อัพเดท 12 ร้านอร่อย ซอยนิมมาน เชียงใหม่ อร่อยตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอย

       นิมมานเหมินทร์ ถนนที่ขึ้นชื่อว่ามีสีสันมากที่สุดอีกแห่งของเชียงใหม่เลยทีเดียวค่ะ ด้วยทั้งร้านค้า ร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ต่างๆ เพียบบบ ! วันนี้เราเลยจะพาไปปักหมุดพิกัด 12 ร้านอร่อย ซอยนิมมาน เชียงใหม่ อัพเดท 2021 มาบอกกัน รับรองว่าอร่อยตั้งแต่ต้นซอย ไปยันท้ายซอยเลยทีเดียว ตะเวนกินรัวๆ ไปทั้งวันได้เลยค่ะ

 

 

 

ร้านอร่อย ซอยนิมมาน เชียงใหม่ 2021

 

 

GRAPH Cafe

 

 

      เราเริ่มต้นซอยนิมมานฯ กันที่ ร้าน GRAPH Cafe ร้านกาแฟชื่อดังของเชียงใหม่ แต่วันนี้ไม่ได้พาไปสาขาแรกตรงคูเมืองนะคะ แต่จะพาไปที่สาขา One Nimman ซึ่งอยู่ตรงนิมมานฯ ซอย 1 เลยค่ะ สาขานี้ดีมากๆ ตรงที่มีที่นั่งหลายโต๊ะกว่า และกว้างขวางกว่า และตกแต่งบรรยากาศร้านได้ดูคูลมากๆ ทีเดียว

 

 

      สำหรับเมนูกาแฟยังเข้มข้นเหมือนเดิม หลากหลายด้วยรสชาติ และความละมุนที่ไม่เหมือนร้านกาแฟที่ไหน ใครที่รักการดื่มกาแฟแล้วล่ะก็ต้องแวะมาที่นี่

 

 

เมนูแนะนำ : Monochrome กาแฟเอสเพรสโซ่เข้มข้น ผสมกับชาโคล พร้อมความหอมหวานจากนมวนิลา

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ Graph Cafe One Nimman คาเฟ่สุดคูล เอาใจสายดาร์ก คอกาแฟห้ามพลาด! 

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/uWJqdyNomak3tyFE6
  • ที่อยู่ : โครงการ One Nimman นิมมานฯ ซอย 1 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
  • ร้านเปิดบริการ : 10.00 – 22.00 น.
  • โทร : 09-9372-3003
  • ที่จอดรถ : มี
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/graphcoffee.co/

 

Monsoon Tea

 

 

      ยังอยู่กันที่ One Nimman ค่ะ หลังจากเราแนะนำร้านกาแฟ สำหรับคอกาแฟไปแล้ว จะพลาดคนรักชาไปก็ไม่ได้ ตามเรามาเช็คอินกันที่ Monsoon Tea ได้เลย ที่นี่เป็นคาเฟ่ชาที่รวบรวมประวัติศาสตร์ของชาไทยมากว่า 100 ปี ชาทุกชนิดของที่นี่เก็บจากป่า ไม่ได้อยู่ในไร่ชาทั่วไปแต่อย่างใด ทำให้ทั้งรสชาติ ความหอมของชา มาจากธรรมชาติ 100% ทีเดียวค่ะ

 

 

      ไฮไลท์อีกอย่างก็คือ ความหลากหลายของรสชาติ ซึ่งที่นี่มีให้เลือกชิมเยอะมากๆ ใครชอบชาแบบไหน มาลองจิบกันดู

เมนูแนะนำ : ชาข้าวเหนียมมะม่วง และ ชามิ้นต์

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/5dTmkWNxKTKHB6rP7
  • ที่อยู่ : โครงการ One Nimman นิมมานฯ ซอย 1 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
  • ร้านเปิดบริการ : 11.00 – 21.00 น.
  • โทร : 0-5200-7758
  • ที่จอดรถ : มี
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/monsoonteacompany

 

 

Flour Flour Slice

 

 

     มาต่อเนื่องความอร่อยดันที่ร้าน Flour Flour Slice นิมมานเหมินท์ ซอย 17 คาฟ่สวย ไซส์มินิมอล ที่นี่คือร้านขนมปังโฮมเมดที่ใครได้ชิมแล้วต้องติดใจ และอีกหนึ่งเมนูที่ต้องห้ามพลาดก็คือโดนัทไส้ครีมนมหอมๆ ลองแล้วบอกเลยว่าใจฟู ฟินสุดๆ สำหรับสาขานี้ร้านจะเป็นฟีลไม้ๆ ญี่ปุ่นๆ ถ่ายรูปออกมาคือดี ต้องโดน

 

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/5BwAcCdGjnqAcQUf6
  • ที่อยู่ : ถ.นิมมานเหมินท์ ซอย 17 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
  • ร้านเปิดบริการ : 08.30 – 16.00 น.
  • โทร : 09-2916-4166
  • ที่จอดรถ : ไม่มี
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/flourflourslice/

 

 

Ristr8to

 

 

      Ristr8to ร้านกาแฟดีกรีแชมป์ บาริสต้าเจ้าของร้านที่นี่เขามีดีกรีเป็นแชมป์ Latte Art อันดับ 6 ของโลกเชียวนะ บอกเลยว่ารสชาติกาแฟไม่ธรรมดาค่ะ ร้านจะอยู่กลางๆ นิมมานฯ ซอย 3 ร้านจะเป็นแบบร้านนั่งสบายๆ ชิลหน่อยๆ

 

 

      สำหรับกาแฟของที่นี่จะมีหลากหลายเมล็ดพันธุ์กาแฟจากทั่วโลก แต่ละแก้วก็จะมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกัน คอกาแฟต้องไม่พลาดมาชิมให้ได้สักครั้ง รับรองว่าจะฟินมากๆ

 

 

เมนูแนะนำ : Satan Latte ลาเต้สุดเข้มข้น

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/cm4UiikRz8XkJUTz5
  • ที่อยู่ : นิมมานฯ ซอย 3 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
  • ร้านเปิดบริการ : 07.00 – 17.00 น. (หยุดวันพุธ)
  • โทร : 0-5321-5278
  • ที่จอดรถ : ริมถนนหน้าร้าน
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Ristr8to/

 

 

Brown Cafe

 

 

      มาต่อที่ร้าน Brown Cafe ร้านชานม และขนม คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น ที่ความปังไม่ได้อยู่แค่ที่เชียงใหม่ เพราะเค้ามีมาเปิดสาขาที่กรุงเทพฯ แล้วเด้ออ ถ้าใครอยากรู้ว่ารสชาติความออริจินัลเป็นยังไง ต้องปักหมุดมากันเลย อยู่ที่ย่านนิมมานนี่เอง ร้านสวยมาก มีความญี่ปุ่นอยู่เต็มๆ ในส่วนของเมนูชานมไข่มุก และขนมก็ดีงาม บอกเลยว่าสมศักดิ์ศรีร้านสาขาแรกจริงๆ !!

 

 

เมนูแนะนำ : ชานมไข่มุก, นมสด Brown Sugar

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/USL7WHdNDEHaX9y47
  • ที่อยู่ : นิมมานฯ ซอย 9 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
  • ร้านเปิดบริการ : 10.00 – 22.00 น.
  • โทร : 09-8842-2265
  • ที่จอดรถ : ริมถนนหน้าร้าน
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/browndessert/

 

 

ต๋องเต็มโต๊ะ – TongTemToh

 

 

     ตัดเลี่ยนด้วยของคาวกันที่ร้าน ต๋องเต็มโต๊ะ ร้านอาหารเหนือเจ้าดังในย่านนิมมานฯ ที่บอกเลยว่าคิวหน้าร้านเต็มแทบทุกวัน อาหารเหนือของที่นี่มีให้เลือกทานหลายอย่าง รสชาติดีถูกปากทั้งคนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยว และที่สำคุญคือราคาไม่แรง และแต่ละจานคือให้เยอะมาก เรียกได้ว่าถ้าไปตอนหิวๆ ต้องอย่าวู่วาม ไม่งั้นมีห่อกลับบ้านแน่นอนจ้าา

 

 

เมนูแนะนำ : ออเดิร์ฟเมือง, ลาบคั่ว, ผักหวานผัดไข่

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/YrKcxS7MmU1jyYxF8
  • ที่อยู่ : นิมมานฯ ซอย 13 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
  • ร้านเปิดบริการ : 11.00 – 21.00 น.
  • โทร : ไม่ระบุ
  • ที่จอดรถ : ที่จอดรถเอกชนในซอยนิมมานฯ
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/TongTemToh/

 

 

The Barisotel by The Baristro

 

 

     The Barisotel by The Baristro คาเฟ่สีขาว ในนิมมานฯ ซอย 9 เป็นคาเฟ่เล็กๆ 2 ชั้น ตกแต่งเรียบง่าย สไตล์มินิมอล สายฮิปสเตอร์จะต้องตกหลุมรักร้านนี้อย่างแน่นอนค่ะ

 

 

     สำหรับเมนูก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะมีทั้งเมนู ชา กาแฟ เบเกอรี่ให้เลือกอร่อยมากมาย แถมแต่ละเมนูยังสร้างสรรค์ได้อย่าสวยงาม และรสชาติไม่ธรรมดาอีกด้วย เรียกได้ว่า เป็นอีกขั้นของการกินกาแฟแบบไม่ธรรมดาเลยค่ะ

 

 

เมนูแนะนำ : Nitro Orange กาแฟสกัดเย็น Nitro Coffee และไซรัปส้ม เพิ่มความสดชื่น

 

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ : The Barisotel by The Baristro ร้านกาแฟ เชียงใหม่ สุดชิค สไตล์มินิมอล

 

