สูตรขนม บราวนี่คัพ ของขวัญปีใหม่ สุดน่ารัก ทำกินเองง่าย ทำให้ก็เวิร์ค!

       ก่อนขึ้นปีใหม่ 2021 ใครกำลังมองหาของขวัญแทนใจสุดน่ารักให้คนสนิท เราขอแนะนำ สูตรขนม บราวนี่คัพ สุดน่ารัก! บราวนี่รสเข้มข้น จัดมาในถ้วยเล็กๆ พร้อมด้วยท็อปปิ้งด้านบนสุดคิวท์ จะนำมาเป็นเมนูของหวานกินในวันปาร์ตี้ปีใหม่ก็ได้ หรือจะนำจัดใส่กล่องสวยงาม เป็นของขวัญแทนใจให้คนใกล้ตัวก็ดี บอกเลยว่าทำไม่ยาก รับรองโดนใจคนได้รับแน่นอน เป็นหนึ่งในไอเดียของขวัญปีใหม่ที่บอกเลยว่าสายเข้าครัวห้ามพลาด ถ้าอยากรู้ว่าบราวนี่คัพมีวิธีทำอย่างไร ตามมาดูกันเลย!

 

 

สูตรขนม บราวนี่คัพ ขนมวันปีใหม่ ทำง่าย

ดูคลิปขั้นตอนและวิธีทำ ด้านล่าง 

ส่วนผสม บราวนี่คัพ

  • เนยสดจืดนิ่มๆ  = 85 กรัม 
  • ดาร์คช็อคโกแล็ต 70%  =  175 กรัม (ถ้าใช้ความเข้มข้นน้อยกว่า 70% ต้องลดน้ำตาลลงด้วย)
  • น้ำตาลป่น  = 180 กรัม ( เพิ่มละได้ในช่วง 150-200 กรัม )
  • ไข่ไก่เบอร์ 1 หรือ 2 = 2 ฟอง ( ห้ามใช้เบอร์ 0 เนื้อจะเหลวไป)
  • กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา (ใส่ไม่ใส่ก็ได้ ส่วนพิมพ์ไม่ได้ใส่ค่ะ )
  • แป้งเอนกประสงค์ = 85 กรัม
  • ผงโกโก้ = 10 กรัม
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • ช็อคชิฟ 60 กรัม (ไม่ใส่ก็ได้ถ้าไม่มี แต่ถ้าใส่จะอร่อยกว่า )
  • อัลมอน อบสุกก่อนนะ

วิธีทำ บราวนี่คัพ

  1. นำดาร์กช็อคโกแลต และเนยสดจืด ไปเข้าเวฟ 1-1.30 นาที คนให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน พักให้เย็นสนิท
  2. นำไข่ไก่ และน้ำตาลทรายป่น มาปั่นด้วยเครื่องตีให้น้ำตาลละลาย ไข่ข้นขึ้นเล็กน้อย ใส่ช็อกโกแลตกับเนยที่ละลายไว้แล้วลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำให้เข้ากัน
  3. นำแป้ง ผงโกโก้ เกลือ ลงไป ตามด้วยช็อกโกแลตชิพ อัลมอนต์ ใช้ไม้พายตะล่อมเร็วๆ ให้เข้ากันจนเนื้อเงาสวย
  4. ตักใส่พิมพ์ขนาดคัพเค้กที่วางเตรียมไว้บนตระแกรงสำหรับอบ ตกแต่งหน้าด้วยท็อปปิ้งตามชอบ
  5. นำเข้าเตาอบด้วยไฟบนล่าง อุณหภูมิ 175 องศา เป็นเวลา 25-30 นาที
  6. นำออกจากเตา พักให้เย็นสนิท จัดใส่จานหรือกล่องสำหรับห่อเป็นของขวัญตามชอบ เป็นอันเสร็จ
  7.  

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก

TORA Yakiniku x Café, Lasalle’s Avenue

🐯กินอย่างเสือ บุฟเฟ่ต์อลังการ ที่มีครบทุกอย่าง เนื้อพรีเมี่ยม หมูคุโรบุตะ ซีฟู้ด ซูชิ ซาชิมิ ขนมทำสดใหม่ มีให้เลือกกันพรึ่บพรั่บ

🎀สาขาเปิดใหม่เอาใจคนย่านบางนา สาขานี้ตั้งอยู่ใน โครงการ Lasalle’s Avanue

👉ไปไม่ถูก กด 👉Google Map : maps.google.com/?cid=17769700173106894528

⏰เปิดตั้งแต่ 11.00 – 22.30 น. เปิดทุกวัน

🤳โทรจอง 090-986-2991 ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.facebook.com/ToraYakinikuCafe/

ทั้งร้านเป็น Buffet All You Can Eat ทานได้ทั้งหมด 120 นาที

มีทั้ง 3 แบบ

⭐Standard 599 บาท
🛸Premium 799 บาท
🚀Grand 1,299 บาท

🐮เราเลือกทานแบบ Grand คุ้มสุดๆ สายเนื้อควรมา ร้านนี้เนื้อดีนะ Wagyu Geta Karubi, Wagyu Roast, OysterBlade เนื้อนำเข้าทั้งนั้น ทั้งจากออสเตรเลียและอเมริกา

🐚สายไม่เนื้อก็สามารถเพลิดเพลินกับ หมูคุโรบุตะ, คุโรบุตะบลูโกกิ, Australian Rack Lamb, Seafood ก็เลือกได้ ทั้งกุ้งก้ามกราม, หอยหวาน, หอยไม้ไผ่, แซลมอนนอร์เวย์, หอยเชลล์ปูม้า, หอยแมลงภู่นิวซีีแลนด์, หอยนางรมเกาหลี

🍧สายหวานก็ต้องห้ามพลาดเพราะที่นี่เค้า มีบาร์ทำขนมสดๆ สั่งปั๊บทำปุ๊บ
มีทั้งฮันนี่โทสบิงซู,ไอศครีม, Chocolate Lava, วาฟเฟิล, ฮอกไกโดชีสเค้ก

🍹เครื่องดื่ม มีให้เลือกเยอะมากๆ ทั้ง Virgin Mojito, Blue Paradise Soda, Strawberry Bubblegum Soda, Ice Espresso Latte, ชาร้อนก็มีน๊า

มาที่นี่จบครบทุกอย่างฟินตั้งแต่ของคาวของหวานเย็น ยันเครื่องดื่ม
🤘มิ้มชอบอันนี้เลย

เพิ่มเติม

CP – HiLai Harbour, ICONSIAM

International buffet in Icon Siam. Variety of cuisine included Seafood, Japanese, Chinese, Thai, Italian and Beverages. Good atmosphere, comfortable seat and good service.

