำให้ Fortune Street Food มีลูกค้าต่อคิวกันซื้อในทุกๆ วัน

 

 

     หลังจากมื้อเช้าที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ก็ทำให้ทางโรงแรมเพิ่มการให้บริการในส่วนของมื้อเย็นซึ่งเมนูมีความแตกต่างกัน อย่างเช่น ข้าวมันไก่ เกี๊ยวกุ้งซอสเซี้ยงไฮ้ ปลาทับทิม ขนมปังปิ้ง โดยเชฟใหญ่ของทางโรงแรมได้มาลงมือปรุงด้วยตัวเองแบบสดๆ หืมมม น่ากินทุกเมนูเลยพี่จ๋า จนกระทั่งต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้มีการเปลี่ยนแปลงเมนูอีกครั้ง โดยหลายเมนูมีให้เลือกเพิ่มมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น อาหารตามสั่งที่หลากหลายทั้งมื้อเช้า และเย็น บอกเลยว่าใครผ่านไปผ่านมา แวะซื้อทานต้องติดใจไปตามๆ กัน

 

 

     เอาล่ะๆ บอกเลยว่าอาหารคุณภาพติดดาว ราคาติดดิน มีอยู่จริงที่ Fortune Street Food จาก โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน แวะมาฝากท้องกันได้เลยทั้งมื้อเช้า และมื้อเย็น ซึ่งตอนนี้ทางโรงแรมเค้าก็เปิดขายทุกวันจันทร์ – ศุกร์ และหยุด เสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยมื้อเช้าเริ่มตั้งแต่เวลา 07.00 – 10.00 น. มื้อเย็น 16.00 – 19.00 น. แต่อบกระซิบว่าบางเมนูที่ขายดีมากๆ จะหมดก่อนเวลานะจ๊ะ

 

 

     คนที่ปรับตัวได้ คือคนที่จะอยู่รอด ! ถึงแม้ว่าช่วงนี้อาจจะเป็นช่วงที่ยากลำบอกของหลายๆ คน แต่เราต้องสู้ไปด้วยกัน แล้วเชื่อเถอะว่าเราจะผ่านมันไปได้แน่นอนค่ะ

 

📍 Fortune Street Food โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/xFYPnsfWKeLXqSAZA
  • ที่อยู่ : ถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ (MRT สถานี พระราม 9 ทางออก 1)
  • ร้านเปิดบริการ : มื้อเช้า 07.00 – 10.00 น. / มื้อเย็น 16.00 – 19.00 น. (หยุด เสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
  • โทร : ไม่ระบุ
  • ที่จอดรถ : มี
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/grandmercurebangkokfortune/

 

 

มาแล้ว! KAM’S ROAST ร้านดังจากฮ่องกง ห่านย่างระดับตำนาน ดีกรีมิชลิน 1 ดาว

     พูดเลยว่าปีนี้เป็นปีทองของ ร้านอาหารในกรุงเทพ จริงๆ เพราะมีร้านอาหารดีกรีมิชลินสตาร์ ร้านอาหารมิชลินไกด์ เดินสายเข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทยกันแบบไม่มีหยุด และล่าสุด KAM’S ROAST ร้านห่านย่าง ร้านดังจากฮ่องกง ที่รับประกันความอร่อยด้วยดีกรีมิชลิน 1 ดาว ถึง 7 ปีซ้อน ก็ได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาเปิดสาขาแรกในประเทศไทย กันที่ เซ็นทรัลเวิลด์ CentralWorld แล้วจ้าา เอาล่ะ บอกเลยว่าเดินทางไปฮ่องกงยังไม่ได้ไม่เป็นไร อยู่ไทยก็ฟินได้เหมือนกัน !!

 

 

 

ร้านห่านย่างมิชลินสตาร์ ฮ่องกง สาขาแรก เซ็นทรัลเวิลด์

 

 

     ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สร้างปรากฏการณ์โลกแห่งอาหารอีกครั้ง เตรียมต้อนรับร้านห่านย่างชื่อดังระดับตำนานจากฮ่องกง Kam’s Roast ดีกรีมิชลิน 1 ดาว 7 ปีซ้อน จากคู่มือมิชลินไกด์ฉบับฮ่องกง และมาเก๊า พร้อมเปิดให้บริการสาขาแรกในไทย 11 ก.พ. นี้ ที่ชั้น 7 โซน Beacon ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ งานนี้สายกิน และสายเก็บดาวมิชลินต้องไม่พลาด เตรียมท้องให้พร้อมรอชิมเมนูย่างสไตล์ฮ่องกงอันเลื่องชื่อ จนได้รับฉายาจากนักชิมทั่วโลกว่า ‘Master of Cantonese Roast’

 

 

     โดยร้าน Kam’s Roast จะเป็นร้านอาหารในสายมิชลิน ร้านที่ 9 ของเซ็นทรัลเวิลด์ และเป็น 1 ใน 215 ร้านดังจากทั่วโลก ที่มามอบประสบการณ์ความอร่อยไม่สิ้นสุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “centralwOrld endless discovery wOrld of food” โดยสามารถเข้าไปค้นหารายชื่อร้านอาหารทั้ง 215 ร้าน จาก 10 สัญชาติที่เซ็นทรัลเวิลด์ ได้ง่ายๆ เพียงสแกน QR Code ดาวน์โหลด “ฟู้ด ไบเบิ้ล” เก็บไว้ในมือถือ ซึ่งร้านอาหารทั้งหมดได้ถูกแบ่งตาม Lifestyle Insight การทานอาหารของคนออกเป็น 8 สาย คือ สายแข็งชาบู-ปิ้งย่าง, สายมิชลิน, สายคาเฟ่ของหวาน, สายอินเตอร์, สาย Thai taste, สายกินง่ายๆ, สายปาร์ตี้แฮงค์เอ้าท์, และสายครีเอทีฟคุ้กกิ้ง

#EndlessDiscoverywOrldofFood
#กินอะไรดีที่เซ็นทรัลเวิลด์

 

 

📍 Kam’s Roast