 

SS1254372 Cafe

 

 

      ร้านกาแฟที่ดูเผินๆ แล้ว หยั่งกับกระท่อมฮอบบิทแห่งนี้คือ SS1254372 Cafe นิมมานฯ ซอย 17 นั่นเองค่ะ ในร้านก็ตกแต่งมาในสไตล์เรียบง่ายโทนสีขาว และไม้ เน้นงานคราฟท์ งานโฮมเมดมาประดับตกแต่งตามโต๊ะ ตามผนังของร้าน ให้ความรู้สึกเหมือนเข้าไปในกระท่อมฮอบบิทจริงๆ ทีเดียว

 

      นอกจากนี้ทางร้านยังมีส่วนที่เป็นโซนขายของแฮนด์เมดต่างๆ ของศิลปินหน้าใหม่หลายๆ คนจากเชียงใหม่อีกด้วย คนที่เป็นสายอาร์ท ชอบงานคราฟท์ก็แวะมาที่นี่ได้เลยค่ะ

 

 

เมนูแนะนำ : SS Coffee ตัวกาแฟที่นี่มีจุดเด่นอยู่ที่เรื่องความหอม เสิร์ฟพร้อมมากับมินิคุกกี้

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ : SS1254372 Cafe ร้านกาแฟ สุดคูล เอาใจคนรักงานศิลปะ

 

  • พิกัด : https://g.page/ss1254372cafe
  • ที่อยู่ : นิมมานฯ ซอย 17 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
  • ร้านเปิดบริการ : 08.00 – 15.30 น. (หยุดวันจันทร์)
  • โทร : 08-58020-9256
  • ที่จอดรถ : ไม่มี
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/ss1254372cafe

 

 

คั่วไก่นิมมาน

 

 

       มาถึงเชียงใหม่ทั้งที บอกเลยว่าพลาดร้านนี้ไปไม่ได้ค่ะ คั่วไก่นิมมาน นิมมานฯ ซอย 17 ร้านเจ้าเก่าชื่อดังที่ใครๆ ก็รู้จัก และต้องแวะมาชิม เพราะเขามีทีเด็ดในเมนู ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ที่ไม่ว่ามากินกี่ครั้งก็อร่อยติดใจกลับไปทุกครั้งค่ะ

 

 

 

       สำหรับตัวเมนูก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งข้าว ทั้งราดหน้า แต่ทีเด็ดก็คือ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ต่างๆ ที่เสิร์ฟมาในกระทะร้อน พร้อมไข่ใบโตที่กึ่งสุกกึ่งดิบ พร้อมเนื้อไก่ที่ใส่มาแบบจัดเต็ม ทั้งหอม ทั้งอร่อย ได้ซอสพริกกินคู่กัน คือดีต่อใจมากๆ

 

 

เมนูแนะนำ : ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่อบไข่ กระทะร้อน และ ก๋วยเตี๋ยวคั่วทะเลอบไข่ กระทะร้อน

 

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ : คั่วไก่นิมมาน สตรีทฟู้ด เชียงใหม่ เจ้าดัง คนรักเมนูเส้นไม่ควรพลาด

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/wptfSyBb6mResjti7
  • ที่อยู่ : นิมมานฯ ซอย 17 (ซอยสายน้ำผึ้ง) ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
  • ร้านเปิดบริการ : 09.00 – 21.00 น.
  • โทร : 08-2180-1177
  • ที่จอดรถ : ไม่มี
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/kuakainimman

 

 

MOOH

 

 

     อยากกินร้านนี้ต้องตื่นเช้า !! สำหรับร้านโดนัทเจ้าดังอย่างร้าน MOOH ร้านโดนัทที่มีเงินอย่างเดียวก็กินไม่ได้ ต้องมีแต้มบุญด้วย เพราะขายหมดเร็วมากแกรร! ร้านนี้มีที่นั่งจำนวน 1 โต๊ะถ้วนที่บริเวณหน้าร้าน ไฮไลท์ของร้านนี้คือแป้งโดนัทที่นุ่ม หอม ลงตัวไปหมดทุกอย่าง อร่อยทั้งรสคาวและรสหวาน เคี้ยวเพลินๆ โอ้ยย! หมดชิ้นไม่รู้ตัว แอบกระซิบว่าใครกลัวพลาด สามารถออเดอร์ล่วงหน้าได้ 1 วันผ่านทางเพจหรือไอจีร้านได้เลยเด้ออ

 

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/SnTYZJWxZN73M6fQ7
  • ที่อยู่ : นิมมานฯ ซอย 15 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
  • ร้านเปิดบริการ : 07.30 – 12.00 น. (หยุดวันพุธ)
  • โทร : 08-5339-2423
  • ที่จอดรถ : ไม่มี
  • เว็บไซต์ : www.facebook.com/moohomemade

 

 

จริณพาย

ภาพจาก คุณ พร่างพิชญ์

 

     มาต่อที่ร้านขนมลับๆ คาเฟ่สไตล์วินเทจ ที่ ร้านจริณพาย หรือ พายจริณ ร้านนี้เป็นร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องพายและชีสเค้ก เพราะมีหลากหลายรส อร่อยละมุน จนเป็นที่เลื่องลือของบรรดานักท่องเทียวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ใครที่ได้มาเที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่แล้วอยากลองขนมอร่อยๆ ที่หากินไม่ได้ง่ายๆ ก็ลองมาสัมผัสกับพายและชีสเค้ก พร้อมกับนั่งชิลในบรรยากาศบ้านไม้สไตล์วินเทจ บอกเลยว่าต้องเลิฟ

 

เมนูแนะนำ : พายมะพร้าวอ่อน

 

ภาพจาก คุณ พร่างพิชญ์

 

ดูบทความรีวิวเต็มๆ ที่ : นั่งชิมพาย สไตล์วินเทจที่ร้านจริณพาย@เชียงใหม่

 

  • พิกัด : https://g.page/ss1254372cafe
  • ที่อยู่ : นิมมานฯ ซอย 17 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
  • ร้านเปิดบริการ : 09.00 – 19.00 น.
  • โทร : 08-1836-1224
  • ที่จอดรถ : ไม่มี
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/CharinPie

 

 

Guu Fusion Roti & Tea (กู โรตีและชาชัก)

 

 

     ปิดท้ายที่ร้าน Guu Fusion Roti & Tea (กู โรตีและชาชัก) ร้านโรตีที่บอกเลยว่าใครมาเชียงใหม่แล้วไม่มาโดนคือเหมือนมาไม่ถึง ร้านกู โรตีและชาชัก เรียกได้ว่าเป็นขวัญใจวัยรุ่นเลยก็ว่าได้ ที่ร้านมีโรตีหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น โรตีกล้วยหอม โรตีชีส โรตีทิชชู่วิฟครีม ฝอยทอง สุดฮิตที่ใครกินก็ต้องติดใจ และยังมี ชาชัก เครื่องดื่มชัก กาแฟสด น้ำผลไม้สด ช็อคโกแลตลาวา ฮันนี่โทส เค้ก และอาหารให้เลือกอีกมากมาย มาร้านเดียวอิ่มจบแน่นอน

 

เมนูแนะนำ : โรตีทิชชู่, โรตีกรอบฝอยทอง

 

ภาพจาก คุณ บีเกิล

 

ดูบทความรีวิวเต็มๆ ที่ : Guu Fusion Roti and Tea, เชียงใหม่เจ้า

 

 

 

8 ร้านสุกี้โบราณ เจ้าอร่อย ในกรุงเทพ ยิ่งเก่ายิ่งเก๋า ส่งตรงมาจากรุ่นอากง

        ใกล้เข้าสู่เทศกาล ตรุษจีน 2564 กระแสอาหารกลิ่นอาย สไตล์จีนกำลังมา ! แน่นอนว่าเราจะพาทุกคนไปพบกับอาหารเด็ดๆ ฟีลจี๊นจีน ! แถมยังเป็นเมนูร้อนๆ ถูกใจสายชาบู อย่าง 8 ร้านอร่อย สุกี้โบราณ ในกรุงเทพ ! ที่บอกเลยว่ารสชาติก็คือ เหมือนส่งตรงมาจากอากงอาม่าเลยทีเดียว จะมีร้านไหนกันบ้าง ตามเราไปฟินกันเลยจ้าาา

 

 

 

ร้านสุกี้โบราณ ชาบู กรุงเทพ

 

1. เรือนเพชร

 

ดู โปรโมชั่น และสิทธิประโยชน์ ร้าน เรือนเพชรสุกี้ ที่นี่

 

         เริ่มต้นกันด้วยร้านแรกอย่าง เรือนเพชร ร้านสุกี้โบราณ สไตล์จีนแท้ๆ ในตำนาน ที่เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ลอง ! ความพิเศษของที่นี่อยู่ตรงน้ำจิ้มรสเด็ด สูตรลับ ที่ส่งต่อมาตั้งแต่รุ่นองกง อาม่า จนถึงปัจจุบัน บอกเลยว่าเด็ด ! รวมไปถึงเมนูอื่นๆ ก็มีให้เลือกหลากหลาย เอาเป็นว่า ควรไปโดนสักครั้ง รับรองจะติดใจแน่นอนจ้า

 

 

2. หมีแฟมิลี่ Me & Family

 

        มาถึงร้านต่อมากับธุรกิจครอบครัว ร้านสุกี้โบราณสุดคูล ภายใต้ชื่อ หมีแฟมิลี่ Me & Family ความเก๋คงอยู่ที่บรรยากาศของร้าน ที่ให้ความรู้สึกเหมือนนั่ง กินข้าวอยู่หลังบ้าน สไตล์คนจีน รวมไปถึงเมนูขึ้นชื่อของทางร้าน อาทิ หมูกรอบเพลยาร์ด ที่เราเลิฟสุดๆ ส่วนเรื่องรสชาติคงไม่ต้องบรรยายอะไรมากเนอะ เพราะดียยย์ชนิดที่ต้องกลับมาซ้ำ !