CP-HILAI Harbour เป็นร้านอาหารนานาชาติประเภทบุฟเฟ่ต์สัญชาติไต้หวันที่มาเปิดในประเทศไทย ร้านอยู่บนชั้น 6 ของห้าง Icon Siam ในย่านเจริญนคร ร้านมีอาหารหลากหลายให้เลือกชิม อาหารแยกโซนตามประเทศมี ญี่ปุ่น ไทย จีน ฝรั่ง ส่วนเครื่องดื่มและของหวานรวมกันอีกเคาน์เตอร์หนึ่ง ร้านให้ตักกินแบบไม่อั้นในเวลา 2 ชั่วโมง เมนูที่โดนใจก็มี หอยนางรมตัวใหญ่สดหวานกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้านอร่อยเลย ชาชิมิฮามาจิเนื้อปลาสดหวานกําลังดี ชูชิหน้าปลาไหล ชูชิหน้าเนื้อวัวเป็นเมนูโปรด ขอนํ้าซอสหวานมาอีกถ้วยก็อร่อยไปเลย เทมปุระกุ้งและเทมปุระปลาไข่ทอดมาใหม่ๆแป้งกรอบเนื้อกุ้งสดเด้ง ปลามีไข่แน่นเต็มตัวทานอร่อย ตบท้ายด้วยทีรามิสุรสชาติดีงาม อาหารทะเลพวกปูม้าและกุ้งดูสีสันสวยงามแต่มันเย็นไปหน่อย ปลาทอดราดพริกทำมาดูสวยงาม บั้งมาเป็นชิ้นกินง่ายแต่น้ำราดพริกรสอ่อนไปหน่อย Ramp chop เนื้อไม่เปื่อยแต่ก็ไม่เหนียว ทำมาร้อนๆเสิร์ฟมาพร้อมไข่ดาว เนื้อติดมันมากไปหน่อย แต่กินกับซอสมิ้นต์อย่างได้รสชาติ บรรยากาศในร้านดูหรูหรา ร้านใหญ่โตมีพื้นที่เยอะ อาหารสดมีคุณภาพ ส่วนตัวชอบโซนอาหารญี่ปุ่นมากที่สุด โซนอื่นรสชาติยังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ พนักงานบริการได้ดีสุภาพยิ้มแย้มแจ่มใส ค่าเสียหายมื้อเย็นนี้ประมาณ 1,050฿

เพิ่มเติม

GuruGyuu(กูรูกิว), พหลโยธิน

วันนี้มาลองเนื้อ..ที่ร้าน Guru Gyuu ร้านปิ้งย่าง..ที่สำนักรีวิวไทยแบบSRและCRหลายสำนักบอกว่าดี!!.. ราคามี 3-4แพ็คให้เลือกทานครับ

1.ผมว่าเป็นสไตล์วาไรตี้ทั่วไปคือ ดีกว้างๆ หมูอร่อย..กุ้ง..หอย..ปลาต่างๆ..สดดีได้มาตรฐาน
แต่ๆเนื้อผมว่ายังไม่ปังเท่าไหร่นัก แต่ถ่ายรูปมาซะสวย55

ขยายความครับ ที่ว่าเนื้อยังไม่ปังคืองี้. เนื้อชนิดเดียวกัน สั่งมา3จาน แต่ละจานความเหนียวความนุ่มแตกต่างกันอบบชัดเจน จานนึงนุ่ม อีกสองจานเหนียว ทั้งๆที่เป็นเนื้อชนิดเดียวกัน เอ่อ งง มั้ย555 บางจานลายสวย บางจานไม่มีลาย แล้วบอกเนื้อตัวเดียวกัน สงสัยเป็นคอนเซ็ปป์ร้าน

2.เรื่องทานเหลือแล้วโดนปรับ??..ร้านนี้ซีเรียสมากนะครับระวังกันด้วย!! คือเนื้อที่ว่า..ถ้าสั่งมาแล้วๆยังไม่ได้ทานหากต้องการจะคืน..ก็คืนไม่ได้!!??..น้องเสริฟบอกห้ามคืน!! แล้วถ้าย่างแล้วทานไม่หมด(เพราะเหนียว)โดนปรับอีก!! ตอนเช็คบิลจะมีคนเดินมาตรวจที่โต๊ะ..ผมเหลืออยู่4-5ชิ้น(ต่างชนิดกัน) ผมบอกทางร้านว่ามันเหนียวมากเคี้ยวไม่ไหว..เค้าบอกว่าเนื้ออันนี้ปกติดีไม่เหนียวค่ะ(มีเถียงเราอีก55)ต้องขอปรับ!!555 ผมเลยบอกว่าได้ครับเอาตามกติกาเลย “เป็นครั้งแรกในชีวิตของการทานบุฟเฟต์แล้วโดนปรับ55”

3.ย่างด้วยเตาถ่านบนกะทะเทฟล่อนแบบแพนฟรายด์ไม่ใช่แบบตะแกรงย่าง..ซ๊อสที่หมักและน้ำจิ้มมี**รสเด่นๆคือหวานนำ

โดยรวมๆ ดีทุกอย่าง แต่เนื้อผมว่ายังไม่ปัง!!
เห็นว่ามีแพคพรีเมี่ยมเนื้อเทพ! 1,xxxเนท/หัว..เห็นจากรูปหน้าตาดีครับ..แต่ยังไม่กล้าลอง
Bearyพาชิมเรื่องกินไว้ใจผม #bearyพาชิม #เด็ดทุกทีbearyพาชิม #bearyพาชิมเรื่องกินไว้ใจผม

เพิ่มเติม

Maru Korean BBQ Restaurant

Great Korean BBQ All You Can Eat for 250 THB / person. Pork Grilled a bit burnt, taste so good especially dipping in with Korean style sauce. Refill gimchi soup and side dishes are delicious, breaking out from the oily fried pork. The restaurant just been open for 8 months and can accept large group – lot of tables. Excellent service, recommended.
🚗 Parking available