 

 

 

3. เจริญไทยสุกี้

         ใครแวะเวียนกันไปแถวย่านวงเวียนใหญ่ล่ะก็ ต้องห้ามพลาดร้านนี้เลยครับ เจริญไทยสุกี้ ความเก่าของที่นี่ เสิร์ฟความอร่อยมาแล้วกว่า 50 ปีเชียวนะ รวมไปถึงด้านในก็ดูเป็นแค่ร้านเก่าแก่ธรรมดาๆ แต่ ! บอกเลย ว่ารสชาติไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเนื้อหมูสไลด์บางๆ ชุบไข่ หูยยยย ฟินสุดๆ ไปเลยแม่ !!!

 

 

4. เอี่ยวไถ่ สุกี้โบราณ

         อีกหนึ่งร้านที่ไม่ต้องพูดอะไรมากเรื่องรสชาติ เพราะเปิดให้บริการมากว่า 60 ปี อย่างร้าน เอี่ยวไถ่ สุกี้โบราณ ปัจจุบันมีสาขามากมายทั่วกรุงเทพ ให้เราได้เลือก แน่นอนว่าเมนูอร่อยขึ้นหิ้งอย่าง สุกี้หม้อไฟโบราณ ก็ถูกปากใครหลายๆ คน รวมไปถึงที่นี่ยังมีเมนูอาหารสไตล์จีนๆ ให้เลือกลิ้มลองอีกมากมาย ใครไม่ลองถือว่าพลาด !

  • พิกัด : มีหลายสาขาในกรุงเทพฯ
  • เปิดบริการ : 10.30 – 22.00 น.
  • โทร : 0-2423-0430
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/earwthaisukiboraan

 

5. Texas suki

        ร้านต่อมาที่เราอยากจะพาทุกคนไปลองกัน อย่าง Texas Suki ที่มีดีเรื่องราคาที่สบายกระเป๋า จับต้องได้ รวมไปถึงรสชาติของน้ำซุปในหม้อสุกี้ ก็เด็ด สะใจสายต้ม อย่างแน่นอน ส่วนใครที่กลัวว่าไม่คุ้ม เลิกคิดไปได้เลย เพราะที่นี่เมนูเยอะมากกกก เรียกได้ว่าขนกันมาทุกเมนูอาหารจีนจริงๆ ถ้าอยากรู้ว่าจะดีต่อใจขนาดไหน ต้องไปลองกันให้ได้นะจ๊ะ

  • พิกัด : https://her.is/2sjEXkk
  • ที่อยู่ : 17 ถนนผดุงด้าว แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
  • เปิดบริการ : 11.00 – 22.00 น.
  • โทร : 0-2223-9807
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/TexasSuki

 

 

6. Sukiyaki Number One

        คงไม่มีใคร ไม่รู้จัก ร้านสุกี้นัมเบอร์วัน เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องสุกี้มากๆ ด้วยรสชาติที่คุ้นเคยตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ เลยทำให้ที่นี่เป็นร้านอันดับหนึ่งในใจของใครหลายๆ คน รวมถึงเรานั่นเอง เมนูแนะนำของที่นี่ คือ หมูหมักสูตรพิเศษ ที่นุ่มลิ้น ละลายในปาก เอาเป็นว่าต้องมาโดนสักครั้ง แล้วจะรู้ว่ามันดีมากจริงๆ

  • พิกัด : มีหลายสาขาทั่วกรุงเทพ
  • เปิดบริการ : 11.00 – 22.00 น.
  • โทร : 0-2533-8299
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/SukiNumber1

 

7. Neo Suki

           ร้านสุดท้ายที่เราจะพาทุกไปชิมกันในวันนี อย่างร้าน Neo Suki จุดเด่นของร้านนี้คือ น้ำจิ้ม 7 แบบ 7 สไตล์ นั่นเองจ้า หูยยย ! บอกเลยว่าอร่อยทุกแบบ กล้ารับประกัน รวมไปถึงเนื้อหมูที่นี่นุ่มมาก หมักเข้าเครื่องได้เป็นอย่างดี ใครไม่ลอง บอกเลยว่าพลาดความอร่อย ฟินๆ แบบนี้ไปเสียดายแย่เล้ย

  • พิกัด : มีหลายสาขาทั่วกรุงเทพ
  • เปิดบริการ : 10.00 – 21.30 น.
  • โทร : 0-2683-5400
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/neosukirestaurant

 

 

8. เรือนหยกสุกี้โบราณ

        มาถึงอีกหนึ่งร้านสุกี้โบราณ เรือนหยกสุกี้โบราณ ซึ่งบอกเลยว่าเค้าเป็นความอร่อยระดับตำนานมายาวนานมากกว่า 50 ปี เลยทีเดียวค่ะ รสชาติของสุกี้ที่นี่จะมีรสชาติที่เข้มข้น และใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ แถมราคาก็เป็นกันเอง คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ! และที่เด็ดเลยก็คือน้ำจิ้มสูตรเด็ดของร้าน รับรองว่าสุดฟิน รวมถึงเมนูอาหารไทยจีนอีกมากมายเลยจ้า

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/H3CrdL3j6ynJHcJA8
  • ที่อยู่ : 1/2 ถนน สุขสวัสดิ์ 30 ซ.ยอดวีรบุรุษ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ
  • เปิดบริการ : 11.00 – 21.00 น.
  • โทร : 08-1777-8226
  • เว็บไซต์ : https://web.facebook.com/reaunyok

 

 

 

บอกต่อ 9 เครื่องปรุงเกาหลี อาหารเกาหลี ที่แม่บ้านสายโคเรียต้องมีติดครัว!

         ต้องยอมรับว่า อาหารเกาหลี เป็นที่นิยมกับคนไทยมาสักพักแล้ว และไม่มีทีท่าง่าจะเลิกฮิตง่ายๆ แม่บ้านหลายคนเริ่มหาสูตรอาหารเกาหลี ทำกินกันบ่อยๆ เราเลยจะมาบอกต่อ 9 เครื่องปรุงเกาหลี อาหารเกาหลี ที่แม่บ้านสายโคเรียต้องมีติดครัว! เครื่องปรุงที่สายอาหารเกาหลีไม่รู้จักไม่ได้ ถ้าหากจะทำเมนูอาหารให้ได้แบบคนเกาหลีแท้ๆ เรียกได้ว่าแตกต่างจากเครื่องปรุงแบบไทยพอสมควร บอกเลยว่าถ้าคุณมีครบตามลิสต์นี้ สามารถทำอาหารเกาหลีได้เหมือนเป๊ะแบบสบายๆ อยากรู้แล้วละสิว่าเครื่องปรุงเกาหลีที่เราลิสต์มามีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย 

 

 

 

เครื่องปรุงเกาหลี ซอสเกาหลี อาหารเกาหลี

 

1. โคชูจัง (Gochujang)

 

     โคชูจัง เครื่องปรุงเกาหลียอดนิยมของคนไทย ลักษณะจะคล้ายๆ พริกแกง แต่มีความมันวาว มีเนื้อเนียนและชุ่มฉ่ำกว่าพริกแกงของบ้านเรา โคชูจังเหมือนเป็นเครื่องปรุงสามัญประจำครัวอาหารเกาหลีเช่นกัน รสชาติดั้งเดิมจะมีรสเค็มเผ็ดเล็กน้อย นิยมเอามาใช้ทำเมนู ซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน บูเดชิเก (หม้อไฟเกาหลี) ผัดกิมจิ ผสมในซอสคลุกไก่ทอดเกาหลี หรืออาจจะนำมาใช้เสริมราชาติในเมนูอื่นๆ ได้อีกเพียบค่า

 

2. ซีอิ๊วเกาหลี Soy Sauce (Ganjang)

       ซีอิ๊วเกาหลี หรือที่รู้จักกันในชื่อ Soy Sauce โดยของเกาหลีจะมีให้เลือกสองรสชาติคือแบบเค็มกับแบบหวาน ไว้สำหรับหมักดองอาหารสดเช่น ปูดองซีอิ๊ว กุ้งดองซีอิ๊ว เป็นต้น ในส่วนของการประกอบอาหาร ก็มักจะนำไปปรุงกับผัดผัก ซุปบิบัมบับ หรือถ้าใครอยากนำมาเหยาะลงบนข้าวสวย กินคู่กับกับข้าวก็ได้เช่นกัน รสชาติไม่เค็มหรือหวานจนเกินไป สามารถทานได้เรื่อยๆ

 

3. เต้าเจี๊ยวเกาหลี (Doenjang)

       เต้าเจี๊ยวเกาหลี เป็นหนึ่งสิ่งที่คนเกาหลีต้องมีติดครัว เพราะคนเกาหลีมักนิยมทำซุปสาหร่าย หรือซุปร้อนๆ กินคู่กับข้าวเป็นประจำ โดยเจ้าเต้าเจี๊ยวนำไปละลายในน้ำก็ออกมาเป็นซุปแสนอร่อยได้แล้ว รสชาติจะมีความเค็มนำ โดยทำจากการหมักถั่วเหลืองและเกลือรสชาติเข้มข้น ว่ากันว่ายิ่งหมักนาน ยิ่งได้รสชาติที่เข้มข้น ถือเป็นวัตถุดิยที่ควรมีติดครัวอีกอย่างเลยทีเดียว

 

4.พริกป่นเกาหลี (Gochugaru)

         พริกป่นเกาหลี อาหารไทยมีพริกป่น อาหารเกาหลีก็มีเช่นกัน โดยทำจากการนำพริกสดเกาหลีมาตากให้แห้ง และป่นออกมา ลักษณะคล้ายพริกป่นไทย แต่จะมีความหยาบและมีสีแดงเข้มมากกว่า ในส่วนของรสชาติ จะมีความเผ็ดร้อนแต่แอบมีความหวานที่ปลายลิ้น มักนิยมมาประกอบอาหาร หมักผักต่างๆ โดยเฉพาะการทำกิมจิ ขาดพริกป่นเกาหลีไม่ได้เลยทีเดียว

 

5.เมล็ดงาป่นเกาหลี (Bokkeumkkae)

        เมล็ดงาป่นเกาหลี เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องปรุงติดครัวคนเกาหลีเช่นกัน โดยคนเกาหลีไม่ค่อยนิยมนำไปประกอบอาหารผัด หรืออาหารที่ต้องผ่านความร้อน แต่จะเป็นการนำไปหมักกับผักต้มต่างๆ ซึ่งจะเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมให้ฟุ้งกระจายตอนกินมากยิ่งขึ้น ส่วนรสเดี่ยวๆของเมล็ดงาป่น จะมีความเค็มๆ มันๆ ซึ่งทำให้รสชาติอาหารอร่อยมากยิ่งขึ้น ถือเป็นของที่ขาดไม่ได้ในโต๊ะอาหารคนเกาหลีเลยละ 

 

6.ปลาแห้ง (Mareun Myeolchi)

       ปลาแห้ง หรือปลาเอนโชวี่แห้ง เป็นวัตถุดิบที่คนไทยอาจจะไม่คุ้นเคย แต่คนเกาหลีถือเป็นวัตถุดิบทำซุปชั้นเลิศเลยก็ว่าได้ โดยมักจะนิยมนำไปต้มเป็นซุป ใส่สาหร่าย และเครื่องเทศต่างๆ เพิ่ม เมื่อต้มไปสักพักค่อยตักเนื้อปลาออก จะทำให้น้ำซุปดูดซัพรสชาติจากตัวปลาไว้ ทำให้น้ำซุปกลมกล่อมโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องนัวเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปทำเป็นซุปหม้อไฟ ชุนดูบุชิเก หรือซุปสตูวเกาหลี ทำให้รสชาติเข้มข้น หอมกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น

 

7.ซอสหมักรสเผ็ด (Ssamjang)

        ซอสหมักรสเผ็ด หรือที่เรียดว่า ซัมจัง มักจะเห็นร้านปิ้งย่างเกาหลี นำไปทำเป็นน้ำจิ้มปิ้งย่างเกาหลี โดยทำมาจากเต้าเจี้ยวผสมพริก ซึ่งเป็นน้ำจิ้มสำเร็จรูปที่ปรุงรสชาติมาเรียบร้อยแล้ว คนเกาหลีนิยมมากินพร้อมกับผัก เติมเนื้อสัตว์(เมนูปิ้งย่าง) ใส่พริก กระเทียม และจิ้มพริก ใส่ซอสซัมจัง แค่นี้ก็ฟินแล้ว รสชาติจะมีความเค็ม เผ็ด และหวานนิดๆ จะนำไปผัดกับผักต่างๆ หรือทำเป็นน้ำซุปก็อร่อยไม่แพ้กัน

 

8.น้ำมันงาเกาหลี (Chamkieum)

        น้ำมันงาเกาหลี ถือเป็นเครื่องปรุงคู่ครัว ไม่ว่าจะกินอะไร เพียงแค่เหยาะน้ำมันงาลงไป ก็ทำให้เมนูนั้นกลมกล่อมหอมอร่อยขึ้นมาทันตา รสชาติจะไม่มีมาก แต่จะมีกลิ่นงาคั่วชัดเจน ถือเป็นเครื่องปรุงที่ช่วยปสานรสชาติต่างๆ ให้เข้ากันและกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น จะนำไปเยาะลงบนโจ๊ก ซุป สลัด ยำผักต่างๆ หรือจะนำไปทำเป็นขนมสไตล์เกาหลีบางชนิด ก็ได้เช่นกัน

 

9.ซอสไก่เผ็ด (Samyang)

        ซอสไก่เผ็ดเกาหลี เรียกว่าเป็นซอสยอดนิยมใหม่ล่าสุดในช่วงนี้เลยก็ว่าได้ โดยซอสนี้มีอีกชื่อว่า ซอสซัมยัง โดยรสชาตินั้นเอามาจาก มาม่าผ็ดเกาหลี ที่คนไทยนิยมกินกันอยู่ช่วงหนึ่ง โดยนำมากินได้เลย เช่น กินคู่กับไก่ทอด หมูทอด ปิ้งย่าง ไส้กรอก หรือนำไปปรุงใส่ในเมนูต่างๆ เพิ่มรสชาติให้อร่อยมากขึ้น โดยมีรสเผ็ดร้อน หวานและเค็มปลายๆ ตอนนี้หาซื้อง่ายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปแล้ว บอกเลยของมันต้องมี!

 

 

15 สูตรทำขนม ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน อร่อยง่าย ทำเองได้ที่บ้าน

     ชาว หม้อทอดไร้น้ำมันเลิฟเวอร์ คนไหนกำลังมองหา สูตรทำขนม ด้วยหม้อทอดไร้น้ำมันอยู่ วันนี้ TrueID Food รวบรวมมาให้แบบจัดเต็ม กับ 15 สูตรทำขนม ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน เมนูอร่อย ทำง่าย อยู่บ้านก็มีขนมอร่อยๆ ทานได้ รับรองว่าถูกใจสมาชิกทุกคนในครอบครัว มีทั้งขนมไทย ขนมอบ เบเกอรี่ต่างๆ โอ้ยยย เยอะแยะบอกเลยว่าฟิน!!

 

 

สูตรทำขนมด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน

 

1. สูตรทาร์ตไข่ ด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน

 

 

ส่วนผสม ทาร์ตไข่

  • แป้งทาร์ตสำเร็จรูป (แช่แข็ง) 15 ถ้วย
  • ไข่แดง (ไข่ไก่เบอร์ 1) 4 ฟอง
  • วิปปิ้งครีม (เดลี่) 300 กรัม
  • นมสด (จืด) 100 กรัม
  • น้ำตาลทราย 75 กรัม
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • กลิ่นวนิลา 1/2 ช้อนโต๊ะ (ถ้าใช้แบบสังเคราะห์วินเนอร์ ใส่แค่ 1/2 ช้อนชา)

 

ดูสูตรและวิธีทำเพิ่มเติม ที่ : แจกสูตร ทาร์ตไข่ ด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน หน้าเนียนสวย อร่อยฟินทุกคำ

 

 

2. สูตรทำขนมปัง 2 รสชาติ ด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน

 

 

ส่วนผสม ขนมปังลูกเกด และ ขนมปังช็อกโกแลต

 

  • แป้งขนมปัง 1.5 ถ้วยตวง
  • กล้วยหอมสุก 1 ผล (ยิ่งสุก ยิ่งหวาน)
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • ยีสต์ผง 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • นมข้น 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  • กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
  • นมสด (เอาไว้เติมถ้าแป้งแห้งไป)
  • ลูกเกด
  • ช็อกโกแลตชิพ

 

ดูสูตรและวิธีทำเพิ่มเติม ที่ : สูตรทำขนมปัง 2 รสชาติความอร่อย วิธีอบขนมปัง ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

 

3. สูตรทำขนมปัง 2 รสชาติ ด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน

 

 

ส่วนผสม ชีสเค้ก หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

ส่วนที่ 1

  1. ครีมชีส (Cream cheese) 100 กรัม
  2. เนยจืด (Butter) 20 กรัม
  3. นม (Milk) 60 มิลลิลิตร (ml)
  4. ไข่แดง (Egg Yolks) 2 ฟอง
  5. แป้งเค้ก (Cake flour) 2 ช้อนโต๊ะ

 

ส่วนที่ 2

  1. ไข่ขาว (Egg whites) 2 ฟอง
  2. ครีมออฟทาทาร์ (Cream of Tartar) 1/4 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำตาลป่น (Granulated Sugar) 3 ช้อนโต๊ะ

 

ดูสูตรและวิธีทำเพิ่มเติม ที่ : สูตรทำชีสเค้ก ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน อร่อยนุ่ม ชุ่มฉ่ำ หอมชีสนัวๆ

 

 

4. สูตรเค้กกล้วยน้ำว้า ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

 

ส่วนผสม เค้กกล้วยน้ำว้า สูตรหวานน้อย

 

  • กล้วยน้ำว้าสุกงอม 5 ลูก
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • แป้งอเนกประสงค์ 250 มิลลิลิตร
  • นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  • เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
  • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

 

ดูสูตรและวิธีทำเพิ่มเติม ที่ : สูตรทำเค้กกล้วยน้ำว้า ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน สูตรหวานน้อย อร่อยจัดหนัก

 

 

5. สูตรบราวนี่ ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

 

ส่วนผสม บราวนี่ หม้อทอดไร้น้ำมัน

  • น้ำมันหรือเนยจืด 50 มิลลิลิตร
  • น้ำตาล 65 กรัม
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • แป้งสาลีเอนกประสงค์ 30 กรัม
  • ผงโกโก้ 20 กรัม
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • กลิ่นวนิลา 1/2 ช้อนชา

 

ดูสูตรและวิธีทำเพิ่มเติม ที่ : แจกสูตรทำ บราวนี่ ด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน เนื้อแน่น เข้มข้น อร่อยได้ไม่ง้อเตาอบ

 

 

6. สูตรขนมปังกรอบเนยน้ำตาล หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

วิธีทำ ขนมปังกรอบเนยน้ำตาล หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

ส่วนผสม ขนมปังกรอบเนยน้ำตาล หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