เพิ่มเติม

Mo Mo Paradise (โมโม พาราไดซ์), CentralWorld

ในวันนี้ทาน Standard Course menu ซึ่งร้านนี้มีซุปให้ทานประมาณ 5 อย่างให้เลือกได้ 2 อย่างซึ่งได้เลือกซุปใส ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการชิมรสชาตของเนื้อต่างๆโดยเฉพาะ และซุปสุกี้ยากี้ (แนะนำ) สำหรับคนที่ต้องการให้เนื้อมีนสชาตของซุป และสามารถทานโดยไม่ต้องจิ้ม ทางร้านมีน้ำจิ้มแค่ 2 ชนิด คือพอนซึและน้ำจิ้มงา แนะนำเนื้อหมูคุโรบุตะ อาจชุบไข่แล้วลวกหรือไม่ก็ได้ และเส้นอุด้งที่ทางร้านทำเอง กินคู่กับเนื้อสัตว์จะอร่อยมาก เครื่องดื่มมีน้ำอัดลมและน้ำหวาน ส่วนของหวานมีไอศครีม ได้แก่ ซอฟครีมรสสตรอเบอรี่, มะม่วง, มันม่วง, ชาเขียว แต่วันที่ไปมีไดฟูกุช๊อคโกแลค(ช๊อคโกแลคแน่นๆ) ซึ่งอร่อยมาก

#Rettyhny2020

เพิ่มเติม

กินอะไรดีที่กัมพูชา เที่ยวเขมรต้องลอง 5 อาหารถิ่นกัมพูชา

     เป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงที่โดนมองข้ามไปอย่างน่าเสียดายนะครับ สำหรับประเทศ กัมพูชา ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวระดับมรดกโลกอย่าง ปราสาทนครวัด-นครธม ใครเป็นสายเที่ยวประวัติศาสตร์ ชอบดูอารยธรรมโบราณล้วนต้องไปดูให้ได้ซักครั้ง

 

 

อาหารกัมพูชา หน้าตาเป็นยังไง ?

     อยู่ใกล้กันขนาดนี้ แต่สิ่งที่นักเดินทางสงสัยกันแน่นอน ก็คือเรื่อง อาหารกัมพูชา นั่นเองครับ แม้เขาจะกินข้าว ก๋วยเตี๋ยว แกงต่างๆ คล้ายบ้านเรา แต่ถ้าให้ลงรายละเอียดแล้วก็มีความแตกต่างที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยประวัติศาสตร์แต่ก่อนที่ได้รับอิทธิพลด้านอาหารมาจากทั้งฝรั่งเศส จีน อินเดีย โปรตุเกส

     ส่วนประกอบที่ใช้ในการปรุงอาหารกัมพูชา ก็จะใช้ของที่คล้ายๆ กับครัวไทย เช่น พริกแห้ง พริกสด กะทิ ฯลฯ เพียงแต่รสชาติความเผ็ดจะเบาลงกว่าของเราครับ ใครที่อยากลองไปเที่ยว ลองชม 7 อาหารกัมพูชา แนะนำให้ลองเมื่อไปเยือน ดังต่อไปนี้ครับ

 

 

1. อาม็อก Amok

 

 

     อาม็อก เป็นอาหารกัมพูชาที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด ลักษณะจะคล้ายกับห่อหมก แต่เนื้อสัตว์หลักที่เขาใช้จะเป็นเนื้อปลาน้ำจืดครับ ผสมด้วยเครื่องต่างๆ ทั้งขิง ขมิ้น ตะไคร้ กะทิ นำไปนึ่งพออยู่ตัว รับประทานพร้อมข้าวสวย จะได้ความเป็นครีมมี่แบบอาหารอินเดีย แต่รสชาติไม่เผ็ดเท่าห่อหมกไทย

 

 

2. นมปันเจ๊าะ Nom Banh Chok

     เมนูอาหารเช้ายอดนิยมของชาวกัมพูชา ถ้าได้ออกไปเดินตลาดเช้าจะเห็นผู้คนนั่งกินนมปันเจ๊าะนี่ล่ะครับ เป็นการนำเอาเส้นแป้งข้าวเจ้า (หรือเส้นขนมจีน) มาราดด้วยน้ำยาปลา ใส่ถั่วงอก หัวปลี แตงกวา และอีกสารพัดผักสด

 

 

3. ฬกฬัก Lok lak

 

 

     ฬกฬัก หรือเนื้อวัวผัดหอมแดง (อาจใช้เนื้อหมูได้เช่นกัน) นิยมกินกับข้าวสวยเช่นกัน โดยจะมาพร้อมกับน้ำจิ้มที่ทำจากมะนาว เหลือ พริกไทย จานนี้ได้รับอิทธิพลจากเวียดนาม ซึ่งได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศสมาอีกต่อหนึ่ง แต่ซอสที่ใช้เป็นแบบของกัมพูชา

 

 

4. คอร์ Kaw

     เมนูสตูที่หน้าตาละม้ายคล้ายพะโล้ เพียงแต่ส่วนผสมจะแตกต่างออกไป นิยมใช้หมูหรือไก่ ใส่ไข่ น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา พริกไทย บางร้านก็ใส่เต้าหู้ และหน่อไม้ด้วย

 

 

5. สัมลอร์มะจู Samlar machu

 

 

     เมนูต้มส้มกัมพูชา รสชาติเปรี้ยวจากมะขาม มะเขือเทศ และสับปะรส นิยมกินในมื้อเย็น นิยมใส่ปลาดุก หรือเนื้อสัตว์อื่นๆ เช่น เนื้อวัว กุ้งแม่น้ำ ฯลฯ

===============

 

REAL ICHI Yakiniku & Sushi, เพชรบุรี

Real Ichi Yakiniku & Sushi (เพชรบุรี) ร้านบุฟเฟ่ต์แนวปิ้งย่างและซูชิ แต่ว่าร้านไม่ได้มีแค่นั้นอาหารเคียงอื่นๆ, ไอศกรีมก็อร่อยดี บุฟเฟ่ต์มีราคา 699++ และ 899++ ไม่รวมเครื่องดื่มในเวลา 100 นาทีต้องการทานเนื้อย่างพรีเมี่ยมเลยจัดราคา max ไป

เนื้อเสิร์ฟมาลายสวยดีถ่ายรูปขึ้น แต่ย่างแล้วไม่ค่อยได้กลิ่นหอมเนื้อ, รสชาติและรสสัมผัสยังไม่ค่อยฟิน ดีที่สุดคงเป็นเนื้อลายคัดพิเศษ ที่นอกเหนือจากเนื้อวัวส่วนปิ้งย่างยังมีอีกหลายอย่างทั้งกุ้งแม่น้ำ, เนื้อแกะ, หมูคุโรบูตะ, เบคอน และอีกหลายอย่าง ที่ติเรื่องเนื้อก็ไม่ได้แย่นะ แค่ไม่ถึงที่หวังไว้