  • ขนมปังแผ่น
  • เนยสด
  • น้ำตาล

 

7. สูตรเผือกทิพย์ ในหม้อทอดไร้น้ำมัน

 

วิธีทำ เผือกทิพย์ หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

ส่วนผสม เผือกทิพย์ หม้อทอดไร้น้ำมัน

  • ข้าวโพดต้ม 150 กรัม
  • กะทิ 150 มิลลิลตร (ml)
  • น้ำตาล 120 กรัม
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • ผงฟู 1/2 ช้อนชา

 

 

8. สูตร ขนมไข่นกกระทา ด้วย ทอดไร้น้ำมัน

 

วิธีทำ ขนมไข่นกกระทา ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

ส่วนผสม ขนมไข่นกกระทา ด้วย ทอดไร้น้ำมัน

 

  • มันไข่นึ่ง หรือ ต้ม 350 กรัม
  • แป้งมันสำประหลัง 1 ถ้วยตวง
  • แป้งสาลีเอนกประสงค์ 1/3 ถ้วยตวง
  • น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วยตวง
  • เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • นมข้นจืด หรือ กระทิ 70 มิลลิลตร (ml) (หรือน้ำเปล่าก็ได้)

 

 

9. สูตรบัตเตอร์ เค้ก สูตรลดน้ำตาล 50% ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

วิธีทำบัตเตอร์ เค้ก ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

ส่วนผสมบัตเตอร์ เค้ก ด้วย ทอดไร้น้ำมัน

 

  • แป้งเค้ก 75 กรัม
  • ผงฟู 1/2 ช้อนชา
  • เนยจืด 90 กรัม
  • เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 55 กรัม (ใช้น้ำตาลไอซิ่งจะละลายง่ายกว่า)
  • สารให้ความหวาน อิริทริทอล 3 ช้อนโต๊ะ
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • นมสด 30 มิลลิลิตร
  • กลิ่นวนิลา 1/2 ช้อนชา

 

**ถ้าใช้น้ำตาลทรายอย่างเดียว ใช้ 55 กรัม

 

 

10. สูตร ชีสเค้กหน้าไหม้ ด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน

(Basque Burnt Cheesecake Air Fryer)

 

วิธีทำ ชีสเค้กหน้าไหม้ ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

ส่วนผสม ชีสเค้กหน้าไหม้ ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

  • ครีมชีส 100 กรัม
  • น้ำตาลทราย 35 กรัม
  • ไข่แดง 1 ฟอง
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • ครีมสด (cooking cream) 50 กรัม (ใช่นมแทนได้)
  • แป้งข้าวโพด 3 กรัม
  • กลิ่นวนิลา ครึ่งฝา (1/2 ช้อนชา)
  • เกลือ เล็กน้อย

 

 

11. สูตร พายไส้กรอก ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

วิธีทำ พายไส้กรอก ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

ส่วนผสม พายไส้กรอก ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

  • แป้งพายชั้นแช่แข็ง
  • ไส้กรอก
  • ไข่

 

 

12. สูตรทำ สโคน ( Scone) ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

วิธีทำ สโคน ( Scone) ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

ส่วนผสม สโคน ( Scone) ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

  • แป้งเค้ก 200 กรัม
  • ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • นม 30 มิลลิลิตร (ml)
  • มาการีน หรือ เนย 60 กรัม
  • น้ำตาล 15 กรัม
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง

 

 

13. สูตรทำ มาการอง ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

วิธีทำมาการอง ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

ส่วนผสม มาการอง ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

ส่วนผสม ตัวมาการอง

  • อัลมอนด์ป่น 40 กรัม
  • น้ำตาลไอซิ่ง 40 กรัม
  • ไข่ขาว 30 กรัม
  • น้ำตาลทรายป่น 40 กรัม

 

ส่วนผสม ไส้มาการอง

  • เนยจืด 30 กรัม
  • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลไอซิ่ง 1/2 ช้อนโต๊ะ

 

 

14. สูตรทำ ชิฟฟ่อนมะพร้าวอ่อน ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

วิธีทำชิฟฟ่อนมะพร้าวอ่อน ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

ส่วนผสม ชิฟฟ่อนมะพร้าวอ่อน ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

  • แป้งเค้ก (พัดโบก) 50g
  • ผงฟู 1/2 ช้อนชา
  • เกลือ 1/8 ช้อนชา
  • น้ำตาลป่น 25 กรัม
  • น้ำมันพืช 25g (เราใช้น้ำมันรำข้าว)
  • น้ำมะพร้าว 15 กรัม
  • กระทิ 20 กรัม
  • ไข่แดง 2 ฟอง (เบอร์ 2)

 

เมอแรงค์

  • ไข่ขาว 2 ฟอง (เบอร์ 2)
  • น้ำตาลป่น 35 กรัม
  • ครีมออฟทาร์ทา 1/8 ช้อนชา

 

 

15. สูตรทำ เค้กช็อกโกแลต ลาวา ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

วิธีทำเค้กช็อกโกแลต ลาวา ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

ส่วนผสม เค้กช็อกโกแลต ลาวา ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

  • ดาร์กช็อกโกแลต 70% 70 กรัม
  • เนยจืด 40 กรัม
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง (เบอร์1)
  • ไข่แดง 1 ฟอง (เบอร์1)
  • น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/3 ถ้วยตวง
  • เกลือ นิดหน่อย
  • กลิ่นวนิลา 1/2 ช้อนชา

 

 

สูตร เสือร้องไห้ สูตรหมักเนื้อย่างรสเด็ด อาหารอีสานจานอร่อย 🥩

     ของไทยแน่นอน !! วันนี้เรามี สูตรอาหาร เมนูอาหารอีสานยอดนิยม ที่ทุกร้านต้องมีเมนูนี้ กับ สูตรเสือร้องไห้ เนื้อย่างโคขุน สูตรหมักเนื้อย่างสูตรอร่อย ซึ่งวิธีทำก็ทำง่ายๆ และมาพร้อมกับ สูตรน้ำจิ้มแจ่ว แซ่บๆ กินตอนร้อนๆ คู่กับข้าวเหนียว ผักาด โอ้ยยย ฟินแน่นอน ฟินแบบไม่ต้องสืบเลยค่ะ

 

 

 

สูตรเสือร้องไห้ สูตรหมักเนื้อย่าง สูตรเด็ด

 

 ดูคลิปขั้นตอนและวิธีทำด้านล่าง 

 

ส่วนผสม เสือร้องไห้

 

ส่วนผสม เนื้อย่าง เสือร้องไห้

  1. เนื้อวัวติดมัน ( เสือร้องไห้​ ) 500 กรัม
  2. กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
  3. พริกไทย 1/2 ช้อนชา
  4. เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
  5. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  6. ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา
  7. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา

 

ส่วนผสม น้ำจิ้มแจ่ว

  1. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  2. น้ำปลา 1.5 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  4. ข้าวคั่ว 2 ช้อนชา
  5. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  6. พริกขี้หนู 1 ช้อนโต๊ะ
  7. ผักชีฝรั่ง 1 ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำ เสือร้องไห้

 

1. เริ่มจากการหมักเนื้อก่อนค่ะ เตรียมชามผสมใส่เนื้อลงไป ใส่เบกกิ้งโซดาขยำให้เข้ากันดีเนื้อจะได้นุ่มขึ้น

2. ใส่กระเทียม พริกไทย ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย นวดให้ข้ากันดี ใส่กล่องปิดฝาใส่ตู้เย็น พักไว้อย่างน้อย 30 นาที หรือถ้ามีเวลาก็ 1-2 ชั่วโมงก็จะเข้าเนื้อดีค่ะ

3. เตรียมกระทะที่จะนำมาย่างเนื้อ พอกระทะร้อนได้ที่เอาเนื้อลงไปวาง

4. ย่างไฟอ่อนๆ ให้พอสุกแต่ไม่แห้ง ให้เนื้อข้างในฉ่ำๆ จะอร่อยค่ะ

5. เสร็จแล้วก็เอามาหั่นใส่จาน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่วที่เตรียมไว้ และผักสดด้วย ไว้กินคู่กัน เนื้อย่างเสือร้องไห้โคขุนต้องกินร้อนๆ นะคะถึงจะอร่อย

** การย่างเนื้อโคขุน วันนี้เราจะใช้กระทะปิ้งย่าง ถ้าใครสะดวกใช้เตาถ่านยิ่งหอมอร่อยเลยค่ะ

 

     การทำน้ำจิ้มแจ่ว เตรียมถ้วยใส่น้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น ข้าวคั่ว พริกขี้หนูซอย ใบผักชีฝรั่งซอยลงไป ผสมให้เข้ากัน ชิมรสให้ออกเผ็ด เปรี้ยว หวาน เค็ม หรือตามชอบ พักไว้ก่อนค่ะ

 

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก

 

สูตรทำชีสเค้ก ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน อร่อยนุ่ม ชุ่มฉ่ำ หอมชีสนัวๆ 🧀

     สูตรอาหารจากหม้อทอดไร้น้ำมัน กำลังกลับมาเป็นที่นิยมกันอีกครั้ง และวันนี้เราเลยมีอีกหนึ่ง สูตรขนม สูตรทำชีสเค้กด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน มาฝากเชฟมือใหม่ทุกคนค่ะ บอกเลยว่าสูตรนี้ทำง่าย แค่มีหม้อทอดไร้น้ำมันเครื่องเดียว ไม่ต้องมีเตาอบก็ทำเค้กอร่อยๆ ทานได้แล้ว หรือถ้าบ้านไหนมีเตาอบก็สามารถเอาไปใส่เตาอบได้เช่นกันค่ะ เอาล่ะๆ เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าส่วนผสม และขึ้นตอนการทำชีสเค้ก หม้อทอดไร้น้ำมันมีอะไรบ้าง

 

 

 

สูตรชีสเค้ก หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

 ดูคลิปขั้นตอนและวิธีทำ ด้านล่าง 

 

ส่วนผสม ชีสเค้ก หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

ส่วนที่ 1

  1. ครีมชีส (Cream cheese) 100 กรัม
  2. เนยจืด (Butter) 20 กรัม
  3. นม (Milk) 60 มิลลิลิตร (ml)
  4. ไข่แดง (Egg Yolks) 2 ฟอง
  5. แป้งเค้ก (Cake flour) 2 ช้อนโต๊ะ

 

ส่วนที่ 2

  1. ไข่ขาว (Egg whites) 2 ฟอง
  2. ครีมออฟทาทาร์ (Cream of Tartar) 1/4 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำตาลป่น (Granulated Sugar) 3 ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำ ชีสเค้ก หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

1. นำนมสด เนย และครีมชีส มาใส่หม้อตั้งไฟอ่อนๆ แล้วคนด้วยตะกร้อมือจนส่วนผสมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน

2. ใส่ไข่แดง แล้วคนส่วนผสมให้เข้ากัน

3. ร่อนแป้งเค้กตามลงไปในหม้อ แล้วคนให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเอาส่วนผสมมาพักไว้ก่อน

4. นำไข่ขาวมาตีด้วยเครื่องตีไฟฟ้า หรือตะกร้อมือก็ได้ ให้ฟูพอประมาณ (ตามคลิป)

5. ใส่ครีมออฟทาทาร์ แล้วตีให้เข้ากัน จากนั้นค่อยๆ ใส่น้ำตาลลงไปจนหมด แล้วตีจนไข่ขาวตั้งยอด

6. ค่อยๆผสมส่วนไข่ขาวลงไปในไข่แดง ใช้ไม้พายค่อยๆ คนจนส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน

7. นำใส่พิมพ์แล้วเอาเข้าหม้อทอดไร้น้ำมัน รอบแรกอุณหภูมิ 120 องศา เป็นเวลา 30 นาที

8. รอบสอง 140 องศา อบต่ออีก 15 นาที พร้อมเสิร์ฟ

 

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก 

 

แจกสูตร ข้าวยำไก่แซ่บ ไก่ทอดรสเด็ด เมนูทำขายสร้างอาชีพ กินเพลินไม่มีเบื่อ!

         หากใครไปตามตลาดอาหาร หรือได้กินเมนูนึงของร้านไก่ทอดชื่อดังอย่าง ข้าวยำไก่แซ่บ ร้อยทั้งร้อยต้องติดใจกันทุกราย เราเลยจะมาแจกสูตรอาหาร ข้าวยำไก่แซ่บ ไก่ทอด เมนูทำขายสร้างอาชีพ น้ำยำแซ่บ กินเพลิน! บอกวิธีทำอย่างละเอียด ตั้งแต่เทคนิคการทอดไก่ให้หนังกรอบ เนื้อในชุ่มฉ่ำ พร้อมด้วยรสชาติน้ำยำแสนเข้มข้น หอมกลิ่นข้าวคั่ว เป็นเมนูสุดแซ่บที่กินเพลินไม่มีเบื่อ แถมสูตรนี้จะนำไปทำขายสร้างอาชีพก็ได้เช่นกัน บอกเลยลูกค้าติดตรึม! ว่าแต่เมนูข้าวยำไก่แซ่บจะมีวิธีทำอย่างไรบ้าง ตามมาดูกัน!

 

 

สูตรอาหาร ข้าวยำไก่แซ่บ เมนูทำขายสร้างอาชีพ

ดูคลิปขั้นตอนและวิธีทำ ด้านล่าง 

ส่วนผสม ข้าวยำไก่แซ่บ

ส่วนผสม ไก่ทอด

  • เนื้อสะโพกไก่ 1,000 กรัม
  • แป้งอเนกประสงค์ 500 กรัม
  • แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
  • น้ำเปล่า
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
  • พริกไทย 1/4 ช้อนชา

ส่วนผสม เครื่องยำ(สำหรับ 1-2 เสิร์ฟ)

  • ไก่ทอด
  • น้ำมะนาว 2 1/3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 2/3 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น 2/3 ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดง 30 กรัม
  • ต้นหอม 3 กรัม
  • ผักชีฝรั่ง 5 กรัม
  • ผักชี 3 กรัม

วิธีทำ ข้าวยำไก่แซ่บ

วิธีทำ ไก่ทอด

  1. ล้างทำความสะอาดไก่ให้เรียบร้อย จากนั้นนำไก่ไปหมักด้วยเกลือ น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น ขยำให้เข้าเนื้อ หมักเอาไว้ 1 ชั่วโมง
  2. เตรียมแป้งทอดไก่ นำแป้งสาลีอเนกประสงค์ และแป้งข้าวเจ้าใส่รวมกัน คนผสมให้เข้ากันดี 
  3. จากนั้นเตรียมแป้งอีกหนึ่งส่วน ตักออกมาเล็กน้อย เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย คนให้เข้ากัน ไม่ต้องข้นหรือเหลวจนเกินไป
  4. ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ใส่น้ำมันให้ท่วมไก่ นำไก่ไปคลุกกับแป้งแห้งให้ทั่ว ขย่ำแป้งออกไปทางเดียว จากนั้นนำไปชุบกับแป้งผสมน้ำ และนำไปใส่แป้งแห้งอีกครั้ง สะบัดแป้งไปทางเดียวอีกครั้ง
  5. นำลงไปทอดในน้ำมัน พอแป้งเริ่มเซตตัว ค่อยขยับไก่ให้ไม่ติดกัน พอเริ่มออกสีเหลืองอ่อนๆ ให้พลิกกลับไก่ไปอีกด้าน เพื่อให้สุกเท่ากัน
  6. ใช้เวลาประมาณ 10 นาที กลับไก่ไปอีกด้าน พอไก่ลอยขึ้นมาแสดงว่าสุกได้ที่แล้ว ทอดเพื่อไล่ความชื้นต่ออีกนิด ตักขึ้นมาพักสะเด็ดน้ำมันไว้

วิธีทำ ข้าวยำไก่แซ่บ

  1. บีบน้ำมะนาวพักไว้ นำหอมแดง ต้นหอม ผักชี ผักชีฝรั่ง หั่นพักเตรียมไว้
  2. นำไก่มาหั่นตามขนาดที่ต้องการ พักไว้
  3. ใส่น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย พริกป่น หอมแดง ต้นหอม ผักชีฝรั่ง ผักชี ลงในชามผสม คนให้เข้ากัน ชิมให้ได้รสตามชอบ
  4. นำไก่ลงไป ตามด้วยข้าวคั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากันดี ตักเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ เป็นอันเสร็จ

 

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลทั้งหมดจาก 

สูตรทำเค้กกล้วยน้ำว้า ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน สูตรหวานน้อย อร่อยจัดหนัก

     มีกล้วยน้ำว้าเอาไปทำอะไรดี ? วันนี้เรามี สูตรขนม สูตรทำเค้ก ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน มาฝากอีกหนึ่งสูตรค่ะ กับ บอกเลยว่าสูตรนี้ต้องถูกใจใครหลายๆ คน โดยเฉพาะคนที่มีกล้วยน้ำว้าเป็นหวีอนู่ที่บ้าน แต่กินไม่ค่อยทัน กับ สูตรทำเค้กกล้วยน้ำว้า ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน บอกเลยว้าอร่อย ทำง่าย แถมเป็นสูตรหวานน้อย จะกินเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกผิด ทานเป็นอาหารเช้าก็ได้ หรือจะทานเป็นขนมของว่างระหว่างมื้อก็ดี หรือใครอยากเอาไปต่อยอดทำขายก็กำไรปังๆ เลยค่ะ เอาล่ะเราไปดูกันดีกว่าว่าวิธีทำ เค้กกล้วยน้ำว้า มีขั้นตอนอะไรบ้าง

 

 

 

สูตรเค้กกล้วยน้ำว้า สูตรทำเค้กหม้อทอดไร้น้ำมัน

 

 ดูคลิปวิธีทำด้านล่าง 

 

ส่วนผสม เค้กกล้วยน้ำว้า สูตรหวานน้อย

 

  • กล้วยน้ำว้าสุกงอม 5 ลูก
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • แป้งอเนกประสงค์ 250 มิลลิลิตร
  • นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  • เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
  • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

 

วิธีทำ เค้กกล้วยน้ำว้า ด้วย หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

1. เตรียมชามผสม แล้วร่อน แป้งอเนกประสงค์ เกลือป่น และเบกกิ้งโซดา ผสมรวมกัน แล้วพักไว้

2. ปอกกล้วยน้ำว้า แล้วเอามาปั่นรวมกัน ไข่ไก่ และน้ำตาล ปั่นให้ละเอียด แล้วใส่นมสด น้ำมันพืช และน้ำมะนาวตามลงไป ปั่นต่อให้เข้ากัน

3. นำส่วนผสมกล้วยมาเทใส่ชามผสม แล้วคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน (ตามคลิป)

4. เตรียมพิมพ์ที่จะใช้อบ แล้วทาน้ำมันให้ทั่ว จากนั้นเทเค้กลงไปในพิมพ์

5. นำเค้กเข้าหม้อทอดไร้น้ำมันตั้งอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส 10 นาที นำเค้กออกจากหม้อทอด พักให้เย็นลง พร้อมเสิร์ฟ

 

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก

15 ร้านติ่มซำ เจ้าดัง ทั่วกรุงเทพ อัพเดท 2021 ไส้แน่น แป้งนุ่ม โดนใจทั้งครอบครัว!