ส่วนซูชิที่ไม่ได้คาดหวังไว้กลับมาดีเกินคาด เสิร์ฟมาชุดแรกจัดจานมาสวยดี นึกว๊าวในใจน้องๆร้านซูชิเกรดพรีเมี่ยมเลย ได้ลองไปหลายอย่างเลยที่ชอบมาที่สุดเป็น อนาโกะ ฟัวร์การ์ส จัดไปสี่ชิ้นเบ็ดเสร็จทานไปสิบกว่าชิ้น😋😋

เมนูทานเล่นอื่นๆ, ของหวาน ที่ได้ลองก็ดีไม่แพ้กันทั้งสลัดกุ้งกรอบ กุ้งอบชีส ข้าวผัดกระเทียม ไอศกรีมเนื้อเนียนรสชาติดี จัดว่าเป็นบุฟเฟ่ต์ที่คุ้มค่าดีทีเดียวทั้งซูชิ,ปิ้งย่าง อิ่มจุกข้ามวันไปเลยแนะนำครับ👍😍

#Tasty

เพิ่มเติม

7 ไอติม ที่น่ากิน ที่สุดในโลก คลายร้อน หวานเย็น รับซัมเมอร์ 🍦🍧🍨

       ไม่ว่าเด็ก หรือผู้ใหญ่ จะไทย อเมริกา ญี่ปุ่น อิตาลี แม็กซิโก อินเดีย บอกได้เลยว่า ไอศกรีม 🍦 เป็นเมนูที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ อีกทั้งแต่ละประเทศก็มีสไตล์ไอศกรีมเป็นของตัวเองอีกด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นสายหวานเย็น เราจะพามารู้จักกับ 7 ไอติม ที่น่ากิน ที่สุดในโลก บางอย่างก็มีในบ้านเรา แต่บางอย่างก็ยังไม่มี แถมน่ากินมากๆ จนอยากบินไปลองชิมดูกันเลยยยย!!!

 

 

ไอศครีมที่ดีที่สุดจากทั่วโลก

🍦🍧🍨

 

      ไอศกรีม หรือ ไอติม ที่เราเรียกๆ กันนั้น เป็นรสชาติแห่งสากลเลยก็ว่า เป็นความอร่อยและชื่นใจที่ทั่วโลกมีเหมือนกัน แต่แตกต่างกันไปตามเอกลักษณ์ของตัวเอง และถ้าพูดถึงไอศกรีมนั้น เราสามารถย้อนประวัติไปได้ถึงพันปีเลยทีเดียวค่ะ การเดินทางของ มาร์โค โปโล (Marco Polo) ได้พาสูตรไอศกรีมที่คล้ายกับเชอร์เบทจากตะวันออกกลางมาสู่อิตาลี จนในที่สุดก็พัฒนามาเป็นไอศกรีมอย่างที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบันค่ะ

Gelato

อิตาลี

 

 

      นอกจากพาสต้า (Pasta) อาหารอิตาเลียนจานอร่อยขึ้นชื่อแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่า เจลาโต้ (Gelato) ไอศกรีมของอิตาลีนี้ก็เป็นของหวานสุดอร่อยที่เราๆ รู้จักกันเป็นอย่างดีค่ะ อีกทั้งคำว่า เจลาโต้ ในภาษาอิตาลีก็แปลว่าไอศกรีม นั่นเอง

 

      เจลาโต้ อิตาเลียนนี้ เป็นไอศกรีมที่มีไขมันต่ำกว่าไอศกรีมชนิดอื่นๆ ซึ่งวัตถุดิบหลักก็คือ นมสด ไข่ น้ำตาล และจะมีส่วนผสมอื่นๆ เพิ่มเติมแล้วแต่ความชอบอย่าง ช็อคโกแลต วานิลลา เฮเซลนัท พิสตาชิโอ และอื่นๆ สำหรับรสชาติที่ต้องโดนของเจลาโต้ก็คือ Stracciatella ค่ะ เป็นไอศกรีมรสชาติที่โด่งดังมากๆ ของอิตาลี คือจะเป็นรสนม ที่มีช็อคโกแลตเล็กๆ ผสมอยู่ด้านใน มีให้อร่อยได้ทั่วไปในร้านไอศกรีมอิตาลีบ้านเราด้วยนะ ลองไปชิมกันดูได้ค่ะ

 

 

      ในอิตาลี เจลาโต้จะเสิร์ฟโดยใช้ไม้พายตักไอศกรีมและลงในถ้วย หรือโคน และมักทำไอศกรีมสดใหม่ในทุกวัน จึงไม่น่าแปลกใจเลยค่ะว่า เจลาโต้ ของอิตาลีคือไอศกรีมที่เรารัก <3

==================

 

Dondurma

ตุรกี

 

Lepneva Irina / Shutterstock.com

 

      ไม่นานมานี้ บอกเลยว่า ไอติมตุรกี เป็นอะไรที่ฮอตมากๆ ในบ้านเรา ใครที่เคยไปตลาดนัดจตุจักรวันหยุด ต้องเคยผ่านตาร้านไอศกรีมตุรกีกันมาบ้างใช่ไหมล่ะคะ… นอกจากรสชาติที่กลมกล่อมหวานเย็นของไอศกรีมแล้ว ไฮไลท์อยู่ที่คนขายด้วย ความมีลูกเล่น กิมมิกสนุกๆ ก่อนได้กินนี่แหละ ที่ทำให้ไอศกรีมตุรกีโด่งดังไม่แพ้ไอศกรีมชนิดอื่นๆ ในโลกเลยทีเดียวค่ะ

 

      ดอนดูร์มา (Dondurma) นั้นเป็นคำภาษาตุรกีที่แปลตรงตัวเลยว่า ไอศกรีม ค่ะ ซึ่งคนโลคอลของตุรกีมักจะเรียกว่า Maras dondurma ถ้าพูดถึงส่วนผสมของไอศกรีมดอนดูร์มานั้นจะเพิ่มเติมจากไอศกรีมอื่นๆ คือจะใช้ นมแพะ น้ำตาล จาวของกล้วยไม้สีม่วง มักจะมีเนื้อไอศกรีมเป็นสีเหลืองอ่อน และ แต่งกลิ่นสนจาก Mastic tree อีกด้วย

 

Goran Bogicevic / Shutterstock.com

 

      กิมมิกของไอศกรีมตุรกีนี้คือ “การแสดงของคนขายไอศกรีม” ค่ะ เค้าจะใส่ชุดดั้งเดิมแบบฉบับของตุรกี และหมวกสุลต่าน ยืนเรียกความตื่นเต้นจากเด็กๆ ด้วยการบิดเกรียวของไอศกรีมไปมาก่อนที่จะยัดไอศกรีมลงโคน และยื่นให้เรา นับเป็นเอกลักษณ์ในการขายไอศกรีมที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลก และนี่แหละที่ทำให้ไอศกรีมตุรกี คือไอศกรีมที่ไม่มีวันละลายอย่างแท้จริง!