        ใกล้ช่วงเทศกาลวันตรุษจีน 2564 เข้ามาทุกที หลายครอบครัวเชื้อสายจีนน่าจะกำลังมองหาร้านอาหารจีนไว้กินเลี้ยงภายในครอบครัวกันแล้ว เราเลยไม่รอช้า นำเสนอ 15 ร้านติ่มซำ ร้านอาหารจีน ในกรุงเทพ อัพเดท 2021 ไส้แน่น แป้งนุ่ม โดนใจทั้งครอบครัว! ติ่มซำถือเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารจีนที่ถูกใจคนทุกเพศทุกวัย ด้วยรสชาติที่กินง่าย จะเป็นเมนูทานเล่นก็ได้หรือจะกินเป็นมื้อหลักก็ดี ซึ่งแต่ละร้านที่เราคัดมา ล้วนเป็นร้านดังห้ามพลาด บางร้านส่งตรงมาจากไต้หวัน และฮ่องกง ต้นตำรับอาหารจีนเลยทีเดียว พูดมาขนาดนี้ ต้องตามมาดูแล้วละว่ามีร้านอะไรบ้าง ลุย!

       เริ่มต้นที่ร้านบุฟเฟ่ต์ติ่มซำ สไตล์ฮ่องกงเเท้ที่ Hong Kong Fisherman IMPACT อารีน่า เมืองทองธานี ที่นี่ตกแต่งแบบจีนสมัยใหม่ เมนูแนะนำของร้านจะเป็นอาหารประเภทหมูแดง หมูกรอบ ทานคู่ถั่วต้ม ขิงดอง เเละน้ำจิ้มถั่วบดหวาน ฮ่องกงสุกี้ บะหมี่เป็ดย่าง ฯลฯ รับประกันความอร่อยโดยเชฟชาวฮ่องกงแท้ๆ บอกเลยว่าห้ามพลาด

***ตอนนี้มีโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ติ่มซำมื้อกลางวัน มา 4 จ่าย 3 จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/G1BCfAWPU8PWU2Jy5
  • ที่อยู่ : IMPACT EXHIBITION CENTER, Hall 8 เลขที่ 99 ถนนป๊อปปูล่า เเยกบ้านใหม่ ปากเกร็ด นนทบุรี
  • เปิดบริการ : 11.00 – 22.00 น.
  • โทร : 0-2833-5434-5
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/HongKongFisherman

 

================

 

2. Tim Ho Wan

      ทิม โฮ วาน (Tim Ho Wan) ร้านที่ได้รับการขนานนามจาก Macau Michelin Guide ให้เป็น “ร้านอาหารมิชลินสตาร์ที่ราคาย่อมเยาที่สุดในโลก” ตอนนี้ลัดฟ้ามาเปิดที่เมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไฮไลท์จะอยู่ที่ “จตุรเทพแห่งติ่มซำ” ทั้งสี่จาน ได้แก่ ซาลาเปาอบไส้หมูแดง ขนมผักกาด มาไลโก๊ว และก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้ตับ

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/mo624PxCkgFTHtVV7
  • ที่อยู่ : 976/4 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร (มี 4 สาขา)
  • เปิดบริการ : 10.00 – 22.00 น.
  • โทร : 0-2006-5288
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/TimHoWanTH

 

================

 

3. LIN-FA Chinese Restaurant

ห้องอาหารจีนสไตล์แต้จิ๋ว อยู่ที่โรงแรมเดอะ สุโกศล (โรงแรมสยามซิตี้เก่า) และมีชื่อเสียงมายาวนาน เมนูที่หลินฟาโดดเด่นกว่าร้านอื่นอยู่ที่ซุป เช่นซุปเกี๊ยวกุ้ง ที่กุ้งเป็นกุ้งจริงๆ หรือจะเป็นซุปไข่สไตล์เเต้จิ๋ว ซุปเห็ดหอมเพื่อสุขภาพ เป็นต้น สำหรับอาหารอย่างอื่นก็มีให้เลือกมากมายเช่นกัน ทั้งเซ็ตของทอดเรียกน้ำย่อย เซ็ตติ่มซำที่คัดแต่วัตถุดิบชิ้นโตๆ บริการรวดเร็วทันใจรับรองไม่ผิดหวัง

 

  • พิกัด : https://g.page/LinFa_Sukosol?share
  • ที่อยู่ : 477 ศรีอยุธยา ถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร
  • เปิดบริการ : 11.30 – 14.30 น. / 17.00 – 21.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
  • โทร : 0-2247-0123
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/myLinFa

 

================

 

4. โชคดีติ่มซำ 

        โชคดีติ่มซำ น่าจะเป็นร้านเดียวที่เวลาคุณอยากกินแล้วต้องได้กินแน่นอน เพราะมีหลากหลายสาขามากๆ และเปิด 24 ชั่วโมงแทบทุกสาขาด้วย ประเภทของอาหารก็มีหลากหลาย แต่เมนูเด็ดของร้านจริงๆ ก็คือ “บักกุดเต๋” อาหารจานหลักของทางร้าน เป็นซี่โครงหมูตุ๋นยาจีน 15 ชนิดรสชาติเผ็ดร้อน กลมกล่อม บำรุงสุขภาพ แถมราคาจับต้องได้อีกด้วย

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/du7LkGFCkpfTrPrG7
  • ที่อยู่ : ซอยจุฬาลงกรณ์ 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร (มีหลายสาขา)
  • เปิดบริการ : 06.00 – 21.00 น. (ช่วงโควิด)
  • โทร : 0-2563-4061
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/ChokdeeDimsum

 

================

 

5. Chef Pom Kitchen

          Chef Pom Kitchen ภัตตาคารที่ตั้งโดยเชฟป้อม เชฟกระทะเหล็กอาหารจีนที่อยู่ในวงการมานาน ร้านตั้งอยู่ย่านพระราม 3 เรื่องความอร่อย และรูปร่างหน้าตาของเมนูนั้นหายห่วงแน่นอน ติ่มซำเริ่มต้นที่เข่งละ 79 บาท ได้รสชาติความอร่อยในแบบอาหารจีนต้นตำรับ ที่สำคัญราคาจับต้องได้ บอกเลยสายติ่มซำไม่ควรพลาด

 

 

================

 

6. เฉินติ่มซำ

 

        ร้านเก่าแก่ย่านเยาวราช เฉินติ่มซำ กับตำนานกว่า 80 ปี นานขนาดนี้คนยังแน่นร้านตลอดเหมือนเดิม อร่อยทุกอย่างทั้งซาลาเปาไส้ต่างๆ ขนมจีบ ฮะเก๋า แฮ่กึ้น ฟองเต้าหู้ห่อกุ้ง ฯลฯ ด้วยสูตรลับประจำตระกูลนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นร้านเล็กๆ แต่คุณภาพไม่น้อยเลยทีเดียว ราคาจับต้องได้ เดินทางไม่ยาก บอกเลยว่าสายอาหารจีนไม่ควรพลาด

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/zv4U5dJ7Cva3onXb8
  • ที่อยู่ : 119-121 ซอยอิสรานุภาพ ถนนเจริญกรุง แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
  • เปิดบริการ : 07.00 – 16.00 น.
  • โทร : 0-2222-6477
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/chendimsum

 

================

 

7. Fei Ya

 

         ร้านเฟยยา ภัตตาคารจีนที่ได้รับรางวัล Thailand’s Best Restaurant ถึง 5 ปีติดต่อกัน (2011-2015) อยู่ที่ชั้น 3 โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพ ด้วยบุฟเฟ่ต์ติ่มซำที่มีให้เลือกกว่า 30 อย่าง ตัวร้านตกแต่งมาในสไตล์จีนโมเดิร์นน่านั่ง เหมาะสำหรับครอบครัวสุดๆ รสชาติต้นตำรับ แต่ยังแฝงเมนูอาหารฟิวชั่นสไตล์จีนอีกด้วย

 

  • พิกัด : https://g.page/feiyabkk?share
  • ที่อยู่ : 518/8 Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 
  • เปิดบริการ : 11.30 – 21.00 น.
  • โทร : 0-2125-5000
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/feiyabkk

 

================

 

8. ฟุกหยวน (Fook Yuan)

 

 

      ติ่มซำสูตรต้นตำรับแท้ๆ แบบเต็มปากเต็มคำ คำโตๆ ใน “สวนแห่งจักรพรรดิ” ห้องอาหารฟุกหยวน (Fook Yuan) ห้องอาหารจีนที่ขึ้นชื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศนี้ในเรื่องของติ่มซำเลยก็ว่าได้ ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน ไฮไลท์อยู่ที่ซาลาเปาไส้ครีมชาเขียว ขนมจีบ ฮะเก๋ากุ้งชิ้นโตๆ และเคาหยกสูตรกวางตุ้ง บอกเลยว่าห้ามพลาด

อ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ : ฟุกหยวน ติ่มซำ คำโต สุดยอด อาหารจีนรสดั้งเดิม สไตล์กวางตุ้ง โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/MKNLFCVqcqv4cH9Q6
  • ที่อยู่ : 92 ซอยโรงพยาบาลพระราม 9 บางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
  • เปิดบริการ : 11.30 – 14.30 น. / 06.00 – 22.30 น.
  • โทร : 0-2641-4777 ต่อ 1138
  • เว็บไซต์ : www.goldentulipbangkok.com

 

================

 

9. หลิวเซียงฟง

 

       ร้านอาหารจีนชื่อดัง ร้านนี้มีจุดเด่นอยู่ที่เมนูเป็ดปักกิ่งรสเลิศ พร้อมด้วยคาราวานติ่มซำกว่า 50 แบบให้เลือกสั่งไปฟินกันได้ที่บ้าน ถือเป็นร้านที่รวบรวมเมนูติ่มซำไว้เยอะไม่แพ้ร้านอื่นจริงๆ แต่ละเมนูหากินได้ยาก สไตล์จีนแท้ๆ บอกเลยว่าคนรักอาหารจีนต้องห้ามพลาดกับร้านนี้เลยละ

 

 

================

 

10. ตงเพ้ง ภัตตาคาร

      ภัตตาคารอาหารจีนกวางตุ้ง-แต้จิ๋ว ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมานานกว่า 33 ปี ปัจจุบันร้านมีเมนูต้นตำรับ และเมนูฟิวชั่นมากมาย แต่ส่วนใหญ่เน้นรสแท้แบบคนจีนเกือบทั้งหมด ทำให้สามารถสั่งมากินได้ทั้งครอบครัว มีทั้งของกินเล่น อาหารจานหลักมากมาย พร้อมด้วยเมนูติ่มซำที่เริ่มต้นเพียงเข่งละ 30 บาท เข้าไปเลือกเมนูที่ชอบกันเลย

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/XsrpT3NUz79wNiR3A
  • ที่อยู่ : 89-91 ซอยลาดพร้าว 5 ถนนลาดพร้าว 53 โชคชัย 4 ซอย 5 แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร
  • เปิดบริการ : 10.00 – 22.00 น.
  • โทร : 0-2539-1343, 0-2539-1984
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/TongPengChineseRestaurant/

 

================

 

11. ฮองมิน ภัตตาคารอาหารจีน

      ร้านอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งต้นตำรับ ที่ร้านมีเมนูอาหารจีนยอดนิยมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้เลือกมากมาย จุดเด่นคือที่ร้านปรุงแต่ละเมนูอย่างพิถีพิถัน ทำให้คนกินได้ลิ้มรสความเป็นจีนแบบแท้จริง เมนูขายดีของร้านมีมากมายกว่า 50 เมนูเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น เป็ดปักกิ่ง เป็ดย่าง ติ้มซำ และอีกเพียบ

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/MdL72SKWKhPNpphH9
  • ที่อยู่ : 444 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร (มีหลายสาขา)
  • เปิดบริการ : 09.30 – 21.00 น.
  • โทร : 08-8248-0123
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/hongminfanpage

 

================

 

12. Din Tai Fung

      ลูกหลานมังกรต้องกดเลิฟ เราขอพสกทุกคนมาที่ร้านอาหารสไตล์จีนไต้หวัน Din Tai Fung (ติ่น ไท่ ฟง) การันตีคุณภาพระดับมิชลินสตาร์ เมนูเด็ดที่ห้ามพลาดของที่ร้านจะเป็นะไรไปไม่ได้นอกจากเมนู เสี่ยวหลงเปา และเกี๊ยวราดซอสพริกสูตรต้นตำรับ นั่นเองค่ะ รสชาติอร่อยละมุนลิ้น ชิ้นเดียวไม่เคยพอ

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/aqXcaMNuF5TUn5uT7
  • ที่อยู่ : 999/9 ถนนพระรามที่ ๑ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร (มีหลายสาขา)
  • เปิดบริการ : 11.30 – 22.00 น.
  • โทร : 0-2646-1282
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/DinTaiFungTh

 

================

 

13. Chef Man Restaurant

 

 

      Chef Man ถือเป็นภัตตาคารอาหารจีนในตำนาน ขวัญใจครอบครัวคนจีนมาอย่างยาวนาน เพราะที่นี่นอกจากเมนูอาหารจีนจะมีให้เลือกมากมายแล้ว ยังอร่อยตามแบบฉบับต้นตำรับ ที่สำคัญ มีเมนูติ่มซำที่พลาดไม่ได้ โดยเฉพาะขนมจีนกุ้งที่ใช้กุ้งเป็นตัวเลยทีเดียว กัดเข้าไปเต็มปากเต็มคำ สายอาหารจีน ไม่ควรพลาด

 

 

14. Ahyat Abalone Arnoma Hotel Bangkok

 

      
       Ahyat Abalone Arnoma ร้านภัตตาคารจีนในโรงแรม Ah Yat Abalone ร้านติ่มซำฮ่องกงสุดหรูในโรงแรมรามาดาพลาซ่า ชั้น 2 เป็นร้านอาหารจีนที่เน้นไปที่ติ่มซำสตไล์ฮ่องกง รสชาติเหมือนบินไปกินที่ฮ่องกงเลยทีเดียว มีเมนูเด็ดที่มาแล้วพลาดไม่ได้คือ ฮะเก๋า แป้งบาง ไส้กุ้งแน่น ๆ และเสี่ยวหลงเปาเซี่ยงไฮ้ ที่หากินได้ยาก

 

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/he4nH2GipW3obSdg8
  • ที่อยู่ : 99 ถนนราชประสงค์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
  • เปิดบริการ : 11.00 – 15.00 น. / 06.00 – 23.00 น.
  • โทร : 0-2255-0357
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/ahyatrnoma

 

================

 

15. HONG BAO

 

 

     HONG BAO ร้านอาหารจีนสไตล์กวางตุ้ง ที่หากินได้ยาก ที่นี่มีพื้นที่รองรับในรูปแบบครอบครัว สามารถมาเป็นครอบครัวใหญ่ได้ นอกจากนี้ยังมีเมนูติ่มซำสุดอร่อย ที่สายนี้ไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็น ฮะเก๋ากุ้ง และ ก๋วยเตี๋ยวหลอดหมูแดงอบน้ำผึ้ง ที่หากินได้ที่นี่เท่านั้น เป็นอีกหนึ่งร้านที่ครอบครัวไม่ควรพลาด

 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/uP3kQ9t9rP7LCvdq5
  • ที่อยู่ : 104 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
  • เปิดบริการ : 11.00 – 14.30 น. / 17.30 – 22.00 น. เสาร์ อาทิตย์ 10.30 – 22.00 น.
  • โทร : 09-2273-5242, 09-4415-7777
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/hongbaorestaurant

 

================

สูตรทำ เต้าฮวย ฟรุ้ตสลัด อร่อยสดชื่น ทำขายกำไรดี

        แดดร้อนๆ แบบนี้ ต้องหาเมนูสดชื่นๆ เพิ่มความเฟรชกันสักหน่อย ! แน่นอนว่า สูตรขนม ทำง่ายๆ ของเราในวันนี้ต้องอร่อย สดชื่น ถูกปากสายกินแน่นอนค่ะ กับ สูตรทำ เต้าฮวย ฟรุ้ตสลัด ทำไว้กินเองฟินๆ ที่บ้านก็ดี หรือจะทำขายก็เวิร์ค ! บอกเลยว่าทำไม่ยากอย่างที่คิด ผลไม้อะไรก็ใส่ได้ตามใจชอบ รับรองว่าทำเก็บเก็บไว้แฮปปี้ทั้งบ้านแน่นอน ว่างๆ ก็ขายได้ปังไปอี๊กกก ! เมนูดีต่อใจขนาดนี้จะพลาดไม่ได้แล้วจ้า ตามไปดูวิธีทำ แล้วออกไปซื้อวัตถุดิบกันได้เล้ยยย

 

 

สูตรทำ เต้าฮวย ฟรุ้ตสลัด

 

คลิกดู คลิปวิธีทำด้านล่าง

ส่วนผสม เต้าฮวย

  • ผงวุ้น 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 200 กรัม
  • น้ำ 750 กรัม
  • นมสดจืด 300 กรัม
  • นมข้นจืด 150 กรัม
  • กลิ่นวนิลา 2 ช้อนชา

ส่วนผสม ฟรุ้ตสลัด

  • สตรอว์เบอร์รี่ 1 ถ้วย
  • สับปะรด 1 ถ้วย
  • กีวี 1 ถ้วย
  • ลูกชิด 1/2 ถ้วย
  • องุ่นเขียว 1 ถ้วย
  • แคนตาลูป 1 ถ้วย
  • น้ำ 400 มิลลิลิตร
  • น้ำตาลทราย 180 กรัม

วิธีทำ เต้าฮวย ฟรุ้ตสลัด

  1. ตั้งหม้อน้ำ ใส่ผงวุ้นลงไป เมื่อเดือดแล้ว ต้มต่อประมาณ 1-2 นาที ให้ผงวุ้นละลายดี
  2. ใส่น้ำตาลทรายตามลงไป ปรับความหวานได้ตามชอบ คนให้ละลาย แล้วใส่กลิ่นวนิลา ต้มต่อให้เดือดอีกรอบ
  3. เมื่อน้ำตาลละลายดีแล้ว ใส่นมสดจืด คนให้เข้ากัน ตามด้วยนมข้นจืด คนนิดหน่อยพอเข้ากัน แล้วปิดไฟ
  4. พักไว้พออุ่น ตักใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ ถ้ามีฟองอากาศให้ช้อนฟองออก แล้วพักไว้ให้เซ็ตตัว
  5. ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด เมื่อน้ำเดือดแล้วใส่เกลือ และน้ำตาลทราย คนให้ละลาย เคี่ยวต่อนิดหน่อย
  6. ลดไฟลง ใช้ไฟอ่อน ใส่ผลไม้สีอ่อนลงไปต้มก่อน เดือดนิดหน่อยแล้วรีบตักขึ้น ทำจนครบผลไม้ทุกชนิด
  7. น้ำเชื่อมที่ได้จากการต้มผลไม้ ให้ใส่ถ้วยไว้ด้วย แล้วพักผลไม้ไว้ให้เย็น
  8. เมื่อทุกอย่างเย็นแล้ว ให้จัดหน้าผลไม้ลงไปในถ้วยเต้าฮวยได้เลย

 

🙏 ขอบคุณคลิปและข้อมูลจาก