==================

 

Raspado

เม็กซิโก

 

 

      ไปต่อกันที่ทวีปอเมริกาอย่างเม็กซิโกกันบ้าง Raspado เป็นไอติมที่ต่างออกไป คือเป็นน้ำแข็งไสที่มีผลไม้แท้ หรือน้ำผลไม้สดอยู่ ซึ่งขนมหวานเย็นนี้ได้วางขายอยู่แทบทุกที่ในเม็กซิโก เป็นสตรีทฟู้ดที่เราสามารถอร่อยได้ตามรถเข็น และมีรสชาติหลากหลายที่ทำจากผลไม้ เช่น มะขาม มะนาว สับปะรด ส้ม มะม่วง และนอกจากนี้ยังมีรสชาติที่ไม่ใช่ผลไม้อย่าง วานิลลา อีกด้วยค่ะ

 

      ตลาดในเม็กซิโกหลายแห่ง ยังมีการเบรนด์ระหว่าง Raspado และ Milkshake ทำให้ได้ขนมหวานเย็นสุดอร่อยใหม่ที่คนเม็กซิโกเรียกว่า “Eskimo” อีกด้วย แน่นอนว่าจะมีส่วนผสมของ นม นมข้น ผลไม้สดตามฤดูกาล น้ำตาล วานิลลา และที่ขาดไม่ได้ก็คือ น้ำแข็งไส นั่นเองค่ะ

 

 

      นอกจากนี้ แต่ละที่ในเม็กซิโก ยังครีเอทเมนูใหม่จาก Raspado อยู่เสมอเพื่อรสชาติที่แปลกใหม่ และไม่ซ้ำใคร อย่าง ร้านไอศกรีมในเมืองชายทะเลอย่าง La Paz ก็มีการนำ Raspado มาเติมท็อปปิ้งที่ด้านบนเป็น ไอศกรีมโยเกิร์ตส้ม ที่หอมหวาน ชื่นใจ อยากได้สักถ้วยเลยไหมล่ะ!!!

==================

 

Kakigori

ญี่ปุ่น

 

BjornBecker / Shutterstock.com

 

      พอพูดถึงน้ำแข็งไส ก็อดนึกถึงความเย็นฉ่ำ สดชื่นของ คาคิโกริ (Kakigori) น้ำแข็งไสเกล็ดหิมะเนื้อเนียนละเอียดของญี่ปุ่นไปไม่ได้เลยค่ะ แน่นอนว่า คาคิโกริ นี้เป็นไอศกรีมที่คนไทยเราก็คุ้นเคยมากๆ เพราะมีให้สดชื่นได้ตามร้านไอศกรีมญี่ปุ่นในบ้านเราหลายร้านเลยทีเดียว

 

      คาคิโกริ ที่แท้จริงตามฉบับของคนญี่ปุ่นนั้น จะใช้น้ำแข็งไสที่ต้องเนื้อละเอียดมากๆ ขนาดที่พอตักเข้าปากปุ๊ป จะต้องละลายในปาก และหายไปในทันที ทิ้งไว้แต่รสชาติหอมหวานและเย็นฉ่ำ ทำให้เชฟของหวานในญี่ปุ่นจึงจะต้องละเมียดมากๆ กับการทำให้น้ำแข็งก้อนใหญ่กลายเป็นหิมะปุกปุย ก่อนที่จะราดไซรัป และใส่ส่วนผสมคุณภาพพรีเมียมตามรสชาติที่ต้องการอย่าง ชาเขียว สตรอเบอร์รี่ องุ่น หรือ เมลอน ลงไปค่ะ

 

BjornBecker / Shutterstock.com

 

      และในบางร้านก็จะมีการราดนมข้นใส่ลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติด้วยเช่นกัน และด้วยความเป็นญี่ปุ่น แน่นอนว่าจะมีท็อปปิ้งสารพัดที่ให้เราเลือกจนตาลายไปเลยค่ะ รวมถึงถั่วแดงกวน และผลไม้สดด้วยเช่นกัน ทำให้คาคิโกรินั้นเป็นไอศกรีมแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ที่เรียบง่าย แต่ตื่นเต้นในทุกครั้งที่ได้กิน คนญี่ปุ่นเองก็มักจะตื่นเต้นทุกครั้ง เพราะในแต่ละฤดูกาล มักจะมีคาคิโกริ รสชาติใหม่ๆ ออกมาให้ชิมเสมอๆ

==================

 

Kulfi

อินเดีย

 

 

      กุลฟี่ (Kulfi) เป็นไอศกรีมดั้งเดิมของอินเดียที่เก่าแก่มากๆ ย้อนอายุเมนูนี้ไปได้ถึงศตวรรษที่ 16 เลยทีเดียวค่ะ แน่นอนว่าส่วนผสมหลักคือ นม นั่นเอง

 

      สำหรับวิธีทำกุลฟี่ก็คือ การต้มนมไปเรื่อยๆ จนนมมีลักษณะข้น และเหนียว จนในที่สุดเราจะได้ไอศกรีมที่หวานฉ่ำมากๆ และในระหว่างการต้มนั้นก็มักจะเพิ่มเติมรสชาติ ส่วนผสมอื่นๆ ลงไปค่ะ อย่าง แชฟรอน เครื่องเทศยอดนิยมในอินเดีย พิสตาชิโอบด หรือ อัลมอนด์บด

 

 

     ความเรียบง่ายที่พิเศษนี่เองที่ทำให้กุลฟี่กลายเป็นไอศกรีมยอดนิยมตลอดกาลของอินเดีย และมีเมนูนี้ขายในร้านอาหารอินเดียเกือบทุกร้านในโลก และได้อัพโฉมใหม่ไปมากมายจากต้นฉบับ มีส่วนผสมอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มรสชาติหวานอร่อย ทั้ง ส้ม กล้วย ช็อคโกแลต มะม่วง และผลไม้เบอร์รี่ตามฤดูกาลต่างๆ ค่ะ

==================

 

Frozen Custard

สหรัฐอเมริกา

 

 

       Soft Serve Frozen Custard เป็นไอศกรีมสไตล์อเมริกัน ที่มีส่วนผสมเข้มข้นอย่าง นม ครีม น้ำตาล ไข่แดง ทำให้เนื้อของไอศกรีมข้นและเหนียว ความแตกต่างของไอศกรีมทั่วไป กับ Frozen Custard คือ ผิวสัมผัสของไอศกรีมที่จะแน่นมากๆ เพราะทำโดยเครื่องปั่นไอศกรีมซึ่งจะไม่มีอากาศเข้าไปผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมเลยค่ะ

 

 

      รสชาติของ Frozen Custard ยอดนิยมสุดๆ ของชาวอเมริกันก็มักจะเป็น วานิลลา หรือไม่ก็ช็อคโกแลต หรือไม่ก็สามารถรวมทั้งสองรสชาติไว้ในโคนเดียว

==================

 

Crème Glace

ฝรั่งเศส

 

 

       Crème Glace ไอศกรีมของฝรั่งเศสนี้จะมีรสชาติ และ texture คล้ายกับเจลาโต้ ของอิตาลีค่ะ แต่จะมีความเข้มข้น มีความมันมากกว่า ซึ่งพูดได้ว่าไอศกรีมของฝรั่งเศสนั้นมีความเป็นลูกครึ่งระหว่างไอศกรีม frozen custard ของอเมริกา และเจลาโต้ของอิตาลีนั่นเองค่ะ

      ถ้าย้อนกลับไปศตวรรษที่ 17 ชาวอิตาลีได้มีการอพยพมายังฝรั่งเศส และได้นำสูตรความอร่อยในไอศกรีมติดมาด้วย จนถึงทุกวันนี้ชาวฝรั่งเศสก็ทำไอศกรีมด้วยการใช้นมสดเป็นส่วนผสมหลัก และท็อปปิ้งด้วยผลไม้พรีเมียม ถั่ว และช็อคโกแลต

 

pio3 / Shutterstock.com

 

       ร้านยอดนิยมสุดๆ ของฝรั่งเศสก็คือ Fenocchio Glacier ค่ะ ซึ่งจะมีไอศกรีมหลากหลายรสชาติมากๆ ทั้งรสชาติสแตนดาร์ดอย่าง ไวท์ ช็อคโกแลต หรือกาแฟ และรสชาติล้ำๆ อย่าง มะกอก หมากฝรั่ง หรือกระทั่งรสวานิลลา และ Pink Pepper

อ้างอิง : CNN

Stella Palace Restaurant

#Sayhi

📌 ร้านอาหารจีน Stella Palace ชั้น 79 ต้องขึ้นไปเปลี่ยนลิฟต์ที่ชั้น 18 ซึ่งเป็นส่วนล๊อบบี๊ ของโรงแรม

โรงแรมใบหยกน่าจะเป็นโรงแรมแรกๆ ที่กล้านำอาหารจีนระดับพรีเมี่ยมมาจัดเป็นบุฟเฟต์ในราคาที่ถือว่า คุ้มมากจนไม่จำเป็น ที่ต้องควานหาบัตรเมมเบอร์ใดๆ มาลดอีก “890 net ในราคา 2 ชม.“ แถมสามารถขึ้นไปชมวิวบนชั้น 77 ที่เป็นดาดฟ้าแบบ 360 องศาและตรง platform สามารถหมุนได้ด้วย ส่วนนี้แค่ค่าบัตรขึ้นชมวิว ก็มีราคาถึง 400 บาท เสมือนเราจ่ายเงินเพิ่มอีกแค่ 490 บาท ก็สามารถทานเมนูสุดแสนอลังการ ช่างคุ้มแสนคุ้ม

จากที่เราได้ลองชิมเกือบทุกเมนู >> รสชาติอาหารอยู่ในระดับเดียวกับภัตตาคารจีนดังๆ เพราะได้เชฟที่มีฝีมือในวงการอาหารจีนมานานอย่าง เชฟวิชัย มาเป็นหัวหน้าทีมดูแลในส่วนนี้

ทีดีคือ ถ้าจองมากันกลุ่มใหญ่ (8 คนขึ้นไป) สามารถนั่งห้องส่วนตัวได้ด้วยนะ ซึ่งตรงนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่อย่างใด ไม่ต้องกลัวว่านั่งในห้อง จะถูกลืม เพราะเค้ามีพนักงานดูแลประจำห้อง คอยจัดคิวขบวนรถอาหารมาให้เราเลือกแบบไม่ต้องเดินไปตักเองเหมือนบุฟเฟต์โรงแรมอื่นๆ

Highlights:

✅ เริ่มเสริฟอาหารตั้งแต่เวลา 17:30-23:00 น. สามารถทานได้ 2 ชม. ในราคา 890 บาท net รวมชาจีนและเก็กฮวย สั่งได้ทั้งร้อนและเย็น (free refill)
✅ เสริฟ welcome drink เป็นน้ำมะนาวหรือน้ำบ๊วย รสเปรี้ยวๆ หวานๆ เรียกน้ำย่อยได้ดีมากๆ
✅ สามารถนั่งห้องส่วนตัวแบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ถ้าจองมาทาน 8 คนขึ้นไป
✅ อาหารมีให้บริการ 2 แบบ: รถเข็น 15 คันรถ (เข็นเข้ามาให้เลือกในห้อง) และไลน์อาหารบริเวณด้านนอก เช่น ซาชิมิ, อาหารทะเลย่างกันแบบสดใหม่, เมนูอาหารจีนอื่นๆ, มุมก๋วยเตี๋ยว, และของหวาน (เบเกอรี่ & ผลไม้)
✅ ซุปสามารถเลือกได้ 1 อย่างจาก 5 เมนู: ซุปเป๋าฮื้อจักรพรรดิ์, ซุปหูฉลามทรงเครื่อง, ซุปรังนก, ซุปเกี๊ยวกุ้งน้ำ, และซุปเยื่อไผ่ >> เราสั่งซุปหูฉลาม ได้มาเป็นหูฉลามแผ่นเล็กแต่หนา น้ำซุปปรุงมาดี เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยได้ดีมาก
✅ สามารถสั่งอาหารพรีเมี่ยมจากเมนู a la carte เลือกได้ 1 อย่างจาก 6 เมนู: เราได้ลองชิมทั้งราดหน้ากุ้งแม่น้ำ, สะโพกเป็ดซอสส้ม, และซี่โครงหมูตุ๋น >> เด็ดมากจริงๆ โดยเฉพาะราดหน้ากุ้งแม่น้ำขนาดไม่เล็ก มันเยิ้มเต็มหัวเสริฟพร้อมเส้นใหญ่ทอดมาแบบกรอบๆ และซี่โครงหมูตุ๋นที่ผิวด้านนอกกรอบแต่เนื้อในนุ่ม
✅ เสริฟก๋วยเตี๋ยวและข้าวตบท้ายมื้อ สามารถเลือกได้ 1 อย่างจาก 5 เมนู: ข้าวผัดปลาเค็มไก่สับ, บะหมี่ฮกเกี้ยน, ข้าวผัดสเตลล่า, ข้าวผัดหยางโจว, และโจ๊กฮ่องกง

ใครที่อยากทราบรายละเอียดอาหารและเมนูเด็ดที่เราประทับใจ สามารถเลื่อนลงมาอ่านต่อด้านล่าง เพราะรายการอาหารเยอะและหลากหลายมากๆ กว่าทุกโรงแรมที่เคยชิมมา

⬇️⬇️⬇️⬇️⬇️⬇️⬇️⬇️⬇️⬇️⬇️⬇️

ขบวนอาหาร 15 คันรถจะประกอบไปด้วย อาหารคาว 11 คันรถและของหวานอีก 4 คันรถ เพราะฉะนั้น แนะนำให้เผื่อพุงไว้สำหรับรถคันหลังๆ ด้วย อย่าเผลอลุยตั้งแต่คันแรกนะคะ ไม่งั้นก็จะกลายเป็นต้องนั่งมองด้วยความเสียดาย

🚃 #1: ออเดิร์ฟร้อนและเย็น เช่น ไก่แช่เหล้า, แมงกะพรุนน้ำมันงา, สลัดลูกชิ้นกุ้งทอดผลไม้, ขาหมูเย็น, ถั่วลันเตาผัดใส่ถั่วลิสง, เป็นต้น >> แนะนำแมงกะพรุนน้ำมันงา, ถั่วลันเตาผัดใส่ถั่วลิสง
🚃 #2: ติ่มซำนึ่ง มีให้เลือกครบทั้งฮะเก๋า, ขนมจีบ, ซาลาเปา, ก้ามปูทรงเครื่อง, และอื่นๆ อีกมากมาย >> แนะนำฮะเก๋ากุ้งและฮะเก๋าหูฉลาม
🚃 #3: ติ่มซำทอด ขบวนนี้สวรรค์ของคนชอบทานของทอดชัดๆ หน้าตาน่าทานทุกรายการ แต่ไม่สามารถเลือกทานได้ครบเพราะมันเยอะมาก >> เราชอบเผือกทอด, ขนมปังหน้ากุ้ง, และทอดมันกุ้ง อยากแนะนำให้ลองจิ้มกับน้ำจิ้มสามรสนอกเหนือจากน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ย เข้ากันดีกับของทอดสุดๆ
🚃 #4: ส้มตำและยำผลไม้ ขบวนนี้ถูกใจสาวๆ แน่นอน เพราะสามารถสั่งใส่เครื่องได้ตามชอบรวมทั้งระบุระดับความเผ็ด เครื่องทะเลนี่สดทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นปลาหมึกหรือกุ้ง >> แนะนำให้ลองชิมตำผลไม้ใส่ข้าวโพดและยำทะเล ช่วยตัดความเลี่ยนของเมนูของทอดได้ดี
🚃 #5: ฮื่อแซหรือปลาดิบแบบจีน แล่มาบางๆ จัดเป็นคำๆ เสริฟพร้อมผักหลากชนิดและน้ำจิ้มรสเข้มข้นผสมงาที่ออกหวานนิดๆ แบบมีรสเปรี้ยวแทรก >> ปลาที่ใช้คือ ปลากระพงสดๆ นำเข้าวันต่อวัน เป็นเมนูที่หาทานได้ยาก แนะนำว่าควรลองชิม
🚃 #6🌟: ขบวนที่ทุกคนรอคอย เป็ดปักกิ่งและเป็ดย่างหนังกรอบ ขอบอกว่า เด็ดมากๆ ทั้ง 2 อย่าง แถมได้ชมเชฟแล่เป็ดกันสดใหม่ ไม่ใช่หั่นหนังเป็ดไว้ล่วงหน้าแบบที่เราไปทานในไลน์บุฟเฟต์อาหารจีน >> เป็ดปักกิ่งหนังบางกรอบ จัดวางมาบนแผ่นแป้งที่นึ่งมาร้อนๆ ความบางกำลังดี แนะนำให้จัดอย่างน้อย 2 คำ ส่วนเป็ดย่างหนังกรอบ เนื้อเป็ดนุ่มๆ หนังย่างมากรอบบางแบบมันน้อย น้ำราดของที่นี่จะออกหวานนิดๆ แต่พอทานคู่กับน้ำมันคั่วพริกเกลือและน้ำจิ้มบ๊วย ช่างเข้ากันดีสุดๆ แบบที่ต้องขอข้าวสวยมาแบ่งกัน 1 ถ้วย
🚃 #7: 🌟 ขบวนนี้เป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คน เพราะมาครบทั้งหมูหัน, หมูกรอบ, และหมูแดง เรียกว่า คอลลาเจนเน้นๆ ทั้งหนังหมูหันกรุบกรอบ, หนังหมูกรอบ, และมันที่แทรกระหว่างชั้นของเนื้อหมูแดง >> หมูกรอบหั่นมาชิ้นใหญ่จุใจมาก จนแอบคีบทานลำบากเล็กน้อย อร่อยทุกหมูเลยค่ะ แต่หลังจากที่ทานคันนี้เสร็จ คงต้องขอพักพุงซักครู่
🚃 #8: ขบวนที่เหมาะสำหรับชะล้างความมันก่อนหน้า มีทั้งเป๋าฮื้อน้ำแดงและหน่อไม้ทะเลกระเพาะปลาน้ำแดง รสชาติกลมกล่อมทั้ง 2 เมนู เนื้อเป๋าฮื้อและหน่อไม้ทะเลหนุบหนุบดีทั้งคู่
🚃 #9, #10: 2 ขบวนนี้ เป็นเมนูที่มักจะเสริฟช่วงท้ายของโต๊ะจีน หลักๆ จะเป็นเมนูเส้น เพราะคนจีนเชื่อว่า ทานเมนูเส้นๆ ก็จะช่วยให้ชีวิตเรายืนยาว ส่วนเมนูเส้นประกอบไปด้วย กุ้งอบวุ้นเส้น, ขาห่านอบบะหมี่ ส่วนเคาหยก, และไก่อบซีอิ๊ว จะเสริฟกับบะหมี่ไข่แบบเส้นเล็ก >> แนะนำให้ลองเคาหยก ตุ๋นมาดีมากๆ นุ่มละลายในปากแถมเลี่ยนน้อยมาก จิ้มทานกับซีฟู๊ดซอสหรือน้ำมันคั่วพริกเกลือ เด็ดมาก ส่วนกุ้งอบวุ้นเส้น เนื่องจากปรุงมาเป็นหม้อใหญ่ ซอสโดนวุ้นเส้นดูดไปหมดเลยรสออกมาจืดไปหน่อย ถ้ามีซอสราดเพิ่มก่อนเสริฟ อาจจะช่วยให้มีรสชาติมากขึ้น
🚃 #11: ขบวนปิดจ๊อบของคาว “ซีฟู๊ดฮองเฮา” สามารถเลือกวัตถุดิบตามชอบเพื่อใส่ในน้ำซุปร้อนๆ สูตรพิเศษที่เด็ดมากๆ เพราะเค้าใช้หัวน้ำเชื้อของน้ำซุปทุกแบบที่เสริฟที่ห้องอาหารนี้ ส่วนวัตถุดิบมีให้เลือกทั้งกุ้งแม่น้ำ, ปลากระพง, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์, ปูม้า, และอื่นๆ อีกมากมาย >> ถ้าอิ่มเนื้อสัตว์ จะสั่งเป็นซุปใส่ผักมาซดก็น่าสน
🚃 #12: เริ่มเตรียมท้องกันแบบเบาๆ หลังอาหารคาวด้วยผลไม้สด มีให้เลือกหลากหลายทั้ง องุ่นไร้เมล็ด, เมลอนหวานฉ่ำ, สับปะรด, แตงโม, ฝรั่ง, มะละกอ, และส้มเช้ง หรือจะเริ่มของหนักหน่อยอย่างข้าวเหนียวมะม่วงก็มีเสริฟเช่นกัน
🚃 #13:เบเกอรี่ (เค้กต่างๆ) และขนมอบสไตล์ฮ่องกง >> เราไม่ได้ลองชิมเค้กแม้หน้าตาจะดูดีมากๆ แต่ได้ลองชิมบอลลาวาไข่เค็ม ที่แนะนำว่าห้ามพลาด ควรสั่งทานคนเดียว 1 ลูกเพราะความอร่อยไม่แพ้ร้านไหนๆ ที่เคยชิมมา แป้งบางกรอบ ไส้ลาวาด้านในแบบเยิ้มๆ
🚃#14: เครปซูเซท: ทำกันใหม่ๆ ตอนสั่ง สามารถเลือกซอสได้หลากหลายนอกเหนือจากซอสส้ม รวมทั้งไอศครีมโฮมเมดที่เสริฟคู่กัน มีให้เลือกระหว่างไอศครีมวานิลลาและไอศครีมมะขาม ที่แนะนำให้ลองทั้ง 2 รส >> ถ้าทานเครปซูเซทเดี่ยวๆ ซอสอาจจะหวานไปหน่อย แต่พอทานคู่กับไอศครีมก็จะลงตัวพอดี
🚃 #15: ปิดท้ายมื้ออย่างสมบูรณ์ด้วยขนมหวานร้อนและเย็นแบบจีน มีให้เลือกหลากหลายทั้ง สาคูแคนตาลูปกะทิปั่น, เต้าฮวยน้ำขิง, แปะก๊วยน้ำขิง, บัวลอยน้ำขิง, สี่สีร้อน, และแตงโมเกล็ดหิมะ >> แนะนำให้ลองชิมบัวลอยน้ำขิงของที่นี่เพราะมีความพิเศษตรงเท็กซ์เจอร์กรุบๆ และนุ่มๆ ในลูกเดียวกัน

ณ จุดนี้ ถ้าใครที่ยังรู้สึกไม่อิ่ม สามารถเดินไปตักอาหารตรงไลน์บุฟเฟต์บริเวณด้านนอกได้นะคะ

🥢 สำหรับมื้อนี้ถือว่า เป็นบุฟเฟ่ต์อาหารจีนที่เราประทับใจมากจริงๆ เพราะเรามักจะเมินมุมอาหารจีนทุกครั้ง เวลาไปทาน buffet ดีๆ ตามโรงแรม 5 ดาวทั้งหลาย >> ที่ชอบคือ อาหารที่เสริฟที่นี่มีความพรีเมี่ยมเทียบเท่ากับการไปนั่งทานโต๊ะจีนดีๆ มีครบทั้งหูฉลาม, เป็ดปักกิ่ง, หมูหันฮ่องกง, หมูกรอบ, เป๋าฮื้อทะเล ที่สำคัญไม่ต้องเดินไปตักเองอีกด้วย เหมือนได้นั่งทานอาหารแบบ a la carte แถมด้วยความพิเศษสุดคือ เมนู premium 1 เมนูต่อ 1 ท่าน

ใครที่กำลังมองหาโต๊ะจีนสำหรับมาทานข้าวกับเพื่อนฝูงกลุ่มใหญ่หรือครอบครัวแบบมีห้องส่วนตัว ขอแนะนำที่นี่เลย อาหารอร่อยและได้ทานแบบคุ้มๆ ส่วนใครที่อยากทานโต๊ะจีน แต่ไม่มีเพื่อนมาทานด้วยกลุ่มใหญ่ แวะมาคนเดียวหรือกลุ่มเล็กหน่อย ก็สามารถทานอาหารโต๊ะจีนแบบอลังการได้เช่นกัน

เพิ่มเติม